เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 611

บทที่ 611 คนผู้นั้นค่อนข้างเหมือนเอ้อร์หนิว

ตอนนี้ในตำหนักขบถจันทร์ บนท้องฟ้า ในศาลเจ้าระดับสูงทั้งเก้า มีศาลเจ้าแห่งหนึ่งประกายแสงสาดส่องท่วมฟ้า

ในนั้นมีเงาร่างสูงใหญ่ประหนึ่งเทพเจ้าองค์หนึ่ง มาพร้อมพลังอำนาจสูงสุด เดินออกมา

เงาร่างสูงใหญ่พันจั้ง ทั่วทั้งร่างสีทอง มีสามเศียรหกกร ทุกมือล้วนถือภูเขาสีต่างกันไปเอาไว้ ข้างหลังยิ่งมีประกายแสงเป็นชั้นๆ ซ้อนทับ ประกายแสงราวดวงอาทิตย์ แผ่รัศมีเจิดจ้าพร่างพรายออกมา

เหนือมนุษย์เกินธรรมดา

การปรากฏตัวของเขาสั่นสะเทือนขุนเขา ตีเกลียวไปทั่วทุกสารทิศ เมฆหมอกฟุ้งตลบ ยิ่งมีความกดดันยากบรรยายถล่มภูเขาล่มมหาสมุทรแผ่ปกคลุมไปทุกมุมทั่วทั้งตำหนักขบถจันทร์

ผู้ที่สัมผัสได้ต่างใจสั่นสะท้าน ก้มหน้าลงไป โค้งคารวะไปทางศาลเจ้าบนฟ้า

“รองเจ้าตำหนักสี่!”

ศาลเจ้าสูงสุดทั้งเก้าบนท้องฟ้าเหนือตำหนักขบถจันทร์คือผู้นำสูงสุดของตำหนักขบถจันทร์ในตอนนี้

แม้จะมีเพียงห้าแห่งที่มีเทพประทับ ยังมีอีกสี่แห่งที่ยังไม่มีผู้สืบทอด แต่ทั้งห้าแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นแห่งใดล้วนมีอำนาจในตำหนักขบถจันทร์ทั้งสิ้น ยิ่งเป็นกำลังหลักของตำหนักขบถจันทร์

หลายปีมานี้ทั้งตำหนักขบถจันทร์ก็อยู่ภายใต้การนำของพวกเขารองเจ้าตำหนักทั้งห้า เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง เข้าร่วมการต่อต้านตำหนักเทพพระจันทร์สีชาดลับๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า

ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาลึกลับยากหยั่งถึง ที่ผ่านมาเวลามาเยือนล้วนมาประกาศเรื่องสำคัญทั้งสิ้น ตอนนี้เห็นรองเจ้าตำหนักลงมาเยือน เทวรูปที่นี่ทั้งหมดต่างตื่นตะลึงทั้งสิ้น รอการประกาศเรื่องใหญ่

“วันนี้ข้ามาที่นี่ไม่ได้มีเรื่องมาประกาศแจ้ง แต่ได้รับคำเชิญจากปรมาจารย์เซิ่งลั่ว มาที่นี่เพื่อมาร่วมพิธีเปิดตัวยาลูกกลอนของเขา เชิญทุกท่านตามสบาย”

บนท้องฟ้า เทพเจ้าสูงพันจั้งนั่งขัดสมาธิ เอ่ยอย่างสงบนิ่ง เสียงกังวานประดุจระฆัง แผ่กว้างไกลไร้ขอบเขต แปรเปลี่ยนเป็นแว่วเสียงดังก้องไปในจิตใจ

คำพูดของเขายิ่งทำให้เทวรูปทั้งหลายในตำหนักขบถจันทร์ฮือฮาและเอะอะโหวกเหวก ผู้บำเพ็ญที่สนับสนุนปรมาจารย์เซิ่งลั่วทางนั้นฮึกเหิมขึ้นมาทันที ส่วนที่สนับสนุนปรมาจารย์ลูกกลอนเก้าในใจกลับหล่นวูบ

“ปรมาจารย์เซิ่งลั่วมีชื่อเสียงบารมีจริงๆ ได้รับความเคารพจากผู้คน แม้แต่รองเจ้าตำหนักสี่ยังมาร่วมพิธีด้วยตัวเอง!”

“ก็ไม่รู้จักดูว่าปรมาจารย์เซิ่งลั่วหลายปีมานี้มีบุญคุณกับคนตั้งเท่าไร ช่วยผู้บำเพ็ญมากเพียงใด และมีเพียงปรมาจารย์เซิ่งลั่วเท่านั้นที่จะเชิญรองเจ้าตำหนักได้!”

เพียงพริบตา คลื่นเสียงในตำหนักขบถจันทร์ก็ปะทุขึ้น ส่วนมากล้วนเอนเอียงไปทางเซิ่งลั่ว ส่วนลูกกลอนเก้าทางนั้นส่วนใหญ่ล้วนเงียบนิ่ง ต่อให้เป็นชายกำยำเพื่อนบ้านคนนั้นและเทวรูปหกตารูปนั้นก็เริ่มหวั่นไหวเล็กน้อย

ตอนนี้เอง ศาลเจ้าที่ทำจากหยกทั้งหลังถูกล้อมรอบด้วยเทวรูปนับไม่ถ้วนที่กลางเขาตำหนักขบถจันทร์ ก็พลันเปิดประตูออกช้าๆ ประกายแสงมหาศาลสาดออกมา ยิ่งมีเสียงระฆังดังก้องเป็นระลอก

กระถางธูปข้างหน้าศาลเจ้าตอนนี้ควันธูปพวยพุ่ง ลอยหนา ในขณะที่ควันล้นทะลัก ในประตูก็มีเทวรูปหนึ่งเดินออกมา

รูปร่างหน้าตาของเทวรูปนี้ดุดัน ใต้ฝ่าเท้ามีเมฆมงคล ที่หว่างคิ้วมีดวงตา ในดวงตาฉายประกายที่ชวนดึงดูดผู้คน โดยเฉพาะที่เหนือศีรษะมีเตาหลอมลูกกลอนเตาหนึ่งกำลังหมุนอยู่ และมีกลิ่นหอมของยาตลบอวลไปทั่ว

ตอนนี้จากการเดินออกมาของเขา เทวรูปที่รออยู่นานแล้วรอบๆ เหล่านั้นก็ต่างมองไป ในดวงตาของพวกเขาฉายแววฮึกเหิม แฝงด้วยความเคารพนับถือ

“เป็นปรมาจารย์เซิ่งลั่ว! ด้วยฐานะอย่างปรมาจารย์ยังตรงเวลาถึงเพียงนี้!”

“นี่ก็คือปรมาจารย์เซิ่งลั่ว มีระเบียบวินัยในตัวเองล้วนเป็นรูปแบบที่ท่านยึดมั่น เข้มงวดเป็นวิธีการทำงานที่ปฏิบัติเสมอ”

ท่ามกลางเสียงเคารพบูชาเป็นระลอกๆ ขึ้นลงนี้ ปรมาจารย์เซิ่งลั่วเดินออกมาจากศาลเจ้า เดินมายังกลางอากาศ ทั้งตำหนักขบถจันทร์ในตอนนี้ดวงตานับไม่ถ้วนจ้องมองมา เสียงแสดงความเคารพนับไม่ถ้วนซ้อนทับกัน แปรเปลี่ยนเป็นเสียงดังกึกก้อง สั่นสะเทือนฟ้าดิน

“คารวะปรมาจารย์!”

กวาดสายตามองไป เทวรูปนับไม่ถ้วนก้มหน้าคารวะ เพียงพริบตา ปรมาจารย์เซิ่งลั่วที่อยู่กลางท้องฟ้า เป็นที่จับจ้องของคนทั้งหลาย รัศมีอำนาจท่วมท้น

เซิ่งลั่วในใจพอใจนัก มองไปรอบๆ พยักหน้าเล็กน้อย

“ปล่อยให้สหายทุกท่านรอนานแล้ว”

เขาพูดพลางเงยหน้ามองไปทางรองเจ้าตำหนักสี่ ประสานหมัดคารวะ

“ขอบพระคุณรองเจ้าตำหนักสี่ที่มาร่วมพิธีเปิดตัวลูกกลอนของข้า”

บนท้องฟ้า เจ้าตำหนักสี่ยิ้ม

“ข้าก็เฝ้ารอลูกกลอนของท่านปรมาจารย์มานานแล้วเช่นกัน”

เซิ่งลั่วได้ยินก็ยิ้ม กำลังจะเอ่ยปากอีกครั้ง แต่ในตอนนี้ข้างล่างภูเขาตำหนักขบถจันทร์ ประตูศาลเจ้าเล็กๆ ของสวี่ชิงก็เปิดออกช้าๆ เทวรูปที่แบกน้ำเต้ารูปหนึ่งเดินออกมาจากในนั้น

เป็นสวี่ชิงนั่นเอง

การปรากฏตัวของเขาไม่มีแสงพร่างพรายอะไร ไม่มีธูปล้นทะลัก กระทั่งในตอนที่ปรากฏตัวมีคนไม่เท่าไรที่สังเกตเห็นเงาร่างของเขา

มีเพียงผู้ติดตามเหล่านั้นของเขาเท่านั้นที่คอยจับตามองอยู่ตลอดเวลา ถึงได้เห็นสวี่ชิงในทันที

ทันทีที่เห็นสวี่ชิงปรากฏตัวขึ้น ผู้ติดตามเหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าตื่นเต้น ต่างก้าวขึ้นไปหา

“ปรมาจารย์ลูกกลอนเก้า!”

“คารวะท่านปรมาจารย์!”

ชายกำยำเพื่อนบ้านคนนั้นประชิดเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว สีหน้าแฝงด้วยความตื่นเต้น เอ่ยเสียงดัง

“ท่านปรมาจารย์ ในที่สุดท่านก็มา!”

ข้างหลังเขา เทวรูปหกตาก็ประชิดมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ดวงตาทั้งหกคล้ายมีน้ำตาคลอเบ้า ดวงตาไม่กะพริบ สีหน้าเต็มไปด้วยความฉึกเหิม เสียงดังยิ่งกว่าเดิม ดังไปทั่วทั้งสี่ทิศ

“ปรมาจารย์ลูกกลอนเก้า บารมีสูงส่งไปทั่วสวรรค์ทั้งเก้า ลูกกลอนแพร่ไปทั่วทั้งสิบทะเล สร้างวาสนาสร้างสุขร้อยโลก ชื่อเสียงคงอยู่พันปี!”

เสียงของเทวรูปหกตาเพียงดังขึ้น รัศมีอำนาจก็ไม่ธรรมดาขึ้นมาทันที เหนือกว่าคนอื่นมาก ทำให้ผู้ติดตามคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ หันมองไปตามสัญชาตญาณ ทยอยตะโกนประโยคเดียวกันออกมา

บทที่ 611 คนผู้นั้นค่อนข้างเหมือนเอ้อร์หนิว 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา