บทที่ 584 นายท่าน คนผู้นี้ไม่ใช่คนดี!
บรรพจารย์สำนักวัชระตื่นตัวทันที จ้องชายชราที่อยู่ด้านนอกเขม็ง
บนถนน ชายชราร้องเสียงสูง
“ท่านผู้มีพระคุณ!”
คำเรียกนี้ อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
สีหน้าของเขายิ่งตื่นเต้น ทั้งร่างสั่นเทา หยาดน้ำตาหลั่งริน การแสดงออกนั้นเห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของคนผู้นี้รุนแรงมาก
“ข้าตามหาท่านมานานแสนนาน!
“บุญคุณช่วยชีวิตของท่านเมื่อครั้งนั้น ข้าสลักไว้ในใจมาตลอด น่าสมเพชที่วันนั้นข้าจดจ่ออยู่แต่กับการฝึกบำเพ็ญ หลังจากตื่นขึ้นมาท่านก็หายไปแล้ว
“กระทั่งค่าตรวจค่ายาลูกกลอนก็ไม่ได้เก็บข้าเลยแม้แต่น้อย!”
เสียงชายชราสั่น สะกดความกระวนกระวายและความตื่นกลัวในใจไว้ กัดฟันเดินหน้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ มาถึงจุดที่ห่างจากร้านยาของสวี่ชิงสิบกว่าจั้ง
“เรื่องนี้ทำให้ข้ารู้สึกผิดในใจ ข้าจึงหาท่านมาตลอด แล้วสวรรค์มีตาข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก ในที่สุดก็ทำให้ข้าได้พบกับท่านในวันนี้อีกครั้ง”
ชายชราเช็ดหางตา คารวะสวี่ชิงในร้านขายยาที่ไม่แสดงสีหน้าใดสุดตัวจากด้านนอกร้านขายยา!
ตอนที่เงยหน้า ชายชรามองสวี่ชิง สีหน้าเจือแววอ้อนวอน
“ครั้งนี้ ขอท่านให้โอกาสข้าได้ตอบแทนสักครั้ง ท่านต้องรับของขวัญชิ้นใหญ่ที่ข้าเตรียมไว้ให้ท่านผู้มีบุญคุณนะขอรับ”
ชายชรากัดฟัน รีบล้วงถุงเก็บของสามใบของตนออกมา ประเคนให้ด้วยสองมือ
เฉินฝานจัวมองทั้งหมดนี้ ก็รู้สึกงุนงง เขาสัมผัสได้ถึงความจริงใจรวมถึงความตื่นเต้นของชายชราคนนี้ที่เมื่อครู่ยังโมโหกราดเกรี้ยว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขายังสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายมีถุงเก็บของเพียงสามใบ และตอนนี้เพื่อตอบแทนบุญคุณ เขากลับมอบให้ทั้งหมด
ภาพนี้ขณะที่ทำให้เขารู้สึกสะท้อนใจก็รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งด้วย จึงมองตามสายตาของชายชราที่มองไปยังปรมาจารย์ที่อยู่ในร้านยาด้านหลังตน
ในร้านยา สวี่ชิงเล่นขวดยาโปร่งใสในมือ มองชายชราที่กำลังตัวสั่นอย่างเย็นชา ในใจก็มีคำพูดของบรรพจารย์สำนักวัชระดังสะท้อนก้องมาอย่างรวดเร็ว
‘นายท่าน คนผู้นี้โกหกหลอกลวง สับปลับอย่างยิ่ง แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี ในหนังสือตัวละครเช่นนี้ มีใจคิดคดทรยศอยู่ตลอด แตกต่างจากข้าขอรับ’
สวี่ชิงเดินออกมาจากร้านยาไม่สนใจบรรพจารย์สำนักวัชระ
สวี่ชิงรู้เล่ห์เหลี่ยมของชายชราผู้นี้อย่างดี อุบายเช่นนี้อาจจะใช้กับคนอื่นได้ แต่สำหรับเขาแล้วมันไม่มีประโยชน์อันใด
ตอนนั้นคนผู้นี้หลบหนีไป ในเมื่อเจอกันอีกวันนี้ สวี่ชิงก็ไม่คิดจะปล่อยไปอยู่แล้ว ส่วนบรรพจารย์สำนักวัชระก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารในใจของสวี่ชิง คอยสะสมพลังอยู่บนคาน รอสวี่ชิงออกคำสั่งให้ลงมือ
จากการที่สวี่ชิงเดินมา แรงกดดันมหาศาลครอบลงมาในใจชายชรา หน้าผากเขามีเหงื่อซึม เห็นสายตาเย็นชาของสวี่ชิง ระลอกคลื่นในใจก็ปั่นป่วนไปหมด
เห็นว่าวิธีการของตัวเองไม่ได้ผล ขณะที่เขาร้อนรนก็กวาดตามองเฉินฝานจัวที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็กัดฟันกรอด จู่ๆ ก็เอ่ยออกมาเสียงดัง
“ท่านผู้มีพระคุณ ท่านมีบุญคุณต่อข้าหลี่โหยวเฝ่ยอย่างมาก วันนี้ขอให้ท่านรับของตอบแทนจากหลี่โหยวเฝ่ยด้วย!”
เมื่อเฉินฝานจัวได้ยินชื่อหลี่โหยวเฝ่ยก็รู้สึกว่าค่อนข้างคุ้นหู สมองย้อนระลึก
เห็นเป็นเช่นนี้ ชายชราก็ยิ่งร้อนรน แอบคิดว่าหรือว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่คนในพื้นที่ ไยจึงนึกไม่ออก!
จึงเอ่ยเสียงดังอีกครั้ง
“ข้าหลี่โหยวเฝ่ยอยู่ในเทือกเขาทนทุกข์นี้มาร้อยยี่สิบปี ลำบากมาทั้งชีวิต ระหว่างที่ดิ้นรน ก็รู้ว่าการสำนึกบุญคุณสำคุณที่สุด ท่านผู้มีพระคุณ วันนั้นตอนที่ท่านจากไปข้าหลี่โหยวเฝ่ย…”
ชายชราพูดถึงจุดนี้ ระลอกคลื่นในใจเฉินฝานจัวทางนั้นพลันกระหน่ำซัด เขานึกชื่อนี้ออกแล้ว ดวงตาเบิกกว้าง ร้องตกใจเสียงหลง
“ท่านคือเซียนทนทุกข์ผู้อาวุโสหลี่โหยวเฝ่ย!”
เฉินฝานจัวสีหน้าสะท้อนใจ
“ยี่สิบสามปีก่อน สำนักเลือดกิเลนที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่จะนำเด็กทารกแรกเกิดของชาวบ้านธรรมดาทั้งหมดในเทือกเขาทนทุกข์มาหลอมยาลูกกลอน ถูกคนล้างสำนักไปในคืนเดียว ช่วยเหลือเด็กทารกมานับไม่ถ้วน เทือกเขาทนทุกข์ลือกันมาตลอดว่าคนที่ลงมือคือเซียนทนทุกข์หลี่โหยวเฝ่ย!
“ทั้งเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน สำนักบูชาเลือดที่ล่วงประเวณีปล้นสะดมข่มเหงรังแกสร้างความเดือดร้อนในเมืองต่างๆ นับไม่ถ้วน ถูกคนวางพิษสังหารไปกว่าครึ่งในสามวัน ก็เล่าลือกันว่าเซียนทนทุกข์หลี่โหยวเฝ่ยเป็นคนลงมือ!
“และในช่วงหกสิบปีนี้ ทุกครั้งที่เผชิญกับภัยพิบัติและภัยจากมนุษย์ ประชาชนที่ยากลำบากในเมืองต่างๆ ได้รับอาหารมา ก็ลือกันว่าเป็นสิ่งที่หลี่โหยวเฝ่ยทำ!
“ช่วงนี้ครั้งนี้เมื่อหลายเดือนก่อน พวกผู้บำเพ็ญนอกสังกัดรอบนอกที่อยากได้สถานะทาสเทวะขึ้นตรงกับตำหนักพระจันทร์สีชาดล้วนทยอยตายไป ก็ลือกันว่า…”
เฉินฝานจัวหายใจหอบถี่ มองชายชราตรงหน้าผู้นี้ ใจก็สั่นสะเทือน เขาอยู่ในเทือกเขาทนทุกข์นี้มาหลายปี ได้ยินตำนานเล่าขานมากมาย ในนี้มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลี่โหยวเฝ่ยอยู่ด้วย
บุคคลในตำนานผู้นี้มีทั้งด้านดีและด้านร้าย มีทั้งศีลธรรมและความเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่มองรวมๆ แล้ว มีศีลธรรมมากกว่าเจ้าเล่ห์
“ผู้อาวุโส เกี่ยวกับเรื่องที่ถ้ำพำนัก เป็นความผิดของข้าเอง ของทั้งหมด ผู้เยาว์จะคืนให้ทุกชิ้น ขอผู้อาวุโสโปรดให้อภัยด้วย”
เฉินฝานจัวสูดลมหายใจลึกๆ คารวะให้ชายชราสุดตัว
เขาดูเหมือนจะตื่นเต้น อาจเพราะตัวบุคคลรวมถึงขั้วอำนาจเล็กๆ ที่มีชีวิตรอดมาในเทือกเขาทนทุกข์ล้วนไม่ธรรมดา เขาย่อมมองออกว่าระหว่างชายชรากับปรมาจารย์มีต้นสายปลายเหตุบางอย่าง
แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตัวจริงหรือไม่ เขาก็รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่จะคลี่คลายวิกฤติของตนให้สำเร็จ
เมื่อชายชราได้ยินถึงตรงนี้ ในที่สุดก็ถอนหายใจโล่งอก เขาคือหลี่โหยวเฝ่ยตัวจริง แต่ปกติใช้ร่างฉุดดึงของตนออกไปจัดการเรื่องต่างๆ ด้านนอก หน้าตาจึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อำพรางร่างกายตนเอง
ตอนนี้ไม่มีทางเลือก วิกฤติความเป็นความตาย เขาอยากจะให้สัตว์ประหลาดนี้ได้รู้ความจริงว่า…ตนก็มีค่าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
เขารู้ว่าอีกฝ่ายอยากเข้าร่วมกับตำหนักขบถจันทร์ ปกติผู้ที่เลือกจะเข้าร่วมตำหนักขบถจันทร์ ล้วนเป็นพวกที่ไม่ยอมจำนนทั้งสิ้น เขาอยากจะบอกสวี่ชิงว่าตนก็เป็นเช่นเดียวกัน
แม้ว่าตนจะไม่ผ่านการทดสอบของตำหนักขบถจันทร์ ยังขาดการสังเวยทาสเทวะ แต่ช่วงหลายปีนี้ตนก็ใช้วิธีการของตนทำเรื่องเช่นเดียวกัน
ความจริงก็เป็นเช่นนี้



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา