เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 625

บทที่ 625 วันวานที่งดงาม รับพรจากสวรรค์

“ร่วงลงไปอีกแล้ว”

รัฐทายาทนั่งยองๆ อยู่นอกหลุม เอ่ยเสียงราบเรียบ

สวี่ชิงอยู่ในหลุม กลัดกลุ้มไม่ส่งเสียง ก้มหน้ามองที่ที่ตนเองอยู่

ที่นี่เป็นด้านในของถ้ำพำนักแห่งหนึ่งที่ร้างแล้ว

มีถ้ำพำนักเช่นนี้ในเทือกเขาทนทุกข์ไม่น้อย ส่วนใหญ่เป็นเหล่าผู้บำเพ็ญนับตั้งแต่อดีตที่ลงมือขุดกันเองเป็นที่หลบภัย

มองจากด้านนอกเทือกเขาจะมองไม่เห็น และมีเพียงสวี่ชิงที่มีน้ำหนักตัวเช่นนี้ ถึงสัมผัสชั้นผิวถ้ำเหล่านี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักได้ด้วยตัวเอง

“ในเทือกเขานี้มีสิ่งที่คล้ายถ้ำพำนักอยู่ไม่น้อย เส้นทางนี้ มีบางจุดที่เจ้าต้องปีน”

รัฐทายาทมองสวี่ชิงผาดหนึ่งจากนอกหลุม รู้สึกเบิกบานใจขึ้นมา ราวกับว่าได้เห็นสวี่ชิงหน้ามอมแมมเช่นนี้ เขาถึงรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

นี่ทำให้เขานึกถึงตัวเองตอนที่เสด็จพ่อนำดวงอาทิตย์มาล่ามไว้ที่เอว เดินไปล้มลุกคลุกคลานไปตอนเด็กๆ

‘ยังขาดหมวก’

รัฐทายาทพึมพำในใจ ตอนเขาเด็กๆ ไม่ได้แค่ล่ามดวงอาทิตย์ไว้ที่เอว แต่ศีรษะยังมีหมวกที่เพิ่มน้ำหนักให้กับจิตวิญญาณอีกใบ

เห็นว่าสวี่ชิงไม่มี รัฐทายาทก็รู้สึกนึกเสียใจ

สวี่ชิงที่อยู่ในหลุมลึกเงยหน้าขึ้นมามองรัฐทายาท โคจรปราณก่อกำเนิดอื่นนอกจากพลังพระจันทร์สีม่วงในร่างกาย แบ่งเบาแรงกดดันรวมถึงน้ำหนักที่มาจากดวงอาทิตย์

ค่อยๆ ปีนออกมา

ความรู้สึกนี้เหมือนกับตนอยากจะล่องลอยอยู่บนฟ้าสุดชีวิต แต่การปกคลุมของของพลังดวงอาทิตย์ ทำให้ตนมีภาระหนักอึ้ง ต่อให้ทุ่มสุดกำลัง ก็ทำได้เพียงรักษาสมดุลไว้เท่านั้น

ประสบการณ์คล้ายๆ กันนี้ สวี่ชิงพบเจอบ่อยครั้ง

ตอนนั้นที่เขาอยู่ในกรมปราบพิฆาตเขตปกครองผนึกสมุทร เขาก็เหมือนเคยได้สัมผัสประสบการณ์คล้ายๆ กันนี้ เพียงแต่ตอนนั้นคือการแบกรับแรงกดดันของโลกใบเล็กใบหนึ่ง

มองจากชื่อ โลกใบเล็กคล้ายจะหนักกว่าลูกเหล็กดวงอาทิตย์ แต่ความจริงแล้วจากการที่สวี่ชิงได้สัมผัสมากับตัว ทั้งสองอย่างเป็นขั้วตรงข้ามกันพอดี

นี่ทำให้เขานึกถึงที่มาของลูกเหล็กดวงอาทิตย์ซึ่งนายกองเคยพูดถึง

ในแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรานี้ ดวงอาทิตย์ที่มนุษย์สร้างขึ้นดวงแรกมาจากยุคสมัยของเจ้าเหนือหัว ห่างจากตอนนี้ถือว่าข้ามผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน กระทั่งว่าใครเป็นคนสร้างก็ไม่มีบันทึกแล้ว

“ตั้งใจฝึกประสบการณ์จากแรงกดดันของของเล่นชิ้นนี้นะ นี่เป็นของเล่นที่จักรพรรดิโบราณมอบให้ข้าในตอนนั้น” รัฐทายาทมองสวี่ชิงที่ปีนขึ้นมาอย่างลำบาก เอ่ยเสียงเรียบ

สวี่ชิงได้ยินก็ก้มหน้ามองลูกเหล็กที่เอวผาดหนึ่ง

“ผู้อาวุโส ของสิ่งนี้นอกจากแรงกดดันกับน้ำหนักแล้ว ยังมีพลังอย่างอื่นด้วยใช่หรือไม่ขอรับ”

รัฐทายาทลุกขึ้นยืน เดินไปด้านหน้า เสียงลอยมาตามลม

“ตอนนั้นที่มันยังเป็นแค่ดาวดวงหนึ่ง มีพลังอย่างอื่นอยู่ สามารถใช้ตาข่ายเซียนที่ปกคลุมทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ปลดปล่อยพลังทำลายล้างได้ ส่วนตอนนี้…จากการจากไปของจักรพรรดิโบราณ ตาข่ายเซียนสลายหายไป มันจึงไร้ค่า”

น้ำเสียงเจือการย้อนรำลึกบางอย่าง แฝงการผ่านห้วงเวลามาเนิ่นนาน

สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด เดินตามอยู่ด้านหลัง ส่งเสียงครืนครัน…ตลอดทาง

ลมกำลังพัดหวีดหวิวตามทั้งสองที่เดินไปไกลๆ พัดเสียงของพวกเขาไปรอบด้าน ซึมซาบเข้ามาในร่างกาย

“ผู้อาวุโส ข้าได้ยินมาว่า สถานที่ที่จักรพรรดิโบราณอยู่ เรียกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หรือขอรับ”

“สถานที่ที่พวกขี้ขลาดรวมตัวกันคู่ควรที่จะเรียกว่าศักดิ์สิทธิ์หรือ จักรพรรดิโบราณน่ะ…แก่แล้ว และเมื่อคนแก่ตัวลง ก็ยิ่งรักตัวกลัวตาย”

“อ้อ เช่นนั้นสถานที่ที่พวกขี้ขลาดนั่นอยู่ที่ใดหรือขอรับ”

“ฮ่าๆ จากประวัติศาสตร์เผ่ามนุษย์ข้า วันที่สิบสองเดือนหกของทุกปี เจ้าเงยหน้ามองไปบนฟากฟ้าทางทิศเหนือ ตรงนั้นจะมีดาวแปลกประหลาดอยู่ดวงหนึ่ง ที่นั่นคือสถานที่ของพวกขี้ขลาดซึ่งอยู่ใกล้กับต้องประสงค์มากที่สุด

“สถานที่ของพวกขี้ขลาด มีกี่แห่งหรือขอรับ”

“ตอนนั้นมีเจ้าเหนือหัวจักรพรรดิโบราณหนีออกไปกี่พระองค์ ก็มีเท่านั้นนั่นแหละ นับๆ แล้ว ถ้ารวมทุกเผ่า น่าจะได้มากกว่าหนึ่งร้อย ตอนนั้นจักรพรรดิโบราณก็ให้เสด็จพ่อของข้ามาดวงหนึ่งเช่นกัน แต่พวกเราปฏิเสธ”

ม่านราตรีประกอบเสียงครืนครันสอดประสานกับเสียงสนทนาของหนึ่งแก่หนึ่งหนุ่ม ค่อยๆ จางหายไป

ยามรุ่งอรุณมาถึง

การแผ่ขยายของพระจันทร์สีชาดที่ขอบฟ้า แม้จะเป็นการนับถอยหลังเวลาตายของใต้หล้า แต่สุดท้ายก็ทำให้ม่านฟ้าของแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรามีแสงที่แตกต่างกับที่อื่น

ต่อให้เป็นแสงเลือดก็ตาม

ดังนั้นเทือกเขาทนทุกข์ในตอนเช้าตรู่ หลังจากที่ต่างๆ มีต้นกำเนิดแสงที่เกิดจากเวทลอยขึ้นมา ทำให้สีเลือดจางลงระดับหนึ่ง

ด้วยแสงเบาบางผืนนี้ทำให้มองเห็นชายขอบของเทือกเขาทนทุกข์ได้ ตรงนั้นมีภูเขาที่โดดเด่นอยู่แห่งหนึ่ง

ภูเขาลูกนี้สูงพอๆ กับเขาทนทุกข์ เชื่อมต่อกัน แต่จากการเข้าใกล้ สวี่ชิงก็สังเกตเห็นว่าเขาลูกนี้เหมือนจะไม่ใช่ภูเขา

มันยิ่งเหมือนเป็นต้นไม้ขนาดยักษ์ที่แปรสภาพเป็นหินจนกลายเป็นภูเขาต้นหนึ่ง

ด้านล่างยอดไม้ลงไป จมเข้าไปในทะเลทราย ส่วนยอดไม้ก็ถูกทรายปกคลุม และกลายเป็นยอดเขา

“ต้นไม้ต้นนี้ชื่อว่าต้นไม้ท่องสำราญ ถือเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ประหลาดบรรพกาล” รัฐทายาทมองภูเขาที่แปรมาจากต้นไม้ยักษ์ลูกนั้น เอ่ยราบเรียบ

“ต้นไม้เช่นนี้ ในแผ่นดินใหญ่มีอยู่มากมาย และไม่มีใครให้ความสำคัญ น้อยคนที่รู้ว่าต้นไม้ต้นนี้คือต้นที่พี่หญิงสามของข้าแอบปลูกไว้ ตอนนั้นข้าติดตามนางมาที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยาน แต่ตอนนี้…ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ต้นไม้ต้นนี้ก็เฉาตายไปหลายปีแล้ว”

สวี่ชิงเงยหน้า มองไปที่ภูเขาไกลๆ สังเกตเห็นว่ารอบๆ ภูเขานั้นมีร่างพวกผู้บำเพ็ญชุดคลุมแดงวนไปวนมาเหมือนแมลงวัน คล้ายกำลังตรวจสอบอะไร

ในนั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นปราณก่อกำเนิด หล่อเลี้ยงมรรคามีอยู่หนึ่งตน และยังมีสมบัติวิญญาณอีกหนึ่งตน

พวกเขามาจากตำหนักเทพพระจันทร์สีชาดของเทือกเขาทนทุกข์

“เดิมมีทูตเทวะหวนสู่อนัตตาด้วย แต่น่าจะถูกพี่หญิงสามกินไปแล้ว

“ที่เหลืออยู่พวกนี้ เหลือไว้ให้เจ้าทดสอบอำนาจร่างของตัวเอง

“รอยามที่ข้ากับพี่หญิงสามออกมา หวังว่าเจ้าจะสามารถจัดการจนเกลี้ยงได้”

รัฐทายาทกล่าวจบ ร่างกายก็เลือนรางหายไปจากข้างกายสวี่ชิง เข้าไปในภูเขาเบื้องหน้า

สวี่ชิงมองลูกเหล็กที่เอวผาดหนึ่ง หลับตาลง พริบตาต่อมาก็โคจรพลังพระจันทร์สีม่วง เลือดสดกระจายออกมาจากร่างเขาหยดแล้วหยดเล่า แผ่ปกคลุมไปรอบด้าน ไม่นานสวี่ชิงทั้งคนก็กลายเป็นคลื่นวนสีเลือดวงหนึ่ง

ขณะที่คลื่นวนนี้โคจรครืนครัน กลืนร่างของเขาไว้ด้านในก็กลายเป็นทะเลสาบสีเลือด แผ่ลามไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

ทุกจุดที่แล่นผ่าน หินภูเขาแต่ละก้อนถูกกลืนหาย ต้นหญ้าแต่ละต้นถูกย้อมเป็นสีแดง ทะเลสาบสีเลือดแผ่ความแปลกประหลาดและความอัปมงคล จากการแผ่ลามออกไป ก็ค่อยๆ น่าสยดสยองพรั่นพรึง ดึงดูดความสนใจของผู้บำเพ็ญตำหนักพระจันทร์สีชาดเหล่านั้น

“นี่คืออะไร!”

บทที่ 625 วันวานที่งดงาม รับพรจากสวรรค์ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา