บทที่ 549 อาชิงน้อย พร้อมทำการใหญ่หรือยัง
จุดศูนย์กลางของชายแดนแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์และแผ่นดินใหญ่สีคราม ก็คือต้นสิบลำไส้
จากต้นสิบลำไส้ไปที่เขตปกครองผนึกสมุทร แผ่นดินใหญ่ที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสีครามผืนนี้ กองทัพใหญ่เขตปกครองผนึกสมุทรกำลังพุ่งทะยานไปด้านหน้าหวีดหวิว
เรือศึกบินขนาดยักษ์ลำหนึ่ง กำลังเคลื่อนทะยานผ่านท้องนภา
ราชโองการของจักรพรรดิเผ่ามนุษย์ครั้งนี้ แม้จะไม่ได้เป็นประโยชน์กับเขตปกครองผนึกสมุทรโดยตรง แต่การถ่วงดุลองค์ชายเจ็ดรวมถึงการปรากฏตัวขององค์หญิงอันไห่ก็ทำให้เขตปกครองผนึกสมุทรแต่เดิมที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร กลายเป็นพิเศษขึ้นมาทันที
แต่ละครที่ทั้งสองฝ่ายแย่งชิงกันดึงเขตปกครองผนึกสมุทรมาเป็นเช่นนั้น เป็นแค่จินตนาการในความรู้ความเข้าใจทั่วไป อันที่จริงสำหรับฐานะระดับราชวงศ์ แม้จะมีเรื่องการดึงเป็นพวกอยู่ แต่ก็จะไม่มากเกินไป
ส่วนที่องค์ชายเจ็ดมอบให้อีกสี่มณฑล คิดว่าความนัยคงไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้นแน่นอน
เพราะพวกเขาไม่มีทางอนุญาตให้เขตปกครองผนึกสมุทรกลายเป็นตุ้มถ่วงตัวสำคัญ ข้อเท็จจริงย่อมปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อขอแค่เขตปกครองผนึกสมุทรไม่ทำตัวโง่เขลา เช่นนั้นในภายภาคหน้าสักวัน จะได้รับการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างมากแน่นอน
และนี่ก็เป็นสิ่งที่เขตปกครองผนึกสมุทรต้องการเช่นกัน
สวี่ชิงผ่อนลมหายใจยาว
เขาในตอนนี้ กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องลับเรือศึกบรรพกาล ฝึกบำเพ็ญเสร็จสิ้นแล้ว และลมหายใจที่เขาพ่นออกมา ก็ค่อยๆ สลายไปตรงหน้าเขาอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า
หมอกนี้แฝงไว้อุณหภูมิสูงเอาไว้ ขณะที่สลายหายไป ก็ทำให้อุณหภูมิในห้องลับสูงขึ้น เปลี่ยนเป็นร้อนระอุ
สวี่ชิงมองหมอกไอด้านหน้า สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิด้านใน สองตาเปล่งประกาย
“คิดไม่ถึงเลย ว่าการมาต้นสิบลำไส้รอบนี้ จะได้ของสิ่งนี้มา!”
สวี่ชิงพึมพำ หัวใจเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย ระลอกคลื่นอารมณ์สาดซัด
ต้นกำเนิดของทั้งหมด มาจากเปลวไฟในกาเฉียนคุนนั่น
จากการศึกษาของสวี่ชิงหลายวันมานี้ เขาไม่เพียงแต่มั่นใจว่าไฟในกาเฉียนคุนไม่อันตราย ยิ่งมั่นใจว่ามีผลในการหลอมตะเกียงชีวิตด้วย!
เปลวไฟนี้แปลกประหลาด หลังจากสูดรับเข้าสู่ร่างกาย สามารถชักนำให้ผลึกวารีสีม่วงสูดรับเอง
เข้าไปและปรากฏการเปลี่ยนแปลงที่เหลือเชื่อบางอย่างออกมา เปล่งแสงสีม่วงเจิดจ้าส่องสะท้อนทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง ส่องตะเกียงชีวิตในหมอกแห่งชะตา ทำให้ตะเกียงชีวิตหลอมละลาย!
การหลอมละลายนี้ ไม่ได้สลายหายไป แต่เปลี่ยนแปลงลักษณะของตะเกียงชีวิต
สวี่ชิงฝึกบำเพ็ญมาจนถึงตอนนี้ไม่เคยเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน ในความรู้ความเข้าใจของเขา ตะเกียงชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่อาจทำลายได้
จุดนี้ในข้อมูลที่สวี่ชิงอ่านมาทั้งหมดก็มีให้เห็น
“แสงนอกพิภพ?”
สวี่ชิงพึมพำ แต่ไม่นานนักก็ตัดการคาดเดานี้ทิ้งไป
เพราะการบรรยายเกี่ยวกับเจ้าเหนือหัวจักรพรรดิโบราณที่เคยได้รับแสงนอกพิภพ ก็บรรยายแค่ว่าอีกฝ่ายใช้แสงนอกพิภพ ผสานสายเลือดเข้าไปในตะเกียงชีวิต ทำให้ตะเกียงชีวิตกลายเป็นของของตัวเอง
ซึ่งไม่เหมือนกับสิ่งที่สวี่ชิงพบในด้านคุณสมบัติตอนนี้
และจุดสำคัญในการศึกษาของสวี่ชิงหลายวันมานี้ก็คือการหลอมละลายนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่ตะเกียงชีวิตหลอมละลายจนหมดและไม่อาจใช้การได้อีกหรือไม่
“ไม่หรอก!”
สวี่ชิงยกมือ อัญมณีสีแดงขนาดเล็บนิ้วมือเม็ดหนึ่ง ปรากฏขึ้นในมือ
เขาพิสูจน์มาแล้ว ในระหว่างที่ตะเกียงชีวิตหลอมละลาย จะกลายเป็นวัตถุที่ไม่อาจจับต้องได้แผ่ซ่านอยู่ในทะเลความรู้สึก ผสานเข้าไปในสายโลหิตของตนเอง อาจจะทำให้สายโลหิตเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมเล็กน้อย
ขณะเดียวกันสิ่งเจือปนถูกทำให้เจือจาง อย่างเช่นอัญมณีสีแดงนี้ ก็คือส่วนที่ตะเกียงชีวิตหลอมละลายไม่อาจผสานเข้าไปในสายโลหิตได้
สวี่ชิงไม่รู้ว่าอัญมณีสีแดงนี้ใช้ทำอะไรได้ เมื่ออยู่ในมือเขาก็สัมผัสได้ว่าของสิ่งนี้มีกลิ่นอายตะเกียงชีวิตบางส่วน เปล่งประกายแสงขึ้นมาเอง แผ่ความร้อน
หลังจากตรวจสอบ สวี่ชิงก็เก็บอัญมณีสีแดงนี้ ดวงตาฉายแววคาดหวัง
‘หากมีไฟชนิดนี้เพียงพอ ก็สามารถกระตุ้นแสงของผลึกวารีสีม่วงได้มากขึ้น จากนั้นทำให้ตะเกียงชีวิตทั้งหมดของข้าหลอมละลาย ผสานไปในสายเลือด
‘ถึงตอนนั้น…เพียงแค่ข้านึกคิด ก็จะใช้วัตถุนี้หล่อตะเกียงชีวิตที่เป็นของข้าออกมาได้หรือไม่!’
วิธีนี้ สวี่ชิงคิดว่าในทางทฤษฎีทำได้ แต่แตกต่างกับของเจ้าเหนือหัวจักรพรรดิโบราณ อีกฝ่ายผสานสายโลหิตในตะเกียงชีวิต จากนั้นก็เปลี่ยนตะเกียงชีวิตเป็นของตัวเอง
แต่สวี่ชิงตรงกันข้าม เขาละลายตะเกียงชีวิต ทำให้มันกระจายเข้าสู่สายโลหิต ใช้สายโลหิตของตนหล่อหลอม
“แม้จะใช้ได้ในทางทฤษฎี แต่สุดท้ายก็ยังต้องพิสูจน์ ดังนั้นจุดสำคัญคือต้องมีเปลวไฟชนิดนี้เพียงพอ!”
สวี่ชิงก้มหน้า มองกาเฉียนคุน
ไฟด้านในนั้นใช่ว่ามีไม่จำกัด ช่วงนี้ในการทดลองของสวี่ชิงก็ใช้ไปแล้วกว่าครึ่ง ตอนนี้เหลือไม่ถึงหนึ่งส่วน
ส่วนที่มาของมัน ช่วงที่สวี่ชิงอยู่ที่ต้นสิบลำไส้ก็สอบถามผู้อื่นไปบ้างแล้ว และได้คำตอบมาจากเจ้าวังหลี่อวิ๋นซาน
“สิ่งนี้คือเพลิงสวรรค์ของชายแดนแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราและแผ่นดินใหญ่ทักษิณคีรี!
“แผ่นดินใหญ่ทักษิณคีรี คืออาณาเขตส่วนหนึ่งของเผ่านภาคิมหันต์ อยู่ทางใต้สุดของรัฐ มีประโยชน์ด้านยุทธศาสตร์ ที่นั่นมีอาณาเขตติดกับแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา เป็นจุดเชื่อมต่อของทั้งสองแผ่นดินใหญ่ มีทะเลอยู่ภายในรัฐ ไม่ได้มีน้ำเป็นองค์ประกอบ แต่เกิดจากเปลวไฟ เปลวไฟในนั้นมีพลานุภาพน่าตกตะลึง ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไรก็จะยิ่งน่ากลัว แผดเผาได้ทุกสรรพสิ่ง”
“แต่ทะเลเพลิงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ลงมาจากฟากฟ้า
“ศูนย์กลางของทะเลเพลิงสวรรค์นี้ ท้องฟ้าที่นั่นมีรอยแยกอยู่ทางหนึ่ง ทะเลเพลิงไร้สิ้นสุดหลั่งรินลงมาจากในนั้น กลายเป็นน้ำตกเปลวเพลิงขนาดใหญ่ จากนั้นก็ค่อยๆ กลายเป็นทะเล
“นอกจากนี้ ความพิเศษของเพลิงสวรรค์ หากออกจากพื้นที่ตรงนั้น ก็จะค่อยๆ กลายเป็นไฟธรรมดา มีเพียงวัตถุที่พิเศษบางอย่างจึงสามารถกักเก็บมันไว้ได้ เห็นได้ชัดว่ากาเฉียนคุนของเจ้าใบนี้ใช้วัตถุนั้นตีขึ้นมา สามารถรักษาเอาไว้ได้เป็นเวลานาน”
นี่คือคำพูดของหลี่อวิ๋นซาน
สวี่ชิงนึกถึงรอบหนึ่ง ในสมองก็เข้าใจพื้นที่ส่วนหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ทางใต้มากขึ้น จากนั้นจึงมีภาพแผนง่ายๆ ที่เคยเห็นจากในข้อมูลปรากฏขึ้น
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขตปกครองผนึกสมุทร บัดนี้คือแผ่นดินใหญ่สีคราม และทางเหนือของแผ่นดินนี้คือแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ และตำแหน่งทางตะวันตกของคลื่นศักดิ์สิทธิ์ มีแม่น้ำสายยาวสายหนึ่งที่ชื่อว่าเซ่นทมิฬ
ด้านหลังแม่น้ำนี้ ก็คือแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราที่ลึกลับ
ทางชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือของแผ่นดินนี้ อยู่ติดกับชายแดนเผ่านภาคิมหันต์


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา