บทที่ 606 ท่านบรรพจารย์ เจ้าโจรกระจอกมันอยู่ในร้าน
ณ ตำหนักขบถจันทร์ หลังจากสวี่ชิงจากไปครึ่งชั่วยาม ผู้ติดตามเจ็ดแปดคนนั้นที่อยู่ในศาลเจ้า ได้สรุปรวมความคิด แต่ละคนฉายสีหน้าฮึกเหิม เดินออกมาจากศาลเจ้า
ทันทีที่ปรากฏตัวออกมา ก็ดึงดูดความสนใจจากคนที่รอตามความเคยชินพวกนั้นที่อยู่ข้างนอก
“ปรมาจารย์ลูกกลอนเก้ามีคำสั่ง!”
ชายกำยำเพื่อนบ้านยืนอยู่ข้างหน้าสุด เสียงราวระฆัง ดังก้องไปทั่วสารทิศ
“หลังจากนี้สิบวัน ปรมาจารย์จะเปิดตัวลูกกลอนยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน!
“ลูกกลอนนี้มีความแตกต่างกับลูกกลอนบรรเทาทุกข์ดั้งเดิมอย่างมหาศาล นี่จะเป็นลูกกลอนที่ไม่เคยมีมาก่อนในห้วงเวลาอันเนิ่นนานมาของตำหนักขบถจันทร์!
“ความอัศจรรย์ของสรรพคุณยามากพอที่จะพลิกตลบทุกสิ่ง!”
จากคำพูดที่ดังขึ้น เทวรูปที่อยู่รอบๆ เหล่านั้นต่างสีหน้าเปลี่ยนไป ตั้งใจฟังอย่างละเอียด
เห็นเป็นเช่นนี้ ชายกำยำเพื่อนบ้านสูดลมหายใจลึก ในดวงตาฉายความหวัง เสียงยังราวสายฟ้า ดังออกมาอีกครั้ง
“ข้าไม่พูดอะไรมาก ข้าบอกทุกท่านได้แค่ว่า ชื่อของลูกกลอนเม็ดนี้ไม่ใช่บรรเทาทุกข์ แต่เป็นคลายคำสาป!”
“ลูกกลอนคลายคำสาป!”
คำพูดนี้เมื่อดังขึ้น รูปสลักเทพเจ้าที่อยู่นอกศาลเจ้าทั้งหมดก็ตื่นตะลึง แต่ละรูปจิตเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหม ในสีหน้าแฝงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
กระทั่งมีคนส่งเสียงออกมาทันที
“ลูกกลอนคลายคำสาป ลบล้างคำสาปน่ะหรือ”
“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร!”
“นี่คือคำสาปของชื่อหมู่ ใครจะกล้าแก้”
เสียงฮือฮาดังขึ้นมาทันที ทั้งๆ ที่รูปสลักเทพเจ้าข้างนอกมีแค่ไม่กี่สิบรูป แต่ข่าวที่ตื่นตะลึงเช่นนี้ก็ทำให้พวกเขาส่งเสียงออกมาราวกับมีจำนวนหลายร้อยคน
เห็นเช่นนี้ ชายกำยำเพื่อนบ้านสูดลมหายใจลึก เอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
“สิบวันหลังจากนี้ ปรมาจารย์กลับมาจะประกาศครั้งแรกที่นี่ ทุกท่านสงบจิตใจรอคอยสิบวัน ให้พวกเรามาเป็นประจักษ์ต่อเรื่องปาฏิหาริย์นี้ร่วมกัน!”
พูดจบ ร่างของเขาก็เพียงไหววูบตรงดิ่งไปที่ไกล และผู้ติดตามคนอื่นก็ต่างกระจายตัวกันไป ทำตามการหารือของพวกเขาก่อนหน้านี้ พวกเขาภายในสิบวันนี้จะต้องพยายามกระจายเรื่องนี้ไปให้ทั่วทั้งตำหนักขบถจันทร์ให้ได้มากที่สุด
ในใจของพกวเขาก็รู้ดี เรื่องนี้ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องผลักดัน เพียงแค่กระจายไปเล็กน้อยก็จะต้องฮือฮาไปทั่วทุกสารทิศแน่นอน
อย่างไรตอนนี้ปรมาจารย์ลูกกลอนเก้าในตำหนักขบถจันทร์ก็มีชื่อเสียงไม่น้อย การจับตามองให้ความสำคัญสูงมาก ดังนั้นคำพูดที่เหลือเชื่อของเขาจะต้องทำให้เกิดคลื่นส่งผลไปในวงกว้างอย่างแน่นอน
จินตนาการได้ว่า สิบวันที่จะถึงนี้ เสียงสงสัยจะต้องปะทุขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
จากการป่าวประกาศของพวกเขา ในใจรูปสลักเทพเหล่านั้นนอกศาลเจ้าต่างเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหม ต่างแยกย้ายกันไปเผยแพร่เรื่องนี้กันเอง
เพราะ…ลูกกลอนคลายคำสาปสามคำนี้มีความหมายที่ยิ่งใหญ่นัก
ความจริงก็เป็นอย่างที่ชายกำยำเพื่อนบ้านพวกผู้ติดตามเหล่านั้นคาดการเอาไว้ กระทั่งว่ารุนแรงขึ้นอีก วันที่สี่ที่เรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ลมพายุระลอกหนึ่งก็ปะทุขึ้นทั่วทั้งตำหนักขบถจันทร์
ทุกคนที่ได้ยินล้วนตื่นตะลึง สิ่งที่ตามมาคือข้อกังขามากมายไม่หมดสิ้น
“วาจาราวผายลม คนโง่เท่านั้นถึงจะเชื่อ!”
“ยังมีคนบอกว่าแก้คำสาปได้อีกหรือนี่ นี่เป็นวาจาเพ้อเจ้อชัดๆ!”
“นั่นเป็นคำสาปของเทพเจ้า ปรมาจารย์ลูกกลอนเก้าก็จะเป็นเทพเจ้าอย่างนั้นรึ!”
“แต่…สมมติว่าได้เล่า สมมติว่าแก้ได้จริงๆ ต่อให้แค่นิดเดียวก็ตาม”
ในเสียงสงสัยนับไม่ถ้วน ประโยคที่บอกว่าสมมติประโยคนี้ที่ปะปนอยู่ ทำให้ทุกคนต่างลังเล ความหวังคือเปลวไฟในใจของทุกคน
ต่อให้เป็นผู้คนที่อาศัยในแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา เปลวไฟกองนี้ส่วนมากจะมอดดับ แต่ผู้ที่สามารถเข้าร่วมกับตำหนักขบถจันทร์ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตาทั้งนั้น
ดังนั้น เปลวไฟกองนี้ในเสี้ยวขณะนี้ก็แผ่ระลอกขึ้นมา
แต่นี่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความสงสัย เพราะยิ่งหวังก็ยิ่งกลัวผิดหวัง ก็จะยิ่งสงสัยไปตามสัญชาตญาณ สำหรับสมาชิกทั่วไปของตำหนักขบถจันทร์เป็นเช่นนี้ สำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องลูกกลอนและผู้บำเพ็ญที่ศึกษาคำสาปก็ยิ่งเป็นเช่นนี้เช่นกัน
“พวกเราผู้บำเพ็ญเกลียดคนประเภทชอบโอ้อวดเป็นที่สุด สหายลูกกลอนเก้าผู้นี้พูดจาไม่รับผิดชอบเกินไปแล้ว!”
“วาจาเช่นนี้ให้ความหวังกับผู้อื่น หากสุดท้ายไม่สมหวัง ชื่อเสียงคนคนนี้จะดิ่งวูบ!”
“ลูกกลอนคลายคำสาป ลูกกลอนคลายคำสาป…ง่ายเสียที่ไหน นับแต่โบราณกาลมา ไม่มีใครทำได้ นอกเสียจากเขาจะเป็นเทพเจ้า นอกเสียจากเขาจะเป็นบุตรเทวะ!”
คำวิพากษ์วิจารณ์นับไม่ถ้วนแปรเปลี่ยนเป็นลมฝน กลายเป็นระลอกคลื่นที่ใหญ่ที่สุดในตำหนักขบถจันทร์ช่วงนี้ กระทั่งว่าผู้นำระดับสูงตำหนักขบถจันทร์บางคนก็ได้ยินเรื่องนี้ ทำการจับตามองเช่นกัน
ส่วนคนที่เชื่อก็มีเหมือนกัน แต่คำวิจารณ์เก้าส่วนล้วนแฝงไว้ด้วยผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกัน ปรมาจารย์ที่ปกติแล้วมีบารมีชื่อเสียงบางคนก็ต่างปรากฏตัว บางคนวิพากษ์วิจารณ์ บางคนศึกษาความเป็นไปได้ของเรื่องนี้
ตอนนี้ ทางด้านตะวันตกของแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา บนที่ราบเก้าสีที่ห่างจากทะเลเพลิงสวรรค์เป็นระยะทางหนึ่ง ก็มีปรมาจารย์เช่นนั้นซ่อนตัวอยู่ที่นี่คนหนึ่ง
ข้างหน้าถ้ำที่เขาปิดด่าน ตอนนี้มีคนคนนหนึ่งมาถึงอย่างเร็วรี่ คุกเข่าหมอบคารวะอยู่ตรงนั้น ยกขวดลูกกลอนขวดหนึ่งขึ้นเหนือศีรษะ
“ท่านอาจารย์ ศิษย์ซื้อลูกกลอนบรรเทาทุกข์ที่เจ้าลูกกลอนเก้าหลอมมาจากคนอื่นได้แล้วขอรับ”
นานหลังจากนั้น ประตูถ้ำเปิดออก แรงดูดมหาศาลแผ่มาจากในนั้น หุ้มขวดลูกกลอนเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
ในถ้ำ ชายชราสวมชุดคลุมยาวสีขาวคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิ ข้างๆ ยังมีกระรอกตาแดงอีกหลายสิบตัวล้อมรอบ กระรอกพวกนี้แต่ละตัวล้วนแผ่นกลิ่นอายไม่ธรรมดา นั่งขัดสมาธิเหมือนคน
จากการลอยมาของขวดลูกกลอน ชายชรายกมือคว้าเอาไว้ เปิดออกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ หลังจากดมไปหนึ่งทีก็เอาออกมาไว้ข้างหน้าประเมินครู่หนึ่ง
“มีกลิ่นอายของลมขาวทะเลทรายคราม
“นี่เป็นพลังที่อาศัยพลังชีวิตลมขาวทางนั้น อาศัยวิธีนี้ทำให้ดูเหมือนสมดุลกับคำสาปชื่อหมู่ แต่ความจริง…วิธีนี้ เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ผู้คนก็ล้มเลิกไปแล้ว
“ผู้ที่กินลูกกลอนนี้ในแรกเริ่มไม่เป็นไร แต่เมื่อนานไปก็จะถูกพลังย้อนโจมตี”
ชายชราเอ่ยราบเรียบ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา