เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 637

บทที่ 637 ละครฉากใหญ่ที่ร้อนแรงที่สุดของแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา

เมื่อนายกองกล่าวออกมา อู๋เจี้ยนอูก็เงยหน้าขึ้น สุขใจอย่างยิ่ง

เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหนือกว่าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจากการแบ่งบทนี้ จึงพึมพำในใจ

‘แม้นเอ้อร์หนิวจะดิ้นรนให้มือดำ คุณธรรมห้าประการมักมีจิตใจดี!’

เขาไม่ได้ร่ายกลอนนี้ออกมา แต่แสดงออกทางสีหน้าแทน

หลังจากนายกองเห็น ก็ยิ้มให้อย่างซาบซึ้งใจ

เมื่อเห็นว่าทุกคนมีบทของตัวเอง หลิงเอ๋อร์ก็มุดออกมาจากคอเสื้อสวี่ชิง มองไปทางนายกอง ส่งเสียงออกมาอย่างคาดหวัง

“ศิษย์พี่เอ้อร์หนิว ข้าล่ะเจ้าคะ”

“เจ้าน่ะหรือ? เป็นคู่บำเพ็ญเต๋าตัวน้อยของเซียน!”

นายกองไม่ลังเลแม้แต่น้อย เอ่ยขึ้นมา หลิงเอ๋อร์ก็ดีใจทันที พอใจอย่างมาก

“แล้วก็เจ้า หลี่จื่อน้อย เจ้าก็ติดตามหนิงหนิงน้อย บทของเจ้าคือขันทีที่ประกาศราชโองการของจักรพรรดิโบราณ”

หลี่โหยวเฝ่ยไม่ได้อยากได้บทอะไรเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตอนที่เห็นว่าแม้แต่สวี่ชิงยังต้องแสดงเป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก เขายิ่งไม่กล้าพูดมาก รีบร้อนพยักหน้า

“ท่านล่ะ” สวี่ชิงสีหน้าเรียบนิ่ง ถามขึ้นมา

“ข้าหรือ ฮ่าๆ ข้าแก่แล้ว ไม่ยืนบนเวทีหรอก โอกาสได้เป็นจุดสนใจเช่นนี้ให้หนุ่มสาวอย่างพวกเจ้าดีกว่า คนหนุ่มสาวอย่างพวกเจ้าต่างหากถึงจะเป็นอนาคต ข้าน่ะแค่คอยดูแลพวกเจ้าให้ดีๆ เป็นพอ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง”

นายกองทำท่าสบายๆ นำแผ่นหยกบันทึกบทละครส่งให้คนที่เหลือ

อู๋เจี้ยนอูในบรรดานี้อ่านอย่างตั้งใจที่สุด เขาจดจำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร้าอารมณ์ในใจ ส่วนหนิงเหยียน คล้ายจะถูกบทละครดึงดูด แม้จะตั้งใจสู้อู๋เจี้ยนอูไม่ได้ แต่ก็ยังพอไหว

แต่โยวจิงทางนั้นแย่กว่ามาก นางเพียงมองผาดหนึ่ง แค่นหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็ตบโคมไฟหนังมนุษย์ต่อ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการปล่อยจิตสังหารในใจออกมา หรือโคมไฟหนังมนุษย์มีเนื้อสัมผัสที่เหมาะมือ นางรู้สึกว่าการทำเช่นนี้สบายใจอย่างยิ่ง

“ทุกคนตั้งใจดูดีๆ ถึงเวลานั้นสรรพชีวิตในแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราจะได้เห็นพวกเจ้า อีกเดี๋ยวข้าจะแต่งหน้าแต่งตัวให้ อีกทั้งเสื้อผ้ายุคโบราณ เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วด้วยการช่วยเหลือของพี่โยว”

อู๋เจี้ยนอูออกแรงพยักหน้า หนิงเหยียนก็ตั้งใจขึ้นเล็กน้อย มีเพียงสวี่ชิงที่สีหน้ายังเหมือนเดิม

บทของเขาง่ายดายอย่างยิ่ง ไม่มีบทพูดและไม่มีเนื้อหาอะไรเลย…แค่ให้ปล่อยเลือดออกมาตอนที่ชื่อหมู่ถูกสังหาเท่านั้น

ถึงอย่างไรบทแรกที่สวี่ชิงต้องแสดง ก็คือเลือด

ส่วนเซียนเพชฌฆาตนี้ก็ไม่มีบทพูดอะไรเช่นกัน สิ่งที่เขาต้องทำก็คือฟันดาบลงมาครั้งเดียวเท่านั้น

บอกว่าเป็นเซียนเพชฌฆาต อันที่จริงก็เป็นเพชรฆาตผู้หนึ่ง

ดังนั้นความสนใจของสวี่ชิงจึงอยู่ที่แท่นพิธีที่แตกร้าวมากกว่า

ที่แห่งนี้กลิ่นอายบรรพกาลเข้มข้นมาก ร่องรอยผุกร่อนตามกาลเวลาปรากฏให้เห็นได้ทุกจุด

นี่ทำให้สวี่ชิงนึกถึงศาลเจ้าดาบสะบั้นไพศาล ที่นั่นก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้

‘ไม่รู้ว่าที่นี่สัมผัสรับรู้ได้หรือไม่’

สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด ความคิดฟุ้งซ่าน

และเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตัวละครของตัวเองดียิ่งขึ้น ในฐานะที่เป็นผู้กำกับ นายกองคิดว่าตนต้องอธิบายให้ละเอียดสักรอบหนึ่ง ทำให้ทุกคนเข้าถึงบทบาทได้ง่ายยิ่งขึ้น

จึงกระแอมไอ เดินไปด้านหน้า กระโดดขึ้นไปยืนบนส่วนหนึ่งของเศษหิน มองลงมาด้านล่าง

“ทุกท่าน

“ครั้งนี้ละครที่พวกเราจะแสดงมีสองฉาก พวกเจ้าก็อ่านบทละครแล้ว น่าจะเข้าใจภารกิจของตัวเอง

“ฉากแรก ชื่อว่ามารหมู่สร้างความวุ่นวาย!”

อารมณ์นายกองฮึกเหิม เสียงสะท้อนก้อง

สวี่ชิงไม่สนใจ เขามองไปทางแท่นพิธีที่แตกร้าวเหล่านั้น สัมผัสความเก่าแก่โบราณของกาลเวลาเงียบๆ ส่วนเสียงของนายกองตอนนี้ เหมือนข้ามผ่านกาลเวลา ล่องลอยมาอย่างต่อเนื่อง

“เรื่องราวนี้กล่าวถึงชื่อหมู่ก่อนที่ยังไม่ได้กลายเป็นเทพเจ้าเป็นหลัก เย่อหยิ่งจองหอง สร้างความวุ่นวายทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ทำลายล้างทั่วสารทิศ สุดท้ายเจ้าเหนือหัวก็ไม่ชอบใจ ลงมือสะกดนาง!

“แน่นอนว่าตรงนี้ต้องแทรกบทบรรยายเล็กน้อย เรื่องนี้ข้าบรรยายเอง!

“ตอนที่ภาพฉายออกมา จะเป็นเจ้าเหนือหัวปรากฏขึ้นระหว่างฟ้าดิน ฉากหลังเดี๋ยวค่อยตัดต่อ พวกตะวันจันทราดวงดารา ลมฝนสายอัสนี หรือพวกวิชาพลังวิเศษอีกนับไม่ถ้วนกลายเป็นแสงสีเสียงให้งดงามตระการตา เรื่องนี้ข้าจัดการเอง”

จากการเปิดปากพูด นายกองหน้าบานเป็นกระด้ง เห็นได้ชัดว่าเข้าถึงบทบาทก่อนคนอื่น

ส่วนสมองของสวี่ชิง ก็มีภาพคลุมเครือขึ้นมาในการสัมผัสนี้

“หลังจากนั้น ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ความแข็งแกร่งกับความยิ่งใหญ่ของเจ้าเหนือหัวที่โดดเด้งออกมา พระองค์ที่อยู่ใต้ม่านฟ้า ชี้ให้เห็นความผิดเก้าประการของชื่อหมู่!

“ส่วนชื่อหมู่ก็หยิ่งผยอง น่ารังเกียจถึงที่สุด กระทั่งวางแผนไปกลืนกินเจ้าเหนือหัวอย่างบ้าคลั่ง เจ้าเหนือหัวจึงยกมือขึ้นตบชื่อหมู่จนบาดเจ็บสาหัส จากนั้นก็จับกุมนาง

“ตรงนี้ต้องแสดงให้เห็นพลังไร้เทียมทานของเจ้าเหนือหัว หนิงเหยียนเจ้าต้องจับความรู้สึกของเจ้าเหนือหัวให้ได้ พระองค์เป็นราชาของสรรพชีวิต ดังนั้นเจ้าสามารถระลึกถึงยามที่เจ้าพบเจอกับผู้ยิ่งใหญ่ในความทรงจำของเจ้าได้

“ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้แน่นอน”

นายกองมองหนิงเหยียนอย่างให้กำลังใจ สมองหนิงเหยียนมีภาพบิดาของตนผุดออกมา จึงพยักหน้า

“ส่วนพี่โยว…”

นายกองมองโยวจิง

โยวจิงมองไปด้วยสายตาเย็นชา

นายกองยิ้ม น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล

“พี่โยว ตรงนี้ข้าก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันท่านมากแล้ว แค่แสดงเป็นชื่อหมู่ สำหรับพี่โยวอาจจะค่อนข้างยาก ถึงอย่างไรชื่อหมู่ก็ชั่วร้าย นี่เป็นนิสัยแต่กำเนิดของนาง แต่ท่านไม่ใช่

“พี่โยวจิตใจงดงามแต่กำเนิด ข้าจึงคิดว่าท่านแค่แสดงด้านตรงข้ามนิสัยแต่กำเนิด ก็เข้าถึงบทบาทได้แน่”

โยวจิงยิ้มเย็น

“หลังจากนั้นคือฉากที่สอง ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในละครเรื่องนี้ของพวกเรา

“เรื่องราวจะกล่าวถึงหลังจากที่เจ้าเหนือหัวจับกุมชื่อหมู่และพามายังที่แห่งนี้ ไม่ว่านางจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่เป็นผล ถูกสะกดไว้อย่างโหมเหี้ยม

“ที่แห่งนี้ต้องใช้วิชาเวทวาดประกอบ สีท้องฟ้า ลมกรรโชกเมฆตลบม้วน เสียงครืนครันทั่วสารทิศอะไรเทือกๆ นั้น หรือก็พลังอำนาจน่างครั่นคร้ามทั้งหลาย

“ด้วยบรรยากาศนี้ ในฉากที่ชื่อหมู่ถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเจ้าเหนือหัว ส่วนเจ้าเหนือหัวก็ประสานหมัดไปทางท้องฟ้า อัญเชิญจักรพรรดิโบราณ จักรพรรดิโบราณจำแลงลงมา ขันทีประกาศราชโองการ

“ก็เป็นการขับเน้นบรรยากาศต่างๆ ขึ้นมาเช่นกัน!”

นายกองทุ่มสุดกำลัง เห็นได้ชัดว่าบทละครนี้ผ่านพิจารณาของเขาอย่างละเอียดแล้ว ในขณะที่พูดเป็นต่อยหอย สวี่ชิงก็ร่างสะท้านเฮือก

บทที่ 637 ละครฉากใหญ่ที่ร้อนแรงที่สุดของแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา 1

บทที่ 637 ละครฉากใหญ่ที่ร้อนแรงที่สุดของแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา