บทที่ 548 ผู้ใดแตะเกล็ดคอมังกรของผนึกสมุทร ต้องตาย! (2)
……….
พริบตาที่ปรากฏตัว เขาก็ล้วงยาแก้พิษออกมากลืนลงไปทันที ดวงตาฉายแววเยือกเย็นมืดมน มองไปทางสวี่ชิงที่ถูกเปลวเพลิงครอบคลุม กำลังจะอ้าปาก เพียงพริบตาเขาก็หน้าถอดสี
ทะเลเพลิงที่ครอบคลุมสวี่ชิง ตอนนี้กลับเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด และแค่สองอึดใจ เปลวเพลิงทั้งหมดก็ถูกสวี่ชิงสูดเข้าไปในปากแล้วกลืนลงไป
ร่างของสวี่ชิงปรากฏขึ้นจากการสลายไปของเปลวเพลิง สีหน้าของเขาค่อนข้างประหลาดใจ สายตาไปหยุดที่กาเฉียนคุนที่หลั่วจิ้นซงถืออยู่ ประกายประหลาดพาดผ่านอย่างไม่ทันจับสังเกตได้
‘แม้ตระกูลหลัวจะตกต่ำ แต่เคล็ดวิชาของบรรพจารย์โหวนภาของตระกูลในตอนนั้นยังคงสืบทอดต่อกันมา มีชื่อว่าเคล็ดวิชากฎเกณฑ์ฟ้าทมิฬ ทุกครั้งที่ผลัดร่างกฎเกณฑ์ ก็จะได้รับการหนุนนำกายเนื้อเพิ่มขึ้น’
เมิ่งอวิ๋นไป๋ส่งสื่อเสียงมาที่ข้างหูสวี่ชิง
สวี่ชิงไม่สนใจ และตอนนี้ผู้คนรอบๆ จำนวนไม่น้อยลุกขึ้น ส่งเสียงห้ามปราม
“หยุดลงมือ!”
“ลงไม้ลงมือกันในที่เช่นนี้มันไม่เหมาะสม!”
“ทั้งสองท่าน เรื่องต่างๆ ใช่ว่ามีแค่การฆ่าฟันที่เป็นวิธีแก้ปัญหาเพียงอย่างเดียว”
ยิ่งมีหลายคนก้าวออกมา
กระทั่งการต่อสู้ในที่แห่งนี้ดึงดูดความสนใจจากภายนอกด้วย มีองครักษ์พุ่งเข้ามาในตำหนักใหญ่มากมาย
เมื่อหลัวจิ้งซงเห็นเป็นเช่นนี้ ก็ถอนหายใจ ดวงตาฉายแววเย็นชา มองไปทางสวี่ชิง กำลังจะถอยหนี
สวี่ชิงไม่ได้ขัดขวาง เขาเบนสายตาออกมาจากกาเฉียนคุน มองไปทางหลัวจิ้งซง เอ่ยเสียงราบเรียบ
”พิษของข้า เจ้าไม่อาจถอนได้”
หลัวจิ้งซงหน้าเปลี่ยนสี กำลังจะกินยาแก้พิษเพิ่ม แต่ร่างกายกลับสั่นขึ้นมาตามสัญชาตญาณ จากนั้นทั่วทั้งตัวก็ดำคล้ำดำคล้ำอีกครั้ง
เขารู้สึกหวาดผวาเป็นอย่างยิ่ง หอบหายใจถี่ พลังบำเพ็ญไหลเวียนทั่วร่างคิดจะสะกด ยิ่งหันหลังไปมององค์ชายเจ็ดและองค์หญิงอันไห่ ราวกับขอความช่วยเหลือ
แต่เขายังไม่ทันได้กล่าวออกมา เลือดสดสีดำก็หลั่งทะลักออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ลิ้นและใบหู หลุดลงมาบนพื้นก่อน และกลายเป็นน้ำสีดำ เสียงโอดครวญโหยไห้ดังออกมาจากคอหอย ขณะที่น่าลุกขนพอง ร่างของเขาก็เน่าเปื่อยในพริบตา
เลือดเนื้อหลุดต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัดเพียงสี่ห้าอึดใจ ร่างของหลัวจิ้งซงก็แหลกเหลวกลายเป็นน้ำสีดำ
ก่อนที่จะมลายหายไป ตอนสุดท้ายเขามององค์หญิงอันไห่ผาดหนึ่ง ดวงตาที่เหลืออยู่ฉายแวววิงวอน แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
สุดท้ายภาพนี้ทำให้สีหน้าผู้คนรอบๆ เปลี่ยนไปอย่างยิ่ง
วีธีการช่วงชิงปราณก่อกำเนิดของสวี่ชิงก่อนหน้านี้ พวกเขายังไม่รู้สึกอะไร วิชาคล้ายกันนี้ใช่ว่าไม่มี แม้แต่พิษก็เช่นกัน
ทว่าตอนที่กลายเป็นเงาภูตผี ก็ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกตื่นตะลึง
แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา ต่อให้สวี่ชิงตัดศีรษะของหลัวจิ้งซงไปก็เป็นเช่นนั้น
พวกเขารู้ ว่าหลัวจิ้งซงไม่มีทางตาย
ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ทั้งๆ ที่หลัวจิ้วซงแหลกเหลวไปแล้ว แต่พิษยังคงลุกลามรุนแรง ซ้ำยังปะทุอย่างโหดเหี้ยม ดังนั้นสายตาหลายคู่จึงจับจ้องไปที่สวี่ชิง
โดยเฉพาะเมิ่งอวิ๋นไป๋ สายตาที่มองไปทางสวี่ชิง แฝงความอึ้งตะลึง แฝงความหวาดกลัว
ใบหน้าเซียนหลิวหลิงจากจวนรังสรรค์ข้างๆ ฉายแววเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มองแอ่งน้ำสีดำนั้น จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า
“พิษคำสาปเทพ!”
เมื่อนางกล่าวออกมา ทุกคนก็พากันใจสั่นสะท้าน
ดวงตาองค์ชายเจ็ดเปล่งประกายประหลาด องค์หญิงอันไห่ก็จับจ้องสวี่ชิงเป็นครั้งแรก
สวี่ชิงสีหน้าเรียบนิ่ง เดินไปยังจุดที่หลัวจิ้งซงแหลกเหลวกลายเป็นน้ำสีดำอย่างไม่รังเกียจ หยิบกาเฉียนคุนจากในน้ำเลือด หลังจากเก็บไป ก็คารวะองค์ชายเจ็ดและองค์หญิงอันไห่
“กระหม่อมสังหารคนผู้นี้ เพราะเขาลบหลู่วิญญาณวีรบุรุษเผ่ามนุษย์ เจ้าวังคนก่อนเพื่อเผ่ามนุษย์ เพื่อเขตปกครองผนึกสมุทร การเสียสละของเขา คือสิ่งที่แม้แต่จักรพรรดิมนุษย์ก็โทมนัสอย่างยิ่ง ซ้ำยังทรงเห็นชอบให้บรรจุเข้าสู่สุสานวีรชน และต้องได้รับการเคารพจากเผ่ามนุษย์นับแต่บัดนี้
“คนผู้นี้ ในฐานะที่เป็นชนรุ่นหลังของโหวนภา แต่กลับหมิ่นเกียรติวีรบุรุษ ยิ่งมีใจคิดยุยงให้เขตปกครองผนึกสมุทรระส่ำระส่าย จิตคิดเป็นอื่น คาดว่าเป็นพวกเทียนประทีปที่ชั่วช้า สมควรตายพ่ะย่ะค่ะ!”
สวี่ชิงไม่ได้ใส่อารมณืในน้ำเสียงมากนัก สีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแม้แต่น้อย กล่าวจบเขาก็เงยหน้าขึ้น ถอยหลังไปหลายก้าว หันหลังเดินไปหาข่งเสียงหลง
ส่วนจางฉีฝานข้างกายข่งเสียงหลง สวี่ชิงไม่สนใจแม้แต่น้อย เย็นชาถึงขีดสุด
เขาไม่ได้กล่าวถึงเส้นสนกลในของเรื่องในวันนี้ แต่เขาใช้การกระทำบอกกับคนอื่นว่าเขากับข่งเสียงหลง ไม่ใช่ดาบในมือของอีกฝ่าย ไม่ว่าระหว่างพวกเจ้าจะขัดแย้งกันเช่นไร นั่นเป็นเรื่องพวกเจ้า
ไม่เกี่ยวกับพวกข้า
ขณะเดียวกันก็บอกกับทุกคนว่า หากแตะเกล็ดย้อนมังกรของเขตปกครองผนึกสมุทร เช่นนั้นก็มีสิ่งที่ต้องแลก
องค์ชายเจ็ดยิ้มมุมปาก องค์หญิงอันไห่หลุบตาลงเล็กน้อย
ผู้คนรอบๆ เคร่งขรึมจริงจัง และได้รู้จักสวี่ชิงชัดเจนขึ้นอีกเล็กหน่อย
‘คนผู้นี้ ไม่ควรไปยั่วยุ’
นี่คือสิ่งที่พวกเขาเห็นพ้องต้องกัน ส่วนการตายของหลัวจิ้งซง พวกเขาไม่สนใจ เรื่องยุ่งยากของผู้อื่นไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา
และตอนที่สายตาของทุกคนมองตามสวี่ชิงมาจนหน้าประตู จู่ๆ สวี่ชิงก็หยุดฝีเท้า หันหลังมององค์ชายเจ็ด หลังจากใคร่ครวญ ก็เอ่ยออกมา
“องค์ชายเจ็ด สามมณฑลของเขตปกครองผนึกสมุทรได้กลับคืนมาแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อสวี่ชิงกล่าวประโยคนี้ออกมา องค์ชายเจ็ดก็เงียบนิ่ง ใบหน้าองค์หญิงอันไห่ก็คลี่รอยยิ้มที่เข้าใจยาก หยิบจอกสุราขึ้นมาจิบ
ครู่ต่อมา องค์ชายเจ็ดก็ยิ้ม เอ่ยอย่างอ่อนโยน
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา