บทที่ 633 น้ำอเวจีหนึ่งถ้วย แท่นประหารเทพเจ้าหวนคืน
“น้อมรับบัญชา!”
บรรพจารย์คุ้มครองวายุก้มหน้า
คนนอกไม่รู้ แต่คนในเผ่าคุ้มครองวายุ พวกเขาทราบดีว่าสิ่งที่ตนสิ่งที่ศรัทธา และสิ่งที่พวกเขาศรัทธาก็เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง
เทพเจ้าองค์นี้ ประทานชีวิตให้พวกเขา มอบหมายภารกิจให้
และระลอกคลื่นในจิตวิญญาณก็ทำให้พวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนมาก ว่าเทพเจ้า…อยู่ตรงหน้า
ส่วนสภาวะรวมถึงพลังของเทพเจ้า ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาต้องขบคิด เพราะเทพเจ้าก็คือเทพเจ้า องค์ท่านสามารถแปรเปลี่ยนเป็นสรรพสิ่ง สามารถจำแลงออกมาได้นับหมื่นร่าง
จากการเอ่ยปากออกมา บรรพจารย์ผู้นี้ก็นั่งลงขัดสมาธิทันที ทันทีที่หลับตา เขาก็ยกมือขวาของขึ้น สองนิ้วแตะที่วงกลมบนหน้าผาก
ระลอกคลื่นในวิญญาณแผ่ออกมาจากร่างเขาทันที ผสานเข้าไปในสายลมดำ
ขณะเดียวกัน เสียงร่ายเวทย์ก็ดังก้องออกมาจากปากของนายกองที่ลอยอยู่กลางอากาศ
“ฟ้าดินอุบัติขึ้นพร้อมหน้า วาโยสีนิลแผดเผาเทพเจ้า หล่อหลอมเก้าวิถี ทั้งยังนิรมิตเกินจริง!
“แท่นทมิฬไร้ซึ่งสิ่งปกปิด ชลทิศห้วงระลึกมีกายา จิตวิญญาณเป็นเอกา ดินฟ้ารากฐานเดียว!”
เสียงนี้เจือความบรรพกาล ยิ่งแฝงเจตจำนงบางอย่าง เสี้ยวขณะที่แผ่ออกมา ทั้งทะเลทรายครามอื้ออึง แผ่นดินใหญ่สั่นสะเทือน เม็ดทรายนับไม่ถ้วนลอยขึ้นจากพื้น ทุกอย่างกำลังสั่นไหว
บนท้องฟ้ายิ่งมีทัณฑ์สวรรค์ฟาดผ่า แล่นแปลบปลาบไปทั่วสารทิศ โหมเสียงสะท้อนบนท้องฟ้าไม่จบไม่สิ้น
ทั้งทะเลทรายครามกำลังสั่นไหว
และเสียงเสียงร่ายเวทย์ก็ไม่ได้หยุดลงเพราะเหตุนี้ มันยังคงดังต่อไปไม่หยุด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่นานนักบรรพจารย์คุ้มครองวายุทางนั้นก็ร่ายตาม
จนสุดท้าย คนในเผ่าคุ้มครองวายุทั้งหมดรอบๆ ก็ยกนิ้วขึ้น แตะไปที่หน้าผาก ร่ายขึ้นมาเช่นเดียวกัน
ระลอกคลื่นของจิตวิญญาณพวกเขาแผ่ขยายออกไปต่อเนื่องท่ามกลางการร่ายเวทย์นี้ ขณะที่ค่อยๆ ผสานกับสายลมดำนี้ไม่หยุดก็แปรเปลี่ยนเป็นคลื่นวนขนาดยักษ์ขึ้นมา
การโคจรของคลื่นวนนี้หมุนตรงกันข้ามกับคลื่นวนวงกลมพันจั้งพอดี!
วงหนึ่งจากซ้ายไปขวา อีกวงหนึ่งจากขวาไปซ้าย
คลื่นวนสองวงโคจรไม่หยุดกลายเป็นพลังที่น่าตกตะลึง ส่งเสียงครืนครันเขย่าฟ้า
ขณะที่ดึงกันไปมา เผ่านี้ก็สัมผัสความทรงจำที่ซ่อนอยู่ในสายลมนี้ได้
สวี่ชิงเห็นทุกอย่างนี้จากที่ไกลๆ ต่อให้จะพอรู้อดีตของศิษย์พี่ใหญ่บ้าง แต่ยามนี้เขายังรู้สึกสั่นสะท้านเหมือนตอนระบำบวงสรวงเทพเจ้าตอนนั้น
‘แผนชาติที่แล้วของศิษย์พี่ใหญ่ มีอยู่กี่แผนกันแน่…
‘มหานักร่ายระบำบวงสรวงเทพเจ้าเป็นหนึ่งในนั้น เผ่าคุ้มครองวายุเป็นอย่างที่สอง อีกทั้งท่านปู่แปดกับท่านย่าห้ากล่าวว่าคุ้นเคยกับศิษย์พี่ใหญ่อีก จินตนาการได้ว่าในตอนนั้นศิษย์พี่ใหญ่น่าจะเคยไปที่ที่ผนึกทายาทเจ้าเหนือหัวทุกคนมาแล้ว’
จากที่สวี่ชิงรู้จักเฉินเอ้อร์หนิว ผู้ยิ่งใหญ่จากปากอีกฝ่ายที่แนะนำเผ่าคุ้มครองวายุ แปดเก้าส่วนน่าจะพูดถึงตัวเอง
‘เช่นนั้นตัวตนนั้นที่เขาเอ่ยถึง…’
สวี่ชิงหรี่ตา นึกถึงเรื่องระบำบวงสรวงเทพเจ้าที่เทือกเขาวัวสวรรค์มิรู้สิ้นขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ เทพชั้นสูงที่นายกองกล่าวถึง
‘เทพชั้นสูง…’
สมองสวี่ชิงผุดตำนานทะเลทรายครามขึ้นมา คำตอบหนึ่ง ผุดขึ้นมาในสมองเขา
และตอนที่สวี่ชิงครุ่นคิดอยู่นี้ พวกหนิงเหยียน อู๋เจี้ยนอู รวมถึงหลี่โหยวเฝ่ยล้วนสีหน้าสั่นสะท้าน ต่อให้หนิงเหยียนและอู๋เจี้ยนอูจะทำงานกับนายกองมาแล้วสองสามงาน แต่ในใจก็ยังโหมพายุคลั่งขึ้นมาอยู่ดี
ส่วนหลี่โหยวเฝ่ย…สำหรับเขาแล้ว หลังจากที่พบกับสวี่ชิง เรื่องใดก็ตามที่ผ่านมาล้วนเหนือกว่าสิ่งที่เขาเคยจินตนาการของครึ่งชีวิตก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนโยวจิงที่อยู่ในกลุ่มพวกเขา ตอนนี้ก็สีหน้าเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าถูกเจ้านักประพันธ์ใหญ่นี่สั่นสะเทือนเช่นกัน
และในคลื่นวนนั้น ยามนี้จากการยื้อยุดของคลื่นวนที่แตกต่างกัน จากการที่สายลมผสานกับความทรงจำของเผ่าคุ้มครองวายุ ในคลื่นวนจึงค่อยๆ ปรากฏภาพขึ้น
ภาพนับไม่ถ้วนทุกเหตุการณ์ แผ่ความรู้สึกเก่าแก่โบราณออกมา
หลังจากความทรงจำเหล่านี้ปรากฏขึ้นในจิตวิญญาณ รวมตัวกันจากทั้งในและนอกคลื่นวนกลายเป็นทะเลความทรงจำ
ทะเลนี้แผ่ขยายออกไป ส่องสะท้อนบนฟากฟ้า และโถมลงมาเหนือผืนดิน หลังจากปกคลุมทั่วสารทิศก็ไหลไปที่ตำแหน่งทั้งเก้า
นั่นคือจุดที่กะโหลกทั้งเก้าอยู่บนพื้นดิน
กะโหลกทั้งเก้านี้เป็นเหมือนถ้วยกระดูก แทบจะรองรับทั้งหมดไว้ได้
เวลาก็ไหลผ่านไปเช่นนี้
ทะเลความทรงจำ ยังปรากฏต่อเนื่อง สาดซัดอยู่ตลอด
เมื่อถึงชั่วยามที่สี่ ในถ้วยกระดูกเก้าใบนั้นก็ใส่น้ำความทรงจำที่เหมือนเป็นของเหลวไว้จนเต็มแล้ว
น้ำนี้เปลี่ยนไปมาระหว่างความจริงและภาพมายา เดี๋ยวก็สีดำ เดี๋ยวก็สีขาว
ประหลาดอย่างยิ่ง
สวี่ชิงกวาดสายตาไป เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเทพเจ้าวูบหนึ่งจากในน้ำความทรงจำนั้น
และพริบตานี้เอง นายกองที่ลอยอยู่บนฟ้า คอยดำเนินการบวงสรวงทั้งหมดนี้ สองมือเขาทำปางแล้วพลันโบก ทันใดนั้นกริชเก้าเล่มที่รวมเป็นคลื่นวนพันจั้งรอบด้านปะทุแสงอัสนีออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“สะกด!”
ด้วยเสียงเหมือนสายอัสนีของเขา กริชสัมฤทธิ์เก้าเล่มนั้นก็พุ่งแทงลงมายังถ้วยทั้งเก้าด้านล่างอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำความทรงจำที่เปลี่ยนไปมาระหว่างความจริงและภาพมายา คงที่ในพริบตา
ดำขาวผสมผสาน กลายเป็นสีเทา!
ในของเหลวสีเทานี้มีภาพสะท้อนภาพหนึ่งปรากฏขึ้น
นั่นเป็นเทือกเขาตรงดิ่งที่ทอดยาวเข้าไปในความมืดมิด ท้องฟ้าด้านในเหมือนมีสายฟ้าพาดผ่าน สองด้านของเทือกเขาเป็นหุบเหวสีดำ ราวกับซ่อนปีศาจชั่วร้ายเอาไว้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา