เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 628

บทที่ 628 จักรพรรดิกำเนิดบุตรชายทั้งเก้า

เมื่อกล่าวคำว่าสรรพสิ่งฟื้นคืนสภาพออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบง่ายๆ ก็ทำให้ประสาทสัมผัสทั้งหมดของสวี่ชิงมีปฏิกิริยารุนแรงถึงขีดสุด

โดยเฉพาะประโยคหลังจากนั้นที่ว่ามีเพียงตนที่มิอาจฝืนได้ ในนี้เจือความโศกเศร้าที่ยากจะเอื้อนเอ่ยเลาๆ

บุตรีคนสุดท้องของเจ้าเหนือหัว นางเกิดมาก็มีพลังอำนาจ แต่อำนาจนี้สำหรับนาง อาจไม่ใช่เรื่องโชคดีอันใด

นางใช้ชีวิตของตนเอง ฟื้นคืนสภาพสรรพสิ่ง

ขณะที่ทรงพลัง ก็โหดร้ายอย่างยิ่ง และมีขีดจำกัดที่ชัดเจน

รัฐทายาทยกมือขึ้นหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าน้องหญิงห้าตามสัญชาตญาณ

เขาทำเช่นนี้มาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ใช่แค่เขา พี่น้องทั้งหมดล้วนทำเช่นนี้

องค์หญิงหมิงเหมยก็เช่นกัน

“ไม่ต้องหรอก เดิมทีข้าก็อยู่ได้อีกไม่นาน” ท่านย่าผู้ชราชุดดำเอ่ยเสียงเรียบ

“อยู่ได้อีกไม่นาน ก็ต้องใช้ชีวิต!” รัฐทายาทขมวดคิ้ว สีหน้าฉายแววน่าเกรงขาม คำพูดก็เผด็จการถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรก

เขาวาดมือขวาตบเบาๆ กลิ่นอายพลังชีวิตวูบหนึ่งแผ่ออกมาจากร่างเขา พุ่งไปหาท่านย่าผู้ชราชุดดำ

บังคับผสานเข้าไป

พริบตาต่อมา ร่างกายของท่านย่าผู้ชราชุดดำก็สั่นเทิ้ม กลิ่นอายเข้มข้นขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด นางมองพี่ชายผู้นี้ตรงหน้าอย่างซับซ้อน เงียบนิ่งไม่พูดจา

องค์หญิงหมิงเหมยก็ลงมือด้วยวิธีการเดียวกันเรียบร้อย สวี่ชิงคิดๆ จึงยื่นเลือดพระจันทร์สีม่วงหยดหนึ่งให้ด้วย

“ไม่ต้องใช้ของเจ้าหรอก”

รัฐทายาทยกมือดีดเลือดสดหยดนั้นกลับไปที่ร่างสวี่ชิง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ ร่างเงาของทุกคนรวมถึงประตูสีขาวดำนั่นจึงหายไปพร้อมกัน

สามวันต่อมา

น้ำหนักที่มาจากดวงอาทิตย์ ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความยากลำบากในทะเลทรายนี้อีกครั้ง

ครั้งนี้องค์หญิงหมิงเหมยไม่ได้หิ้วเขาออกมา นาง รัฐทายาทและน้องหญิงห้าของพวกเขากำลังนั่งขัดสมาธิเบื้องหน้าประตูสีขาวดำขนาดยักษ์อยู่บนท้องฟ้า

เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถเปิดประตูบานนี้ออกได้ในพริบตา ต้องผสานอำนาจของทั้งสามเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหลังจากกลับมาที่นี่ เตรียมสู่เทวะสามท่านนี้ก็เริ่มร่ายเวทแล้ว

และสวี่ชิงที่ไม่มีใครถามถึงเลือกที่จะฝึกบำเพ็ญด้วยตัวเอง

‘อันที่จริงทะเลทรายแห่งนี้เป็นที่ซึ่งจะทำให้ข้าปรับตัวกับดวงอาทิตย์ได้ดีที่สุด

‘หากข้าเดินเหินบนทะเลทรายได้ปกติโดยไม่จมลงไป เช่นนั้นหลังกลับไปที่เทือกเขาทนทุกข์ ก็จะยิ่งสบายมากขึ้น

‘ขณะเดียวกัน หากข้าทำได้ถึงจุดนี้จริง เช่นนั้นข้าก็สามารถลองเหาะเหินได้!

‘หากข้าเหาะเหินได้เป็นปกติ ปราณก่อกำเนิดอื่นๆ ของข้าก็ยกระดับขึ้นได้แล้ว’

สวี่ชิงพึมพำในใจ

ผลไม้ที่แปรมาจากสมบัติวิญญาณผลนั้น เป็นลูกกลอนเสริมกำลังในการทะลวงขั้นฝึกบำเพ็ญของเขา

แต่ถึงแม้องค์หญิงหมิงเหมยจะมอบให้เขา แต่ระหว่างทางรัฐทายาทก็เตือนสวี่ชิงว่าอย่าเพิ่งกินเดี๋ยวนั้น

ก่อนที่ปราณก่อกำเนิดอื่นๆ จะปรับตัวกับแรงกดดันของดวงอาทิตย์ได้ หากกินผลไม้ลงไป แม้จะทำให้ปราณก่อกำเนิดเพิ่มพูน แต่ก็จะเสียโอกาสทองในการฝึกฝนไปเช่นกัน

เนื่องจากระหว่างที่การแบกรับแรงกดดันของดวงอาทิตย์ สามารถขัดเกลาศักยภาพของปราณก่อกำเนิดออกมามากยิ่งขึ้นได้ เทียบเท่ากับยกระดับขีดจำกัดการเติบโตของปราณก่อกำเนิด ถึงตอนนี้ค่อยกินผลไม้ลงไป ถึงจะสมบูรณ์แบบที่สุด

จุดนี้ องค์หญิงหมิงเหมยก็ไม่ได้คัดค้าน

ยึดความคิดนี้เป็นพื้นฐาน สวี่ชิงจึงจดจ่ออยู่กับการฝึกบำเพ็ญของตัวเอง

เวลาเคลื่อนคล้อย ไม่นานนักก็ผ่านไปสามวัน

ในสามวันนี้ สวี่ชิงควบคุมปราณก่อกำเนิดของตนทั้งวันทั้งคืน ทำให้พวกเขาปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งที่ปะทุพลังออกมามากเกินไป ร่างของเขาก็จะจมลงไปในทะเลทราย

ภายใต้การกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้เขาสามารถเดินบนทะเลทรายโดยจมลงไปแค่หนึ่งฉื่อได้แล้ว

‘นี่คือขีดจำกัดของตอนนี้ อยากไม่จมลงไปเลยใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ทำได้ก็แค่หนึ่งชั่วยาม ปราณก่อกำเนิดก็จะถึงขีดจำกัด ต้องฝึกฝนอีกจึงจะทนรับไหว’

สวี่ชิงครุ่นคิด ตอนที่หัวสมองกำลังขบคิดว่ายังมีวิธีอื่นที่ช่วยให้ตนปรับตัวได้หรือไม่ จู่ๆ บนท้องฟ้าก็มีเสียงเคาะประตูอย่างแรงดังมา

แม้ว่าเสียงเคาะประตูหลายวันนี้จะดังขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ครั้งนี้ชัดเจนอย่างยิ่ง สั่นสะเทือนจิตวิญญาณ

สวี่ชิงเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า

บนท้องฟ้า พี่น้องรัฐทายาททั้งสามก็ลืมตาขึ้นมาเช่นกัน

“นิสัยของน้องแปดยังรุนแรงเหมือนเคย”

รัฐทายาทขมวดคิ้ว จากนั้นก็มองไปทางองค์หญิงหมิงเหมย

“ใกล้ได้เวลาแล้ว

“เหมือนสติสัมปชัญญะของเขาจะยังไม่ตื่นดี”

องค์หญิงหมิงเหมยสีหน้าเรียบเฉย เอ่ยเสียงเรียบ

“เหมือนตอนเด็กๆ ชกต่อยสักยกก็ดีกันแล้ว”

“ก็ดี!” รัฐทายาทพยักหน้า สองมือทำปาง ชี้ไปที่ประตูใหญ่

องค์หญิงหมิงเหมยรวมถึงน้องหญิงห้าก็ทำแบบเดียวกัน

เห็นว่าเตรียมสู่เทวะทั้งสามเป็นเช่นนี้ สวี่ชิงจึงวิ่งทะยานออกไปไกลตามสัญชาตญาณ ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาจึงไม่อยากเข้าใกล้นัก

ความจริงก็พิสูจน์ว่าการกระทำของสวี่ชิงนั้นถูกต้อง

เพราะตอนที่เขาวิ่งไกลออกมาสิบลี้ เสียงเคาะประตูบนท้องฟ้าก็แรงถึงขีดสุด เหมือนมีตัวตนที่น่ากลัวตนหนึ่ง เปลี่ยนท้องฟ้าเป็นกลองศึก ใช้กำลังทั้งหมดเคาะตี

เสียงที่ดังออกมา สนั่นหวั่นไหวจนหูแทบดับ ทำให้เม็ดทรายนับไม่ถ้วนบนพื้นทรุดตัวลง ความว่างเปล่าก็มีลางว่าจะแตกละเอียด

และเห็นได้ชัดว่าทะเลทรายครามเป็นที่ที่น่าอัศจรรย์ซึ่งแตกต่างกับโลกภายนอก คล้ายจะมีผลในการอำพรางระลอกคลื่นเหล่านี้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

พลังพระจันทร์สีม่วงในร่างกายสวี่ชิงพลันปะทุขึ้น ขณะที่ปกคลุมด้วยเลือดสดๆ ก็ระเบิดความเร็วขึ้นทันที

แม้รัฐทายาทจะไม่ให้เขาพึ่งพาพลังพระจันทร์สีม่วง แต่สวี่ชิงรู้สึกว่าตอนนี้ใช้สักนิดก็คงไม่เป็นอะไร

หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ สวี่ชิงก็ห่างออกมาเป็นระยะร้อยลี้ถึงรู้สึกมั่นคงเช่นนี้ เงยหน้ามองท้องฟ้าไกลๆ

มองไม่เห็นร่างของพวกรัฐทายาททั้งสามในระยะสายตาแล้ว มีเพียงประตูบนท้องฟ้าที่ยังเห็นได้รางๆ และพริบตาต่อมา ตรงนั้นก็เปล่งแสงโชติช่วงออกมา ส่องสะท้อนท้องฟ้า ปกคลุมผืนแผ่นดิน

บทที่ 628 จักรพรรดิกำเนิดบุตรชายทั้งเก้า 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา