เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 592

บทที่ 592 สร้างชื่อในตำหนักขบถจันทร์

“ลูกกลอนบรรเทาทุกข์? ของชิ้นแรกที่ขายคือลูกกลอนบรรเทาทุกข์หรือ แล้วราคานี้…”

ชายกำยำหายใจหอบถี่ขึ้นมาเหมือนไม่กล้าเชื่อสิ่งที่ตนเห็น จึงสัมผัสอย่างรวดเร็วอีกครั้ง จนแน่ใจว่าตนเองไม่ได้ตาฝาด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“ใช้แค่เลือดผู้รับใช้เทวะหนึ่งร้อยหยด!”

สมองชายกำยำมึนเบลอเล็กน้อย แม้ลูกกลอนบรรเทาทุกข์จะพบเห็นได้น้อย แต่เขาอยู่ในตำหนักขบถจันทร์มาหลายปี เจอผู้ค้ามาไม่น้อย ย่อมรู้ว่าลูกกลอนบรรเทาทุกข์มีมูลค่ามหาศาล

แต่ในความทรงจำของเขา แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเห็นลูกกลอนบรรเทาทุกข์ที่ขายในราคาต่ำถึงเพียงนี้

นี่ทำให้เขาค่อนข้างสงสัยว่าตนจะมาเจอกับพวกต้มตุ๋นในตอนแรก

แต่การแลกเปลี่ยนของตำหนักขบถจันทร์ เนื่องจากต้องนำสิ่งของมาวางไว้ก่อน ดังนั้นผู้ที่จะแลกเปลี่ยนจึงสามารถสัมผัสก่อนได้ ปกติแล้วเกิดความผิดพลาดขึ้นไม่บ่อยนัก นอกจากนี้หากเล่นลูกไม้ที่นี่แล้วถูกจับได้ผลที่ตามมาหนักหนายิ่ง

ที่เบาหน่อยจะถูกผนึกการแลกเปลี่ยนในศาลเจ้า ที่หนักหน่อยกระทั่งถูกลบสถานะในตำหนักขบถจันทร์ ตัดสิทธิ์ตลอดกาล

ดังนั้นปกติแล้ว มีน้อยคนนักที่มาเล่นตุกติกที่นี่ มันไม่คุ้มค่า

ชายกำยำคนนี้จึงรีบเข้าประชิด หลังจากวิเคราะห์อย่างละเอียด ลมหายใจของเขาก็หอบถี่ขึ้นอีกครั้ง ใจเต้นรัวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากนั้นก็หันหลัง พุ่งออกไปด้านนอกทันที

‘ของหลุดชิ้นใหญ่!

‘นี่มันเป็นของหลุดชิ้นที่ใหญ่ที่สุด…เท่าที่ข้าเคยเจอในตำหนักขบถจันทร์!

‘ไม่ได้การ ข้าต้องรีบแลกมาให้ไวที่สุด ถ้าพลาดของหลุดนี่ไป ข้าคงเสียใจไปทั้งชีวิตแน่!

‘เจ้ากระต่ายนี่ไม่มีทางไม่รู้ราคา แต่ทำไมถึงกำหนดราคาเช่นนี้ล่ะ…หรือว่าเขาจะเขียนผิดเพราะเรื่องอะไรบางอย่าง ที่ต้องการน่าจะเป็นเลือดผู้รับใช้เทวะหนึ่งพันหยดถึงจะถูก!’

พริบตาที่เดินออกมาจากศาลเจ้าของสวี่ชิง ความตื่นเต้นในใจชายกำยำก็ไม่อาจพรรณนาได้แล้ว เขารู้สึกว่าตนเองต้องรีบแลกยาลูกกลอนบรรเทาทุกข์ที่ล้ำค่ามหาศาลเม็ดนี้ก่อนที่เจ้าโง่นั่นจะรู้ตัว

‘จะให้คนสังเกตเห็นไม่ได้!’

คิดถึงตรงนี้ ชายกำยำที่เดินออกจากศาลเจ้าก็รีบสะกดความตื่นเต้นในใจ แสดงท่าทีสงบนิ่งมากๆ ออกมา กระทั่งเมื่อมีคนเดินผ่านที่ด้านนอก เขายังแสดงสีหน้าหยามหมิ่นอย่างกับกำลังมองขยะ

และเมื่อมาถึงที่ที่ไม่มีคน เขาก็สะกดไว้ไม่อยู่อีกต่อไป รีบติดต่อสหายของตนในตำหนักขบถจันทร์ ใช้เส้นสายกับช่องทางทั้งหมดของตน รวบรวมเลือดผู้รับใช้เทวะมา

‘เจ้ากระต่ายน้อยนั่นไม่ได้ระบุว่าจะต้องเป็นของคนคนเดียว เช่นนั้นก็ง่ายหน่อยแล้ว หลายปีมานี้ มีคนมากมายที่ปะทะกับผู้รับใช้เทวะ เลือดของผู้รับใช้เทวะจะมากจะน้อยก็ถือว่ามีอยู่บ้าง’

ระหว่างความดีใจนี้ ชายกำยำก็ฮึกเหิม ทุ่มพลังทั้งหมด ในที่สุดหลังจากผ่านไปหนึ่งวัน เขาก็รวบรวมเลือดผู้รับใช้เทวะมาจนครบจากทั่วสารทิศ

ในหนึ่งวันนี้ เขากังวลว่าจะมีคนมาแลกไปเสียก่อน กระทั่งยังคอยเฝ้าอยู่นอกศาลเจ้าตน ทำทีเป็นเดินเอ้อระเหย แต่อันที่จริงคอยระวังรูปปั้นทั้งหมดที่สัญจรไปมา กลัวจะมีคนไปที่สวี่ชิงทางนั้น

จนถึงตอนนี้ ได้รับเลือดผู้รับใช้เทวะมาครบแล้ว ชายกำยำก็เดินเข้าไปในศาลเจ้าสวี่ชิงอย่างรวดเร็วราวสายลม พุ่งตรงไปยังแสงกลุ่มนั้นอย่างใจร้อน แลกเปลี่ยนด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี

พริบตาต่อมา ตอนที่ลูกกลอนเม็ดหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา ชายกำยำก็รีบดม ในใจยินดีปรีดาอย่างยิ่ง

‘สี กลิ่น เหมือนกับที่คนอื่นขาย น่าจะเป็นของจริง!

‘ฮ่าๆ ของหลุดชิ้นใหญ่!!’

นอกจากความดีใจ จู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ สังเกตเห็นว่ารูปปั้นบนแท่นบูชาสั่นเล็กน้อย ก็ตกใจ

‘เจ้ากระต่ายกลับมาแล้ว เขาน่าจะสังเกตเห็นความผิดพลาด อยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว!’

ชายกำยำหันหลังพุ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ท่าทางรู้สึกผิดที่เอาเปรียบผู้อื่น รีบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ร่างของเขาหายไป รูปปั้นบนแท่นบูชาก็ลืมตาทั้งสองขึ้น

สวี่ชิงกลับมาแล้ว

‘คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ขายวัตถุดิบในตำหนักขบถจันทร์ออกไป ต่อให้ข้าอยู่ที่โลกภายนอกก็ยังสัมผัสได้’ สวี่ชิงประหลาดใจเล็กน้อย เงยหน้ามองไปทางด้านนอกศาลเจ้า

เมื่อครู่เขาเห็นร่างหนึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ดูจากแถบผ้าที่แผ่นหลัง น่าจะเป็นเพื่อนบ้านที่เจือแววไม่ชอบใจตนมาตลอดคนนั้น

สวี่ชิงระแวดระวัง ตรวจสอบรอบๆ จนมั่นใจว่าไม่ปลอดภัย หลังจากนึกย้อนถึงแผ่นหลังที่เร่งรีบนั้น ก็คาดเดาคำตอบไว้ในใจแล้ว

‘คงคิดว่าข้าทำผิดไว้สินะ เก็บของหลุดชิ้นใหญ่ไป จึงหนีไปอย่างรู้สึกผิดเหรอ’

สวี่ชิงไม่สนใจ ยืนอยู่บนแท่นบูชายกมือคว้ากลุ่มแสงตรงหน้า

ทันใดนั้นกลุ่มแสงก็เปล่งแสงวูบวาบ ขวดลูกกลอนใบหนึ่งลอยออกมาจากด้านใน ร่วงมาบนมือเขา

หลังจากตรวจสอบ สวี่ชิงก็รู้สึกยินดีเป็นพิเศษ

‘ไม่ใช่ของคนผู้เดียว แต่มีอยู่นับสิบคน ไม่เลวๆ’

สวี่ชิงพึงพอใจมาก นี่จะเป็นตัวอย่างให้เขาศึกษาค้นคว้าได้อีกมากมาย จึงล้วงลูกกลอนบรรเทาทุกข์ออกมาใส่ไว้ในกลุ่มแสงอีกเม็ด

ครั้งนี้ยังคงเป็นเลือดผู้รับใช้เทวะหนึ่งร้อยหยด

ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จสิ้น รูปปั้นของสวี่ชิงก็สงบนิ่ง เขาเลือกกลับออกไป

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เพื่อนบ้านที่ไม่ใส่เสื้อด้านนอกศาลเจ้าคนนั้น ก็ปรากฏตัวอย่างระมัดระวัง สังเกตอยู่พักหนึ่งก็มั่นใจว่าสวี่ชิงออกไปแล้ว จึงผ่อนลมหายใจโล่งอก สีหน้าฮึกเหิมกระปรี้กระเปร่า

‘ฮ่าๆ เจ้าโง่คนนี้ เมื่อครู่จะต้องโมโหหนักแน่ๆ’

นึกถึงอีกฝ่ายฝ่าส่งเสียงดังอึกทึกครึกโครมนับเดือน ชายกำยำก็รู้สึกสบายใจขึ้น สังเกตเห็นว่ากลุ่มแสงในศาลเจ้าเหมือนจะมีของชิ้นใหม่มาแล้ว เขาจึงเดินเข้าไปอย่างได้ใจ

‘ไหนข้าดูหน่อยว่าเจ้ากระต่ายน้อยเอาอะไรมาขายอีก’

ชายกำยำสบายอารมณ์ ยกมือสัมผัส แต่พริบตาต่อมาดวงตาเขาก็เบิกกว้างอีกครั้ง หัวสมองมีทัณฑ์สวรรค์ฟาดผ่ากึกก้องยิ่งกว่าเดิม ระหว่างที่ใจส่งเสียงครืนครัน เขาก็รู้สึกเหมือนเป็นภาพมายา จึงไปยืนยันด้วยสัญชาตญาณ

ครู่ต่อมา ดวงตาเขาเลื่อนลอย

‘ทำไม…ถึงยังมีอีก

‘แล้วก็ยังเป็นเลือดผู้รับใช้เทวะหนึ่งร้อยหยดเหมือนเดิม

‘เป็นไปไม่ได้ หรือว่าเจ้านี่จะเป็นคนโง่จริงๆ…

‘ไม่สิ ไม่แน่ยาลูกกลอนนี้อาจจะมีปัญหา!!’

ชายกำยำสีหน้ามืดครึ้มทันที หันหลังเดินไป รีบกลับมายังศาลเจ้าของตัวเอง แล้วเลือกกลับออกไป เขาจะไปพิสูจน์ว่ายาลูกกลอนที่ซื้อมาเป็นของจริงหรือไม่

‘หากเป็นของปลอม เขาได้เห็นดี!’

ขณะที่กัดฟัน ชายกำยำก็จากไป

หนึ่งวันต่อมา เขากลับมาอีกครั้ง สีหน้ายังมีความตกใจหลงเหลืออยู่ พุ่งไปที่ศาลเจ้าของสวี่ชิงอย่างบ้าคลั่ง

‘ของจริง เป็นของจริง!’

แต่หลังจากที่เขามาถึงศาลเจ้าของสวี่ชิง ก็พบว่าคนอื่นแลกยาลูกกลอนในกลุ่มแสงไปแล้ว ความตื่นเต้นนี้ก็กลายเป็นความเสียใจอย่างสุดซึ้งในพริบตา

‘ให้ตายเถอะ ทำไมก่อนหน้านี้ข้าไม่แลกไว้นะ!’

ชายกำยำทุบอก รู้สึกเจ็บใจอย่างยิ่ง ความรู้สึกที่พลาดของชิ้นนั้นไปทำให้เขามาสำนึกเสียใจก็ไม่ทันการ จึงรออีกสองสามวัน พบว่าสวี่ชิงทางนั้นไม่ได้วางยาลูกกลอนเอาไว้อีกเลย สิ่งนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกขมขื่นและเสียใจรุนแรงขึ้นไปอีก

บทที่ 592 สร้างชื่อในตำหนักขบถจันทร์ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา