บทที่ 534-2 กลับมาจากห้วงบรรพกาล (2)
เหตุการณ์นี้ล้วนเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วเสี้ยวพริบตาเท่านั้น
เพียงพริบตาร่างของปลัดเขตปกครองก็ไม่เหลือเป็นคนแล้ว ขาทั้งสองของเขาก็เช่นกัน เลือดเนื้อหายไปสิ้น กระดูกแหลกละเอียด จวบจนตัวเริ่มสลาย แขนขาหายไปจนหมด
มีเพียงกระดูกสันหลังที่เชื่อมกับศีรษะ
ท่ามกลางความสยดสยอง กระดูกสันหลังก็ไม่อาจทนไหว สลายไปอย่างเห็นได้ดด้วยตาเปล่า จากนั้นก็แผ่ระลอกไปถึงศีรษะ
ใบหน้าครึ่งหนึ่งหายไปในฟ้าดิน
แต่จู่ๆ กลับมีประกายแสงสีทองกลุ่มหนึ่งทอแสงออกมาจากใบหน้าอีกครึ่ง ปกคลุมใบหน้าทั้งหมดอย่างรวดเร็ว คล้ายว่าเป็นหน้ากากไม่สมบูรณ์สีทองอันหนึ่ง
แสงนี้เจิดจ้าพร่างพราย แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้
โหวเหยาและชิงฉิน ยังมีนายท่านเจ็ดตลอดจนผู้บำเพ็ญทั้งหมดที่นี่ รวมถึงสวี่ชิง พลังกระบี่นี้ ในเสี้ยวพริบตานี้หยุดอยู่หน้าเสี้ยวหน้า
ไม่ว่าจะปะทุอย่างไรก็ไม่อาจทำลายมันได้แม้เพียงเล็กน้อย
มองไกลๆ เสี้ยวหน้าสีทองหลับตากลางท้องฟ้า ทำให้คนรู้สึกคุ้นไปตามสัญชาตญาณ ในยามที่เกิดระลอกคลื่นในใจของทุกคน เสี้ยวหน้าของปลัดเขตปกครองก็ลืมตาขึ้น
สายตาจับจ้องมาที่เมืองหลวงเขตปกครอง
เพียงพริบตาฟ้าดินเปลี่ยนสี ทั่วสารทิศเมฆซัดโหม พลังดวงชะตาร้องคร่ำครวญ มนุษย์ธรรมดาน้ำตาไหลเป็นเลือด
ไอพลังประหลาดมหาศาลลงมาเยือนท่วมฟ้าในเสี้ยวพริบตานี้ บนต้นไม้ใบหญ้า บนตัวคน บนสิ่งก่อสร้าง จากทั่วทุกพื้นที่ พวยพุ่งขึ้นมาจากทุกสิ่ง!
ท้องฟ้าหมองมัว พื้นดินบิดเบี้ยว
ประดุจวันสิ้นโลกมาเยือน
ภาพคุ้นเคยนี้ทำให้ทุกคนต่างจำได้ ต้นกำเนิดพลังที่คุ้นเคยจากเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองที่ลอยอยู่บนกลางท้องฟ้า…เขากับเสี้ยวหน้าเทพเจ้าบนท้องฟ้า ในด้านบาดแผล ด้านลักษณะรูปร่าง เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน!
นอกจากหน้าตาที่ไม่เหมือน สิ่งอื่นที่เห็นไม่มีอะไรแตกต่าง
ผู้บำเพ็ญหลายแสนต่างหวาดกลัว ประชาชนคนธรรมดาในเมืองหลวงเขตปกครองต่างกรีดร้องเสียงหลง
ท้องฟ้าเดือดพล่าน หมอกเมฆแผ่ไปทั่วทุกทิศเลื่อนลั่น เหมือนมีมือเทพเจ้าที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งแหวกม่านฟ้า เผยให้เห็นขอบฟ้าสลัว และเผยให้เห็นเสี้ยวหน้าเทพเจ้าที่คงอยู่มาตลอดหลังจากยุคจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวบนท้องฟ้านั่น
ผมขององค์ท่านห้อยลงมาตามธรรมชาติ ขนาดขององค์ท่านใหญ่กว่าดวงตะวันจันทรา
องค์ท่านลอยอยู่นอกแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ สรรพชีวิตในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์เงยหน้าก็มองเห็น
บางทีอาจเป็นเพราะมองเห็นอยู่ตลอด ดังนั้นหลายครั้งผู้คนก็ชินกับองค์ท่านแล้ว แต่ในเสี้ยวขณะนี้ สรรพชีวิตทั้งหลายจำต้องเงยหน้า ท่ามความเจ็บปวดนี้ มองไปที่องค์ท่าน
เปลือกตาขององค์ท่านขยับเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยังไม่ลืมตาขึ้นมา
แต่ข้างล่างองค์ท่าน การลืมตาของเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองกลางท้องฟ้าก็ยังคงสั่นคลอนฟ้าดินได้
ตอนนั้นองค์รัชทายาทม่วงครามก็แค่เปิดกล่องใบหนึ่งที่พันธมิตรแปดสำนักเท่านั้น
แค่ตอนนี้ สายตาที่ปรากฏในเมืองหลวงเขตปกครองน่ากลัวว่ากล่องในตอนนั้นเสียอีก
ฟ้าดินบิดเบี้ยว สรรพสิ่งรางเลือน เสียงร้องคร่ำครวญดังก้องท้องฟ้าทั่วสารทิศ สายตาของเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองมองไปทางโหวเหยา
ร่างของโหวเหยาสั่นสะท้านบ้าคลั่ง เหนือศีรษะมีดอกไม้สามสีปรากฏขึ้นมา บนดอกไม้ทั้งสามดอกมีเงาร่างของโหวนภานั่งอยู่ แต่เหมือนว่าสายเลือดของโหวเหยาไม่บริสุทธิ์ จึงเป็นเหตุให้เงาไม่สมบูรณ์ ยากจะก่อร่างขึ้นมาได้สมบูรณ์ หลังจากที่สลายไปในฟ้าดิน ดอกไม้สามสีก็ถูกทำลายไปสองดอก
เหลือเพียงหนึ่งดอกแต่ก็เหี่ยวแห้งไป คุณสมบัติสายเลือดไม่พอ จึงถูกลงโทษ
ท่ามกลางเสียงระเบิดดังสนั่น โหวเหยากระอักเลือด บาดเจ็บสาหัสถอยหลัง ปากคำรามเสียงต่ำ
“เจ้าสังเวยตัวเองให้เป็นสมบัติดินแดนครึ่งชิ้นหรือนี่!”
เสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองไม่มีการเปลี่ยนแปลงสีหน้าใดๆ ทั้งสิ้น มองไปทางชิงฉิน
ชิงฉินส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างรางเลือน ข้างหลังมีเงาบรรพกาลพวยพุ่งออกมา คล้ายว่ากลืนกินฟ้าดินได้ สายเลือดแม้บริสุทธิ์ แต่คุณสมบัติสายเลือดก็ยังไม่พอ
จากนั้น สายตาของเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองมองไปที่นายท่านเจ็ด
ข้างหลังนายท่านเจ็ดมีมือหยกขาวปรากฏขึ้น ท่ามกลางแสงพร่างพรายระยิบระยับ มีเค้าว่ามีต้นกำเนิดพลังเดียวกับเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครอง ละเว้นการพิพากษาคุณสมบัติกายได้ แต่พลังบำเพ็ญไม่พอ ตอนนี้ทวารทั้งเจ็ดเลือดรินหลั่งเช่นกัน ขณะที่จำต้องถอย เขาจ้องปลัดเขตปกครอง
‘ก่อนหน้านี้ข้ายังสงสัย จื่อชิงกลับชาติเกิดเพราะเก่งกาจเลิศล้ำ แต่เจ้าไป๋เซียวจัวไยจึงทำได้เช่นกัน ทว่าตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าไยจึงกลับชาติเกิดได้ เจ้า ช่างใจกล้านัก!’
ปลัดเขตปกครองเงียบนิ่ง สายตากวาดมองรองเจ้าวังทั้งสาม ทั้งสามวิญญาณฉีกบาดเจ็บสาหัส กวาดตามองผู้ดูแลทั้งสามวังต่างร่างกายเป็นสีดำคล้ำ เริ่มกลายพันธุ์
มิติทั้งหมดถูกควบคุมเอาไว้จนสิ้น
ส่วนบนพื้น จะผู้บำเพ็ญก็ดี หรือจะเป็นคนธรรมดาก็ดี ล้วนเจ็บปวดร้องครวญคราง
ทั้งเขตปกครองกำลังผลิกผัน เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ต้องห้าม
ฝนเลือดมาพร้อมด้วยเสียงสายฟ้าฟาดครืนครัน ซัดสาดมายังผืนดิน ทำให้เมืองหลวงเขตปกครองอยู่ท่ามกลางสายฝน ยิ่งเมื่อสาดไปบนรูปสลักจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวแล้วไหลจากหน้าผากไปยังหางตา ราวกับน้ำตาเลือด
หากเขาลืมตาได้ เช่นนั้นตอนนี้พื้นที่เมืองหลวงเขตปกครองที่เห็นประดุจเมืองผี
ต้นกำเนิดทุกอย่างคือเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครอง
ส่วนหุ่นเชิดสองตัวที่ปลัดเขตปกครองเอาออกมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้เศษเสี้ยววิญญาณในนั้นหายไปแล้ว พวกมันไม่ได้รับอิทธิพลอีกต่อไป ฟื้นฟูความเคลื่อนไหว ทำตามคำสั่งที่มีแต่เดิม พุ่งตรงไปหานายท่านเจ็ด โหวเหยาและชิงฉิน
และการเปียกปอนฝนเลือดก็เผยให้เห็นวัตถุที่แต่เดิมมีอยู่ในตัวพวกมันแต่คนอื่นมองไม่เห็นออกมา นั่นเป็นแสงแต่ละทางๆ ที่ส่องออกมาจากรอยเย็บบนร่างพวกมัน
ในตัวพวกมันต่างมีกล่องใบหนึ่ง
เหมือนฉู่เทียนฉวิน หุ่นเชิดที่ถูกปรับเปลี่ยนสองตัวนี้ความจริงแล้วก็คือร่างทดสอบเทพเจ้าเหมือนกัน อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่าพัฒนาขึ้นไปอีก
หากบอกว่าไป๋ลี่เป็นร่างทดสอบเทพเจ้ารุ่นแรก เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องเป็นร่างทดสอบเทพเจ้ารุ่นที่สอง ฉู่เทียนฉวินเป็นรุ่นสองที่สมบูรณ์ เช่นนั้นหุ่นเชิดสองตัวนี้ก็คือรุ่นที่สาม!
นี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกมันมีพลังบำเพ็ญระดับหวนสู่อนัตตาขั้นสามบริบูรณ์แต่กลับปะทุกำลังรบได้เทียบเท่ากับขั้นสี่ แต่พวกมันยังไม่สามารถสร้างโลกใบใหญ่ได้ มีเพียงโลกใบเล็กนับไม่ถ้วนเท่านั้น
จุดนี้ ก่อนหน้านี้ที่หุ่นเชิดตัวแรกโจมตีชิงฉินนายท่านเจ็ดก็ค้นพบแล้ว
ตอนนี้จากสายตาที่กวาดมองของปลัดเขตปกครอง เสียงระเบิดสังหารดังก้องท้องห้าอีกครั้ง
แผ่นดินมืดมิด สวี่ชิงยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น เขาเห็นความอเนจอนาถน่าสังเวชรอบๆ ได้ยินเสียงโหยหวนครวญครางของสรรพชีวิต โลกในดวงตาของเขารางเลือนไปหมด ทุกคนล้วนกำลังเจ็บปวดทรมาน


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา