บทที่ 710 เพลงเด็กในห้วงกาลเวลา
บนแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา เสียงของหลี่จื้อฮว่าดังก้อง ทุกที่ที่ผ่าน มิติคำรามลั่น สายฟ้าไร้ขอบเขต
แต่เสี้ยวหน้าเทพเจ้าไม่สนใจ แม้ตอนนี้จะพุ่งตรงมาที่นี่ แต่ก็ไม่ได้ลืมตา
ส่วนบริเวณทั้งเจ็ดพื้นที่ที่ผู้บำเพ็ญตำหนักเทพพระจันทร์สีชาดที่รวมตัวกันบนพื้นตอนนี้ส่งเสียงร้องครวญครางโหยหวน
เสียงของหลี่จื้อฮว่าสำหรับพวกเขาแล้วแฝงพลังทำลายล้างเอาไว้ เพียงพริบตา ผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาดและขั้วอำนาจที่สวามิภักดิ์เหล่านี้ ทุกคนทุกเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในนั้นเริ่มเนื้อตัวสั่นสะท้าน
ผิวของพวกเขาเริ่มปริเอง เผยให้เห็นเนื้อชุ่มเลือด และเนื้อชุ่มเลือดในตอนนี้ก็สั่นสะท้าน หลุดร่อนจากกระดูกเป็นชิ้นๆ กองอยู่บนพื้นราวกับภูเขาลูกเล็กๆ
สิ่งสุดท้ายที่หลุดร่วงก็คือศีรษะที่สูญเสียเลือดเนื้อไปของพวกเขา
กวาดตามองไป ทั้งเจ็ดพื้นที่นี้ ภูเขาลูกเล็กๆ เช่นนี้เรียงรายลูกแล้วลูกเล่า นับแทบไม่ถ้วน
และภูเขาเลือดเนื้อสุดลูกหูลูกตานี้ก็จับกลุ่มเป็นภูเขาเลือดเนื้อลูกมหึมา
ทั้งหมดเจ็ดลูก สะท้านฟ้าสะเทือนดิน กลิ่นคาวเลือดยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นวัตถุจริง ลอยขึ้นฟ้าประดุจควันไฟ คล้ายรอยน้ำตาของผืนฟ้า
เสี้ยวหน้าเทพเจ้าบนท้องฟ้าก็ยังคงนิ่งไม่สนใจเช่นเดิม
จวบจนกระทั่ง…ร่างของหลี่จื้อฮว่าเริ่มปริแตก
เขาในตอนนี้คือเทพเจ้า
ร่างกายที่ปริแตกขององค์ท่านทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมเมฆหอบทะลัก และจากการหลุดร่วงของเลือดเนื้อองค์ท่าน แผ่นดินข้างล่างองค์ท่าน ภูเขาเลือดเนื้อลูกที่แปดก็ผุดขึ้นจากพื้น
สูงขึ้นเรื่อยๆ
เลือดเนื้อนับไม่ถ้วนกองรวมเป็นยอดเขาสูงเสียดฟ้า
ความสูงของมันเสมอเท่ากับดาวพระจันทร์สีชาด จวบจนกระทั่งสุดท้าย…ศีรษะของหลี่จื้อฮว่าก็สูญเสียเลือดเนื้อทั้งหมดไป ลอยล่องอยู่เหนือภูเขา
นับจากต้นจนจบ สีหน้าขององค์ท่านล้วนเย็นชา ไม่มีระลอกคลื่นอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น และทันทีที่ศีรษะสัมผัสกับภูเขาเลือดเนื้อ องค์ท่านแปรเปลี่ยนเป็นดวงตาคู่หนึ่งที่ว่างเปล่า มองไปทางท้องฟ้า
เสี้ยวหน้าเทพเจ้าบนท้องฟ้าในเสี้ยวขณะนี้เองก็ค่อยๆ…ลืมตาขึ้นมา!
ไม่เหมือนกับภาพที่ปรากฏขึ้นในผลึกวารีสีม่วงของสวี่ชิง ครั้งนี้เป็นเสี้ยวหน้าเทพเจ้าลืมตาขึ้นของจริง จากการลืมตาขึ้นของดวงตาเสี้ยวหน้า ในม่านตาสีทองฉายแววสงบนิ่ง
และจากการจ้องมาของสายตา แผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราบิดเบี้ยว รางเลือนไปทั้งแถบ
ฝนเลือดร่วงหล่นลงบนภูเขาเลือดเนื้อของหลี่จื้อฮว่า วันสิ้นโลกมาเยือนยังที่ราบสำนึกบาป ที่แห่งนี้…กำลังถูกเปลี่ยนไป
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่อาจขัดขืน
ไอพลังประหลาดที่เหนือกว่าเทพเจ้าทั้งหมดพวยพุ่งขึ้นในที่ราบสำนึกบาป เปลี่ยนแปลงผืนดิน เปลี่ยนแปลงสรรพสิ่ง เปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่อยู่ที่นี่
ทั้งที่ราบสำนึกบาปกำลังเปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่ต้องห้ามแห่งใหม่ ร่างสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดบางประเภทกำลังกำเนิดขึ้นมาในนั้น
ภูเขาเลือดเนื้อลูกนั้นก็กลายเป็นเจ้าแห่งพื้นที่ต้องห้ามอย่างรวดเร็ว มีชีวิตใหม่ มีความรู้สึกนึกคิดใหม่
ในเสี้ยวขณะนี้สรรพชีวิตหมื่นเผ่าทั้งหลายในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ต่างตัวสั่นงันงก พวกเขาไม่ว่าจะอยู่ที่ตำแหน่งใดล้วนสามารถเห็นเสี้ยวหน้าเทพเจ้าได้ ล้วนมองเห็นการลืมตาขึ้นขององค์ท่านทั้งนั้น
หวาดกลัว แตกตื่น ลนลาน อารมณ์ด้านลบต่างๆ นับไม่ถ้วนปะทุขึ้นมาในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
ยิ่งมีเงาร่างวิถีสวรรค์แต่ละร่างๆ ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ คล้ายจะต่อต้าน คล้ายจะขัดขวาง
แต่กลับไร้ประโยชน์ ทำได้เพียงครวญครางไร้เสียง ในนั้นมีจำนวนหนึ่งที่กำลังแตกดับ
พวกนี้ล้วนเป็นแสนวิถีสวรรค์ของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
พวกมันต่างจากวิถีสวรรค์บรรพกาลทั้งเก้าสิบเก้าตน และการลืมตาของเสี้ยวหน้าเทพเจ้า ทุกครั้งสำหรับพวกมันแล้วล้วนเป็นการทำลายล้างทั้งสิ้น
และสิ่งที่ได้รับอิทธิพลไปด้วยเหมือนกันยังมีดาวพระจันทร์สีชาด
มันอยู่บนท้องฟ้าเหนือที่ราบสำนึกบาป ซึ่งก็อยู่ในระยะสายตาของเสี้ยวหน้าเทพเจ้าด้วยเช่นกัน
ตอนนี้มันกำลังสั่นสะเทือนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ภาพตอนที่ผลึกวารีสีม่วงของสวี่ชิงปลุกเสี้ยวหน้าเทพเจ้า ปรากฏขึ้นอีกครั้งในเสี้ยวขณะนี้
บริเวณที่สายตาเทพเจ้ามองไปครั้งแรกจะหลายเป็นพื้นที่ต้องห้าม
ครั้งที่สองเป็นแดนต้องห้าม
ครั้งที่สามเป็นแผ่นดินเทวะ
สำหรับครั้งที่สี่…จะมีชื่อว่าอาณาจักรเทวะ!
พระจันทร์สีชาดเริ่มขยับบนเส้นแห่งกาลเวลาเส้นนี้ กะพริบอย่างไร้ลำดับ จากนั้นในกาลอวกาศนับไม่ถ้วนก็มีดาวพระจันทร์สีชาดมากมายมหาศาลปรากฏขึ้น
พวกมันสอดประสานกัน ทับซ้อนกัน และหลังจากที่ดำเนินไปนับครั้งไม่ถ้วน ภาพที่สวี่ชิงมองไม่ชัดในตอนนั้นก็ปรากฏขึ้นแล้ว!
ในส่วนลึกของดาวพระจันทร์สีชาดนับไม่ถ้วนเกิดความรางเลือนกลุ่มหนึ่งขึ้นมา ความรางเลือนนี้แผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ปกคลุมไปอย่างไร้ขอบเขต หุ้มดาวพระจันทร์สีชาดนับไม่ถ้วนไว้ในนั้น
มันกลายเป็นใบหน้ายิ่งใหญ่มหึมาดวงหนึ่ง!
หน้าตาของใบหน้าดวงนี้ก็คือชื่อหมู่ และดาวพระจันทร์สีชาดนับไม่ถ้วนที่จับกลุ่มเป็นใบหน้าดวงนี้ การสอดประสานและซ้อนทับในทุกครั้งของพวกมันล้วนก่อเป็นสีหน้าเลือนรางของใบหน้าดวงนี้
สีหน้าแต่ละอย่างเหล่านี้ทำให้ใบหน้าดวงนี้เหมือนว่ามีชีวิต สมจริงมีชีวิตชีวา!
เหมือนว่าทุกสีหน้าของใบหน้าดวงนี้ล้วนแทนการเปลี่ยนของความคิด จากนั้นก็จะมีกาลอวกาศที่เกิดจากความคิดนี้เป็นพื้นฐานปรากฏขึ้น
วิเคราะห์ย้อนกลับไป นี่ก็เป็นเหตุผลที่กาลอวกาศมากมายเกิดดาวพระจันทร์สีชาดขึ้นมา
และความคิดที่แตกต่างกันไปก็ทำให้กาลอวกาศปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนว่าคัดเลือก คล้ายว่าสำหรับใบหน้าดวงนี้ ทุกครั้งที่เลือกก็จะเกิดกาลอวกาศที่แตกต่างกันไปปรากฏขึ้นเพราะเหตุนี้ จากการคัดเลือกไปวิวัฒนาการโลกใบใหม่ออกมา
นี่ก็คืออาณาจักรเทวะ
ในเสี้ยวขณะนี้ ที่ราบสำนึกบาปกลายเป็นพื้นที่ต้องห้าม ดาวพระจันทร์สีชาดบนนั้นกลายเป็นอาณาจักรเทวะ!
จวบจนถึงตอนนี้ ดวงตาของเสี้ยวหน้าเทพเจ้าก็ค่อยๆ ปิดลง
และในดาวพระจันทร์สีชาด ชื่อหมู่กำลังตัวสั่นงันงก หลี่จื้อฮว่าที่ถูกองค์ท่านกลืนกินสีหน้ายังคงอ่อนโยนเช่นเดิม หลังจากจ้องมองชื่อหมู่ที่เจ็บปวดผาดหนึ่ง เขาก็สะบัดมือ
เสี้ยวขณะต่อมา สวี่ชิงและนายกอง ทั้งยังมีพวกรัฐทายาท เงาร่างของพวกเขาก็หายไปจากดาวพระจันทร์สีชาดทันที ในตอนที่ปรากฏตัวขึ้นก็มาอยู่นอกที่ราบสำนึกบาปแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราแล้ว
แทบจะในพริบตาที่พวกเขาจากไป เสียงโหยหวนอย่างเจ็บปวดของชื่อหมู่กลายเป็นลมพายุ กวาดโหมไปทั่วทุกทิศ ทุกที่ที่ผ่าน วังจันทราถล่มทลาย
ร่างของชื่อหมู่แตกสลายตามไปด้วย!
ใบหน้าอาณาจักรเทวะก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่เป็นชื่อหมู่อีกต่อไป แต่ไร้ซึ่งเครื่องหน้าทั้งห้า กลายเป็นใบหน้าว่างเปล่า
ดาวพระจันทร์สีชาดถูกเสี้ยวหน้าเทพเจ้าเปลี่ยนให้เป็นอาณาจักรเทวะ แต่เห็นได้ชัดว่าชื่อหมู่ไม่สามารถทนรับกับการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้ เหมือนของบำรุงชั้นยอด หากเกินกว่าปริมาณในระดับหนึ่งแล้วก็จะกลายเป็นพิษร้าย


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา