เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 563

บทที่ 563 ห่านป่าบินไกลสุดหล้า อนิจจาบินไม่พ้นเงาแสงจันทร์ (2)

สวี่ชิงเดินไปเงียบๆ ขณะสะบัดมือประกายแสงอรุณแผ่ออก เขายกมือเปิดกรง เสียงครืนดังขึ้น กลุ่มคนประดุจสินค้า ถล่มลงมาจากในนั้น

แต่ได้รับการปกป้องเอาไว้อย่างระมัดระวังจากสวี่ชิง ทำให้การร่วงลงมาของพวกเขาไม่เกิดอาการบาดเจ็บล้มตายไปมากกว่านั้น

เพียงแต่ภาพแต่ละฉากใต้กรงที่เห็น ทำให้ใจของสวี่ชิงหนักอึ้งเป็นอย่างยิ่ง

ใต้กรง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเศษเนื้อเละๆ ที่ถูกเบียดอัด หลายร้อยคนผสมอยู่ด้วยกัน มีบางร่างที่แม้แต่หน้าก็มองไม่ออกแล้วว่าเป็นใคร…

“พั่นเยี่ยนเล่า…”

สวี่ชิงพึมพำในใจ เดินไปยังกรงถัดไป เปิดประตูกรงแล้วกรงเล่า มองหาเผ่ามนุษย์ที่คุ้นเคยเหล่านั้น เห็นร่างที่เลือดเนื้อแหลกเละ เห็นเศษเนื้อที่ชวนให้อกสั่นขวัญแขวนเหล่านั้น ใจของสวี่ชิงเกิดความเศร้าเสียใจอย่างท่วมท้น

เขาที่เคยเห็นความโหดร้ายในโลกมนุษย์ สำหรับนรกบนดินเช่นนี้ก็ยังไม่อาจเฉยชาได้

โดยเฉพาะเมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้ คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นชีวิตที่งดงาม บนร่างของพวกเขาสวี่ชิงสัมผัสได้ถึงความใสซื่อบริสุทธิ์อย่างน้อยนักที่จะได้เห็น สัมผัสได้ถึงจิตใจที่ดีงามอย่างยากจะหาได้

ในความมืดอันเย็นเยือก พวกเขาที่กอดกันเพื่อความอบอุ่น ยินดีมอบความอบอุ่นของตัวเองให้กับสมาชิกร่วมเผ่าที่หนาวเหน็บมากมาย

แต่ตอนนี้…

สวี่ชิงหลับตา จิตสังหารในใจไม่ได้ลดน้อยลงเพราะการสังหารก่อนหน้านี้เลย กลับยิ่งหนักหน่วง ยิ่งรุนแรงมากขึ้น สะสมอยู่ในใจ อัดจนรังสีอำมหิตของเขาก่อตัวไม่หยุด จนหายใจไม่ค่อยออก

เพราะในเศษเนื้อของกรงใบที่เจ็ด เขาเห็นใบหน้าครึ่งหนึ่ง

ใบหน้าของคู่ฝึกเต๋าของสือพั่นกุย ผู้หญิงที่ทำขนมอร่อยมากๆ คนนั้น…

ร่างของนางถูกบดอัดกลายเป็นเศษเนื้อเละๆ

สวี่ชิงจากไปอย่างเงียบๆ หลังจากเปิดกรงใบสุดท้าย ท่ามกลางกลุ่มคนที่ร่วงหล่นลงมา สายตาของเขาหยุดอยู่ที่มุมพื้นกรง

ตรงนั้นมีมุมของตำราเล่มหนึ่ง

พริบตานี้ ร่างของสวี่ชิงสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ หลังจากที่เขาสะบัดมือ เศษเนื้อบริเวณนั้นก็ค่อยๆ ถูกยกออกไป เผยให้เห็นเป็นเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง

เสื้อของนางรวมไปกับเศษเนื้อ ร่างผอมแห้งเหลือเพียงแค่เสี้ยวเดียว กายท่อนบนที่เหลืออยู่ไม่มาก สองมือกอดตำราสมุนไพรเล่มหนึ่งเอาไว้แน่น

กอดอย่างสุดแรง สุดแรงที่มี

เหมือนว่านี่เป็นความยึดมั่นสุดท้ายของนาง เป็นความหวังสุดท้าย

นางที่มีตัวตนอยู่ที่มุมกรง ก้มหน้าอยู่ ใบหน้าซีดขาวไร้ซึ่งสีเลือด เหมือนว่าหลับไป

สวี่ชิงรู้สึกว่าหน้าอกเจ็บปวดเหลือแสน เขาพยายามหายใจ แต่ร่างกายก็ยังคงสั่นสะท้าน สมองของเขาไม่สามารถควบคุมภาพเมื่อสองเดือนก่อนที่ผุดขึ้นมาได้

ในภาพ เงาร่างผอมแห้งร่างหนึ่ง มาด้วยความขลาดกลัว ถือมันเทศ ถามต้นสมุนไพรกับตน

ในภาพ เด็กน้อยคนนี้เอาต้นหญ้าต้นเล็กๆ ออกมา ถามหาความรู้กับตน

สายตาที่ปรารถนาในความรู้คู่นั้นทำให้สวี่ชิงมีความทรงจำที่ลึกซึ้ง ดังนั้นเขาจึงมอบตำราสมุนไพรของตัวเองให้ รับเป็นลูกศิษย์สายยาคนแรกของตน

“อาจารย์ พวกเราจะได้เจอกันอีกหรือไม่เจ้าคะ”

นี่เป็นประโยคสุดท้ายของเด็กหญิงตัวน้อย

ตอนนี้ ในสายตาของสวี่ชิง เด็กหญิงตัวน้อยที่หลับใหลคนนั้น คล้ายว่าเงยหน้ามองตนอย่างขลาดกลัวถามคำถามดังก้องในสมองของเขา

“ขอเพียงไม่ตาย ก็จะได้พบกันอีก”

สวี่ชิงพึมพำ ประโยคนี้งดงามนัก เพียงแต่…หากตาย ก็จะไม่ได้พบกันแล้ว

สวี่ชิงยืนอยู่ตรงนั้น นาน นานมาก

จวบจนเสียงร้องไห้และเสียงคำรามที่โศกเศร้าโกรธแค้นของบรรพจารย์สำนักวัชระเหมือนว่าดังมาจากที่ไกลๆ ดังก้องอยู่ข้างหูของเขา แล้วค่อยๆ เปลี่ยนมาชัดขึ้น ก็ดึงความคิดของเขากลับมายังความเป็นจริง

“หลิงเอ๋อร์…” เสียงของสวี่ชิงเปลี่ยนมาแหบแห้งมากๆ เขาหันไป มองไปยังหลิงเอ๋อร์ที่ร่ำไห้

หลิงเอ๋อร์วิ่งมากอดสวี่ชิง ร่างสั่นสะท้าน ความเป็นตายเช่นนี้นางพบเห็นน้อยมาก ยากที่จะรับได้

ส่วนกลุ่มคนรอบๆ ก็ค่อยๆ ฟื้นคืนสติ ความเสียใจเศร้าโศก เสียงร้องไห้ค่อยๆ มากขึ้น จวบจนเงาร่างหนึ่งเดินโซซัดโซเซมา วิ่งมาข้างหน้าสวี่ชิง

“ผู้อาวุโส…”

คนที่มาคือสือพั่นกุย ร่างของเขาอ่อนแรง ดวงตาของเขาแดงก่ำ น้ำตาเลือดหลั่งริน สีหน้าบิดเบี้ยว ความบ้าคลั่งของคนทั้งคนกำลังถูกสะกดเอาไว้ สั่นสะท้านพลางมองไปทางสวี่ชิง

เขารู้ว่าภรรยาและน้องสาวของเขาตายแล้ว ในดวงตาของเขาก็มีรอยความตายเช่นกัน เพียงแต่ก่อนหน้านั้น เขาฝืนอดทนทุกอย่าง

เพราะเขารู้ ตัวเองต้องบอกว่าสวี่ชิงเกี่ยวกับเบาะแสของเจ้ารัฐ

“ขอผู้อาวุโสได้โปรดช่วยท่านเจ้ารัฐด้วย…

“เจ้ารัฐถูกราชครูของสองเผ่าจับตัวไปเมืองศักดิ์สิทธิ์ ตอนนั้นข้าได้ยินพวกมันบอกว่าจะหลอมเจ้ารัฐให้เป็นโลหิตศัสตราเอามาซ่อมกระจกวิเศษ”

สวี่ชิงมองสือพั่นกุย หลังจากนั้นหลายอึดใจก็หันไปมองทางเด็กหญิงตัวน้อย

สือพั่นกุยมองไปเช่นกัน ร่างยิ่งสั่นสะท้านรุนแรง มือทั้งสองกำแน่น ความเจ็บปวดในใจกลายเป็นเลือดสดๆ กระอักออกมา เผยรอยยิ้มขมขื่น

สวี่ชิงเดินไปเงียบๆ มาถึงยังข้างหน้าเด็กหญิงตัวน้อย ย่อตัวลง ปิดตาของนาง

“พั่นกุย น้องสาวของเจ้าหลับไปแล้ว อย่ารบกวนนาง พวกเจ้าอยู่ที่นี่…รอข้า

“ข้าจะไปพาเจ้ารัฐของพวกเจ้ากลับมา”

สวี่ชิงเอ่ยเสียงแผ่วเบา หลังจากลุกยืนขึ้น เสียงเขาสงบนิ่ง

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่นี่ปกป้องพวกเขาได้หรือไม่”

“ข้าทำได้เจ้าค่ะ!” หลิงเอ๋อร์เช็ดน้ำตา พยักหน้าเต็มแรง

สวี่ชิงไม่ได้พูดอะไรมาก เขาทิ้งเจ้าเงาเอาไว้ และเรียกสิงโตหินกับศีรษะในติงหนึ่งสามสองออกมา ขณะเดียวกันก็แผ่หมอกพิษออกปกคลุมรอบๆ ผนึกที่แห่งนี้เอาไว้

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา