เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 580

บทที่ 580 ผลจากการข่มขู่ชิงทรัพย์ (1)

………………..

ส่วนจะเข้าไปที่ตำหนักขบถจันทร์อย่างไร สวี่ชิงก็ยังไม่แน่ใจนัก

ตอนนั้นตวนมู่ฉางก็ไม่ได้กล่าวชัดเจน เพียงบอกให้เขามายังที่นี่

ตอนนี้ผ่านมาเกินครึ่งปี สวี่ชิงอยู่ในลมทรายสีดำนี้ มองเทือกเขาทนทุกข์ ในสมองผุดรายงานเกี่ยวกับที่นี่ที่ตนสืบเสาะมา

แตกต่างกับเทือกเขามิรู้สิ้น เทือกเขาทนทุกข์ไม่มีพืชปกคลุม มีเพียงลมทรายนับไม่ถ้วนหวีดหวิวอยู่ข้างหู เสียงอื้ออึงดังอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกถึงความหดหู่และความอ้างว้างโดยสัญชาตญาณ

สวี่ชิงกระชับคอเสื้อ สัมผัสได้ว่าหลิงเอ๋อร์เลื้อยพันคอของตนอยู่ เขาก็อบอุ่นใจขึ้นมา เมื่อไหววูบ ก็พุ่งไปตามลมทราย ค่อยๆ ก้าวไปในเทือกเขาทนทุกข์ เริ่มค้นหาร่องรอยของตำหนักขบถจันทร์

เวลาดั่งลมระหว่างฟ้าดิน พัดพาไม่หยุด ผ่านไปเรื่อยๆ

สิบวันต่อมา บนยอดเขาค่อนข้างสูงแห่งหนึ่งในเทือกเขาทนทุกข์ สวี่ชิงมองไปรอบด้าน ขมวดคิ้วขึ้นมา

ในสิบวันนี้ เขาค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับตำหนักขบถจันทร์ในเทือกเขาทนทุกข์มานานแล้ว หาอย่างไรก็หาไม่พบ แต่เขาสังเกตเห็นว่าเทือกเขานี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่ไม่น้อย ชนเผ่าก็ปะปนกัน พักอาศัยอยู่ในเมืองดินในเขาแต่ละลูก

ในนี้พบเห็นคนธรรมดาได้น้อย ส่วนใหญ่มีพลังบำเพ็ญติดตัวกัน แต่บางส่วนก็เกลียดชังผู้มาเยือน

มีสองสามครั้งที่สวี่ชิงมองไกลๆ ก็สัมผัสได้ถึงจิตปฏิปักษ์จากสายตาผู้บำเพ็ญในเมืองเหล่านั้น

‘ตวนมู่ฉางบอกว่าวิธีเข้าไปในตำหนักขบถจันทร์ อยู่ในเทือกเขาทนทุกข์นี้…’ สวี่ชิงเงยหน้ามองยังยอดเขาที่ไกลออกไป บนภูเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาทนทุกข์มีระลอกคลื่นผนึกต้องห้ามพระจันทร์สีชาดอยู่

‘ปกติตำหนักเทพพระจันทร์สีชาดไม่มีทางสร้างตำหนักสาขาย่อยด้านนอกส่งเดช แต่ที่นี่กลับมีอยู่ตำหนักหนึ่ง…

‘นี่บ่งบอกว่าที่แห่งนี้มีความพิเศษ มีความเป็นไปได้ที่จะมีวิธีเข้าไปในตำหนักขบถจันทร์อยู่จริง แต่มีจุดหนึ่งที่แปลกประหลาดมาก หากคนส่วนใหญ่รู้ว่าเทือกเขาทนทุกข์เป็นทางเข้าตำหนักขบถจันทร์ แล้วทำไมตำหนักเทพจึงไม่ผนึกที่นี่หรือห้ามไม่ให้เข้าไปเล่า’

ดวงตาสวี่ชิงฉายแววครุ่นคิด เก็บสายตามองลงไปด้านล่างภูเขากลับมา

มองไปจากระดับความสูงที่เขาอยู่ ทะเลทรายด้านล่างเป็นสีดำไปหมด สายลมพัดหอบลมทรายต่อเนื่อง ย้อมโลกทั้งใบกลายเป็นทะเลหมอกสีดำ

สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด กำลังจะค้นหาต่อ แต่ตอนนี้เอง ไกลออกไปก็มีเสียงคำรามที่ลอยมาตามลม ขณะที่คลุมเครือก็แผ่ขยายคลื่นพลังวิชาเวทเป็นระลอก

เดิมสวี่ชิงไม่สนใจ หลายวันมานี้เขาเจอเรื่องทำนองนี้ในเทือกเขาทนทุกข์มาแล้วหลายครั้ง ส่วนใหญ่เป็นผู้บำเพ็ญบางเผ่าที่สังหารกันด้วยเหตุผลบางประการ

ระดับขั้นไม่สูงมาก หลักๆ คือสร้างฐาน มีแก่นลมปราณอยู่น้อย

แต่หลังจากเดินไปได้สองสามก้าว สวี่ชิงก็ชะงักฝีเท้า มองไปทางที่ระลอกคลื่นวิชาเวทแผ่มา

’คลื่นพลังปราณก่อกำเนิด? ไม่ได้แข็งแกร่งมาก ประมาณสองสามทัณฑ์’

เป็นครั้งแรกที่สวี่ชิงพบเห็นการต่อสู้ระหว่างปราณก่อกำเนิดหลังจากมาถึงที่นี่ ในเมื่อหาวิธีเข้าไปในตำหนักขบถจันทร์ที่นี่ไม่พบ เช่นนั้นก็ต้องใช้วิธีอื่นค้นหา

สวี่ชิงจึงอำพรางกาย ผสานเข้าไปในสายลม ลอยไปที่นั่น

ไม่นานนัก สถานที่ต่อสู้ก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาสวี่ชิง

ที่นั่นเป็นหุบเขาแห่งหนึ่ง ด้านล่างคือลมดำทะเลทราย มีผู้บำเพ็ญสองคนกำลังต่อสู้กันกลางอากาศ ปรับเปลี่ยนวิชาเวทไปมา ยิ่งมีอาวุธเวทแหลมคมทิ่มแทงกันไปมา กลายเป็นคลื่นพลังครืนครันไปรอบทิศ

สองคนนี้อยู่ในวัยกลางคน สวมเสื้อผ้าคล้ายคลึงกับสวี่ชิง ห่อทั้งตัวไว้มิดชิด เผยออกมาเพียงดวงตา

พวกเขาลงมือกันอย่างดุดัน ตาต่อตา ฟันต่อฟันอย่างสิ้นเชิง ในนี้คนหนึ่งบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลขนาดใหญ่อยู่ที่ช่วงท้อง แขนข้างหนึ่งก็ไม่รู้ว่าถูกตัดเมื่อไร

ผู้ที่จัดการเขา ตาบอดไปแล้วข้างหนึ่ง ตอนนี้เลือดไหลหยดย้อย ทว่าดวงตาอีกข้างกลับเผยความโหดเหี้ยมออกมา

เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้นี้ไม่ได้เพิ่งเริ่ม แต่น่าจะสู้กันมาจากที่อื่น ไล่ล่ากันมาจนถึงที่นี่

ตอนที่สวี่ชิงมาถึง ผู้บำเพ็ญตาเดียวตนนั้นก็อ้าปากพ่นไอดำออกมา ขณะที่ไอหมอกหอบม้วนคู่ต่อสู้ของเขาที่บาดเจ็บสาหัสและอ่อนแอลงเรื่อยๆ ก็ฉากหลบไม่ทัน ไอดำปะทะเข้าหน้าอย่างจัง

เสียงกรีดร้องดังออกมา ผู้บำเพ็ญที่บาดเจ็บคนนี้ถอยอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้าไป ผู้บำเพ็ญตาเดียวหัวเราะเหี้ยมเกรียม พลันไล่ตามไป สองมือทะลวงเข้าไปที่หน้าอกอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม ทำลายอวัยวะตันทั้งห้า บดขยี้อวัยวะกลวงทั้งหก

ยิ่งไม่รู้ว่าสำแดงวิชาอะไรออกมา จึงทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นศพแห้งกรอบ

สวี่ชิงมองอย่างละเอียด ปราณก่อกำเนิดของผู้บำเพ็ญที่กลายเป็นศพแห้งกรอบผู้นั้นก็ไม่ได้หนีไปไหน ถูกผนึกอยู่ในศพแห้ง

เสร็จเรื่องเหล่านี้ ผู้บำเพ็ญตาเดียวก็เก็บศพแห้งไป พลันหันหน้ามา ดวงตาเปล่งประกายเย็นเยียบ ในม่านตายังมีตราประทับกะพริบวูบวาบ ขณะที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด เขาก็แสยะยิ้ม

“ยังมีอีกคนหรือ

“เจ้าก็คิดจะปล้นข้าด้วย?”

ขณะที่กล่าว สายตาของเขาก็มาหยุดที่ที่สวี่ชิงอำพรางกายอยู่

แม้สวี่ชิงจะไม่ได้สวมหน้ากาก แต่การอำพรางของเขาก็ไม่ธรรมดา อีกฝ่ายสังเกตเห็นได้ จะต้องมีความพิเศษอยู่เป็นแน่ อีกทั้งสายตาของอีกฝ่ายก็เฉียบคมมาก ไม่ใช่เสแสร้งแกล้งทำ

สวี่ชิงครุ่นคิด ก็เลิกพรางตัวและเดินออกมา ถอยสองสามก้าวเพื่อบ่งบอกว่าตนไม่มีจิตปฏิปักษ์ด้วย สายตาจริงใจ เอ่ยอย่าใจเย็น

“สหายเต๋าผู้นี้ ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับผู้ที่ท่านสังหารไป อำพรางคลื่นพลังวิชาเวทมาที่นี่เพราะสหายผู้หนึ่งหายสาบสูญไปในเทือกเขานี้ จึงออกตามหา ไม่ทราบว่าท่านเคย…”

สวี่ชิงยังพูดไม่ทันจบ ผู้บำเพ็ญตาเดียวตนนั้นก็ถอยหลังไปสองสามก้าว ส่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมา

“ที่นี่คนหายตัวไปเยอะแยะ ข้าไม่เคยเห็นหรอก” ผู้บำเพ็ญตาเดียวไหววูบ ทะยานไปไกล

บทที่ 580 ผลจากการข่มขู่ชิงทรัพย์ (1) 1

บทที่ 580 ผลจากการข่มขู่ชิงทรัพย์ (1) 2

บทที่ 580 ผลจากการข่มขู่ชิงทรัพย์ (1) 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา