เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 591

บทที่ 591 คุณชาย บอกราคามาเถิด!

เสียงอ่อนหวานทรงเสน่ห์เหมือนเส้นไหมเป็นกลุ่มๆ ลอยพริ้วอยู่รอบๆ กระทบมาที่หู แทรกซึมไปในวิญญาณ ทำให้คนจิตใจเกิดระลอกคลื่นไปบ้างตามสัญชาตญาณ

สวี่ชิงขมวดคิ้วมองไปทางหลี่โหยวเฝ่ย

หลี่โหยวเฝ่ยอึ้งตะลึง พูดออกมาทันที

“ไม่ใช่ข้า…ไม่ใช่ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนระดับรวมปราณก็ไม่มีแล้วขอรับ”

จิ้งจอกดินเหนียวกวาดสายตามองหลี่โหยวเฝ่ยอย่างรังเกียจ เอ่ยอย่างเย็นชา

“ตัวโสโครกจากไหนกัน!”

พูดจบ นางก็มองไปทางสวี่ชิง ในดวงตาฉายความเย้ายวนเป็นระลอกๆ ออกมา คล้ายว่ามองการแกล้งปกปิดของสวี่ชิงออก เอ่ยเสียงแผ่วเบา

“ซ้ำยังรูปโฉมงามสง่าปานนี้ ทำเอาข้าเห็นแล้วใจสั่นเต้นระรัวเลยทีเดียว”

ขณะพูด จิ้งจอกดินเหนียวรูปนี้ก็ลุกขึ้น ในยามที่ลงมาจากศาลเจ้า ร่างเพียงไหววูบก็เปลี่ยนเป็นหญิงสาวงดงามแช่มช้อยคนหนึ่งแล้ว

ยอดเขาอวบอิ่มล้นทะลักสองลูกกระเพื่อมขึ้นลงตามการเดินของนาง เอวที่เหมือนน้ำเต้าอรชรอ้อนแอ้นนัก รวมกับเงาบั้นท้ายที่กระดกนูน ทำเอาหลี่โหยวเฝ่ยเห็นแล้วต้องสูดลมหายใจ หัวใจเต้นเร็วไปตามสัญชาตญาณ แอบร้องในใจว่านางปีศาจ

โดยเฉพาะผ้าคลุมโปร่งบางสีแดงที่วับแวมทั่วทั้งร่างนั่น อยู่บนร่างของนางเหมือนว่าจะร่วงหล่นได้ทุกเมื่อ

และผิวที่เนียนใส ร่างกายที่รูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน ขณะที่โยกย้ายนี้ก็แผ่กลิ่นอายที่ทำให้คนอยากจะเข้าใกล้ชิดชม ดั่งสามารถปลูกเมล็ดพันธุ์ไปในใจคน หยั่งรากผลิใบ

สวี่ชิงสายตาเย็นชา มองออกว่าพลังบำเพ็ญของปีศาจตนนี้ก็เป็นระดับปราณก่อกำเนิดเช่นกัน ตอนนี้เจ้าเงาใต้เท้าแผ่ออกไปแล้ว แต่ในตอนนี้สตรีที่เดินลงมาจากศาลเจ้าฝีเท้าพลันหยุดชะงัก เหยียบไปบนพื้นเล็กน้อย

เจ้าเงาสั่นงันงกไปในทันที ตลบม้วนกลับมา สวี่ชิงสายตาจ้องเพ่ง

หญิงสาวเลียริมฝีปาก ยิ้มพลางเอ่ย

“คุณชาย แม้ข้าและท่านต่างเป็นระดับปราณก่อกำเนิดเช่นกัน แต่ท่านไม่รู้ถึงเบื้องหลังและที่มาที่ไปของข้า ข้าเองก็ไม่อยากใช้อำนาจกดขี่ ยิ่งไม่อยากบังคับขู่เข็ญคนน่ารักที่ชวนให้คนเอ็นดูเช่นท่าน เช่นนั้นบรรยากาศดีๆ ก็เสียหมด

“ดังนั้น พวกเราปรึกษากันได้ทุกเรื่อง

“เจ้าบอกราคามาเถอะ”

สวี่ชิงเงียบนิ่ง เขาเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ส่วนหลิงเอ๋อร์ตอนนี้ก็โผล่ออกมาจากปกเสื้อสวี่ชิงแล้ว นางโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ในดวงตาแฝงด้วยความดุร้าย เกล็ดบนร่างพองขึ้นมา จ้องสตรีคนนั้นเขม็ง

หญิงสาวเมินหลิงเอ๋อร์ สายตากวาดประเมินสวี่ชิงตั้งแต่ใบหน้าลงไป จนกระทั่งถึงเท้า ก็ไล่สายตาขึ้นมามองตากับสวี่ชิง อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปาก

“พี่สาวไม่เอาเปรียบเจ้าแน่นอน”

พูดพลาง นางก็เอาน้ำเต้าออกมาใบหนึ่ง เขย่าๆ แล้วพูดขึ้นว่า

“ในนี้มีลูกกลอนบรรเทาทุกข์เก้าเม็ด แต่เดิมมีสิบเม็ด เมื่อครั้งที่แล้วมีคนใช้ผลึกเพลิงสวรรค์สีแดงยี่สิบก้อนซื้อมันไปเม็ดหนึ่ง แต่ว่าให้เจ้าหมดเลยก็ได้ เจ้าคิดว่าอย่างไร”

สวี่ชิงอึ้งตะลึง

หญิงสาวมองสวี่หน้าสวี่ชิง ในใจยิ่งฮึกเหิม แล้วสะบัดมือเอากระดูกสีเงินท่อนหนึ่งออกมา แย้มยิ้มพลางเอ่ย

“นี่คือลูกกลอนกระดูกของผู้วิเศษยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเผ่าวิญญาณบรรพกาล มีประโยชน์อย่างมากกับงูน้อยตัวนั้นของเจ้า เอาหรือไม่”

หลิงเอ๋อร์อึ้งตะลึง จากนั้นก็กัดฟันมองอย่างโมโหโกรธเคืองต่อไป อดทนไม่ไปมองกระดูกชิ้นนั้น

หญิงสาวหัวเราะเบาๆ คิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอาวัตถุชิ้นหนึ่งออกมา นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นอวัยวะมนุษย์สีทองชิ้นหนึ่ง รูปทรงจันทร์เสี้ยว ดูแล้วเหมือนจะเป็นไต

“นี่เป็นของวิเศษชิ้นหนึ่ง ตอนนั้นมีสาวกคลุ้มคลั่งคนหนึ่งกัดชื่อหมู่ไปหนึ่งคำ จากนั้นร่างก็ถูกจับแยกชิ้นส่วน มีคนมอบไตนี้ให้ข้า หากคุณชายยินยอมอยู่เคียงข้างไปกับข้าสักสองสามวัน หลังจากเวลาสิ้นสุดก็เอาไปกินเสีย ชดเชยข้อบกพร่องของร่างกาย”

สวี่ชิงมองไตชิ้นนี้ อึ้งตะลึงไปอีกครั้ง

หลิงเอ๋อร์กระวนกระวายแล้ว

หลี่โหยวเฝ่ยอึ้งงงงัน เขาพลันอิจฉาสวี่ชิงขึ้นมาเสียเหลือเกิน

เห็นสวี่ชิงไม่ตอบรับ หญิงสาวถอนหายใจ

หญิงสาวพูดพลางหันหลังโยกย้ายสะโพก สำแดงเงาแผ่นหลังอันยั่วเย้าคนออกมาได้อย่างสุดยอด เดินมาถึงศาลเจ้าก็แปลงเป็นจิ้งจอกดินอีกครั้ง ส่วนตุ๊กตาดินเหนียวรอบๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเหตุการณ์ล้วนใบหน้าไร้อารมณ์ ตอนนี้แบกศาลเจ้า เดินไปข้างหน้าต่อ

ลมเย็นพัดเป็นระลอกๆ พวกมันทะลุผ่านหุบเขา จากไปไกลไร้ร่องรอย

หุบเขาเงียบสงัดไปทั้งแถบ

สวี่ชิงเงยหน้า มองบริเวณที่จิ้งจอกดินเหนียวจากไปไกล สายตาฉายแววครุ่นคิด

หลิงเอ๋อร์มองไปทางสวี่ชิงอย่างกังวล หลี่โหยวเฝ่ยอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ในใจซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง เขารู้สึกว่าหลังจากที่ตัวเองออกมาจากทะเลทรายครามแล้ว เรื่องราวในทุกๆ วันล้วนเกินคาดทั้งนั้น

“พี่สวี่ชิง…” หลิงเอ๋อร์เอ่ยเสียงเบา

“บนร่างนางไม่มีคำสาป” สวี่ชิงเอ่ยสงบนิ่ง

เขาเพียงพูดขึ้น หลิงเอ๋อร์โล่งอก หลี่โหยวเฝ่ยเมื่อได้ยินก็จิตใจสั่นสะท้าน

“ท่านปรมาจารย์ ความหมายของท่านคือ…นางมาจากนอกแผ่นดินใหญ่หรือ”

สวี่ชิงส่ายหน้า จิ้งจอกดินเหนียวรูปนี้มาอย่างกะทันหัน เขาไม่สามารถวิเคราะห์อย่างกระจ่างในเวลาสั้นๆ ว่าอีกฝ่ายผ่านมาจริงๆ หรือตั้งใจมาที่นี่โดยเฉพาะ

โดยเฉพาะของเหล่านั้นที่เอาออกมา ทุกชิ้นล้วนไม่ธรรมดา ลูกกลอนบรรเทาทุกข์ที่นางบอกว่าถูกซื้อไป ทำให้สวี่ชิงค่อนข้างลังเล เขาไม่รู้ว่าใช่เม็ดนั้นที่ตนแลกเปลี่ยนที่ตำหนักขบถจันทร์หรือไม่

แล้วยังมีไตนั่น…

สวี่ชิงลังเล แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่ควรอยู่นาน เขาจึงหันหลังร่างไหววูบ ทะยานไปในทิศตรงข้ามอย่างรวดเร็ว หลี่โหยวเฝ่ยรีบตามอยู่ข้างหลัง ไม่นานพวกเขาก็ไปจากหุบเขา

เวลาไหลไป ไม่นานนักก็ผ่านไปครึ่งเดือน

ในเวลาครึ่งเดือนนี้ สวี่ชิงไปตามการชี้นำทางของนกแก้ว เดินทางอยู่ตลอด เพียงแต่ทุกวันเขาจะปลีกเวลามาศึกษาค้นคว้าหลี่โหยวเฝ่ย หลังจากได้แรงบันดาลใจจากลูกกลอนที่หลอมได้จากร่างเขา ก็ทดลองปรับปรุงลูกกลอนบรรเทาทุกข์

หลี่โหยวเฝ่ยทีแรกยังกังวลตื่นเต้น แต่จากเวลาผ่านไปแต่ละวันๆ เขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาไม่ใส่ใจแล้ว

ส่วนเหตุผลที่เขาไปจากเทือกเขาทนทุกข์ สวี่ชิงในครึ่งเดือนนี้ก็เคยถามเหมือนกัน รู้ว่าอีกฝ่ายไปล่วงเกินบรรพจารย์คนหนึ่งของเทือกเขาทนทุกข์เข้า

“บรรพจารย์โม่กุยคนนั้นมีพลังบำเพ็ญระดับหวนสู่อนัตตา เป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในบรรดาผู้บำเพ็ญไร้สังกัด อยู่กับทั้งตำหนักเทพและตำหนักขบถจันทร์ ชีวิตอยู่สุขสบายนัก

“เพื่อทำการทดสอบของตำหนักขบถจันทน์ให้สำเร็จ ข้าจนปัญญาจึงสังหารลูกศิษย์ของเขา…”

คิดถึงเรื่องนี้ หลี่โหยวเฝ่ยก็แอบมองไปทางสวี่ชิงแล้วถอนหายใจ เขารู้สึกว่าตัวเองขาดทุนเหลือเกิน แม้จะฆ่าคนได้แล้ว แต่ศพกลับไม่ได้เอากลับมา

เหตุที่แอบมองสวี่ชิงเพราะครึ่งเดือนมานี้เขาเห็นสวี่ชิงมีศพทาสเทวะ ซึ่งก็คือผู้บำเพ็ญที่ไล่สังหารตนสองคนนั้นนั่นเอง

ศพสองร่างนั้นก็เป็นวัตถุในการศึกษาค้นคว้าของสวี่ชิงเช่นกัน บางครั้งหลังจากที่ค้นคว้าหลี่โหยวเฝ่ยแล้ว เขาเจอกับจุดติดขัดทางด้านความคิดก็จะเอาพวกเขาออกมา เริ่มทำการชำแหละ

บทที่ 591 คุณชาย บอกราคามาเถิด! 1

บทที่ 591 คุณชาย บอกราคามาเถิด! 2

บทที่ 591 คุณชาย บอกราคามาเถิด! 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา