บทที่ 713 เทวะในสมบัติลับ
ตอนที่ถุงหนังเข้าไปในสมบัติลับ จากการเปิดออก เนื้อชื่อหมู่ชิ้นหนึ่งลอยออกมาจากด้านใน ร่วงไปในสมบัติลับ
เลือดเนื้อชื่อหมู่ที่มีขนนกปะปนชิ้นนี้ เปล่งแสงสีเลือดและสีทองออกมา ขณะที่ร่วงลงไป อำนาจเทพไร้ที่สิ้นสุดปะทุออกมาจากในเลือดเนื้อชิ้นนี้
ฟ้าดินเลือนราง สรรพสิ่งบิดเบี้ยว
สะท้านฟ้าสะเทือนดิน ลมโหมเมฆทะลัก
ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าสมบัติลับของสวี่ชิง กลับสู่ร่างวิหคทองในพริบตา เปล่งเสียงก้องกังวานไปทั้งสมบัติลับ เผยความปรารถนาที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนออกมา
ขณะเดียวกัน พระจันทร์สีม่วงพร่าเลือน สั่นสะท้านอย่างรุนแรง ถูกเลือดเนื้อชิ้นนี้ดึงดูด เนื่องจากมีแหล่งกำเนิดเดียวกันในระดับหนึ่ง จึงเกิดเสียงก้องสะท้อนสนั่นหวั่นไหวออกมา
ส่วนผืนแผ่นดินที่เกิดจากเขาจักรพรรดิภูต จากชิ้นเนื้อที่ร่วงลงมายามนี้ก็ปั่นป่วนเช่นกัน แสงประกายอรุณสว่างไสวระหว่างฟ้าดิน ทำให้โลกทั้งใบเจิดจ้า
พลังพิษต้องห้าม ติงหนึ่งสามสอง ขวดกาลเวลาก็เกิดระลอกคลื่นตามกันมา แผ่เป็นระลอกอยู่ในโลกสมบัติลับนี้ กลายเป็นพายุพัดกวาดไปรอบทิศ
สมบัติลับของสวี่ชิง ส่งเสียงครืนครันสนั่นหวั่นไหวในพริบตานี้ ทุกสิ่งทุกอย่างด้านในกำลังปะทุ เกิดการเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเพราะเนื้อชิ้นนั้น
เสี้ยวขณะที่เนื้อร่วงลงพื้น เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นเสียงหนึ่งดังไปทั้งสมบัติลับราวกับระฆังที่ดังก้องโลก เสียงกังวานไปทั้งโลกใบนี้
ชื่อหมู่เป็นเทพชั้นสูง มีพลังในการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกดิน ชิ้นที่ร่วงลงมาในตอนนี้ ต่อให้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งในถุงหนัง แต่พลังที่แฝงอยู่ด้านใน ยังคงน่ากลัวสุดขีด
และใช่ว่าจะใช้วิธีการธรรมดาสูดรับมันได้ สำหรับผู้บำเพ็ญแล้ว ของสิ่งนี้มูลค่ามหาศาลนัก ต่อให้ผู้บำเพ็ญหวนสู่อนัตตาสูดรับก็เชื่องช้า
แต่มีส่วนช่วยมากมหาศาล โดยเฉพาะหวนสู่อนัตตาขั้นสี่ กระทั่งสามารถอาศัยเลือดเนื้อชื่อหมู่ ทะลวงอุปสรรคของตัวเอง โอกาสก้าวสู่เตรียมสู่เทวะก็เพิ่มขึ้นมาก
ในสมบัติลับมีพระจันทร์สีม่วงซึ่งเป็นต้นกำเนิดเดียวกันกับชื่อหมู่ ทั้งยังมีพิษต้องห้ามที่คุณสมบัติเหนือกว่ากายทิพย์ของนางเล็กน้อย
นอกจากนี้สภาพของสมบัติลับเขา ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเทียบเทียมได้ นั่นเป็นถึงสมบัติของโลก
ทั้งหมดทำให้สวี่ชิงทางนี้ไม่ธรรมดา
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิถีสวรรค์ของเขา ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับวิถีสวรรค์ทั้งหนึ่งร้อยตนนั่นด้วย
ดังนั้นตอนนี้วิถีสวรรค์อสูรสมุทรบรรพกาลจึงจำแลงออกมา ร่างกายขยายใหญ่ปกคลุมทั่วสาทิศ กลายเป็นเตาหลอมโลก แผดเผาอย่างรุนแรง
ยิ่งมีการสนับสนุนของพระจันทร์สีม่วงและพิษต้องห้าม และพลังของสรรพสิ่งในโลกใบนี้
ขณะที่แผดเผา เลือดเนื้อขนนกของชื่อหมู่ชิ้นนั้น ค่อยๆ ละลาย คลื่นพลังน่าครั่นคร้ามพวยพุ่งออกมาขณะที่ละลายเป็นวูบๆ หล่อเลี้ยงสมบัติลับ!
นี่คือพลังต้นกำเนิด!
ทุกอย่างที่มาจากเลือดเนื้อของชื่อหมู่ ล้วนกลายเป็นต้นกำเนิดที่บริสุทธิ์ที่สุด
วิหคเพลิงคุ้มคลั่ง สูดรับสุดกำลัง แผ่นดินเขาจักรพรรดิภูติครืนครัน ผสานกันต่อเนื่อง
สิ่งอื่นๆ ในโลกก็เป็นเช่นกัน เลือดเนื้อชิ้นนี้สำหรับสมบัติลับของสวี่ชิงแล้วถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่ วาสนาครั้งใหญ่ สิ่งบำรุงมหาศาล
ภายใต้การสูดรับนี้ หางของวิหคเพลิงงอกออกมามากมาย สีร่างกายไม่ใช่สีดำอีกต่อไป แต่กลายเป็นสีทอง ลอยอยู่กลางท้องฟ้าสูง ราวกับรูปสลักสีทอง ฉายความศักดิ์สิทธิ์ออกมา
ยังมีแผ่นดินก็เป็นเช่นนี้ กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสีทอง
เทือกเขา แม่น้ำลำธารก็เช่นกัน!
กระทั่งแสงประกายอรุณก็เปลี่ยนไปในเสี้ยวขณะนี้ สีทองปกคลุมสีภายนอกทั้งหมด ทั่วทั้งสมบัติลับเกิดความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกดิน
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ แรกเริ่มเกิดเพียงชั้นผิวด้านนอก แต่จากการเผาไหม้ของเลือดเนื้อชื่อหมู่ การเปลี่ยนแปลงนี้ก็แผ่ลามเข้าไปถึงวนลึก นึกภาพออกว่าหากสวี่ชิงทำได้จริง สุดท้ายสมบัติลับของเขา น่าจะกลายเป็นสีทองทั้งหมดจากภายในสู่ภายนอก
ต่อให้เปลวไฟของที่นี่ ก็เป็นเปลวไฟสีทอง
ถ้าทำได้ถึงจุดนี้ นั่นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากเนื้อแท้ไปถึงต้นกำเนิด
ตอนนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ว่ากำลังดำเนินการ
สวี่ชิงสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของมันทรงพลังจากการเปลี่ยนแปลงของสมบัติลับขึ้นเรื่อยๆ อย่างชัดเจน เหนือกว่าที่เคยเป็นมา
‘สมบัติลับของข้า กำลังเกิดเปลี่ยนแปลงน่าอัศจรรย์…’
สวี่ชิงหายใจหอบถี่ มีลางสังหรณ์บางอย่างว่าหากการเปลี่ยนแปลงของสมบัติลับเสร็จสมบูรณ์ ก็จะสูงขึ้นอีกขั้น
เพียงแต่…การเปลี่ยนแปลงของสมบัติลับดำเนินไปเพียงครู่หนึ่ง ก็ค่อยๆ หยุด
จะท้องฟ้าก็ดี จะแผ่นดินก็ดี จากการที่การเปลี่ยนแปลงหยุดลง ผิวด้านนอกที่กลายเป็นสีทอง ตอนนี้กำลังหมองลง กำลังกลับไปสภาพเดิม
สวี่ชิงขมวดคิ้ว เมื่อสังเกตอย่างละเอียด ก็หาต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
หลังจากชิ้นเนื้อชื่อหมู่เผาไหม้ไประดับหนึ่ง แม้จะยังเหลือเกินครึ่ง แต่ไม่อาจเผาไหม้ต่อได้ นี่ทำให้การแผ่คลื่นพลังของต้นกำเนิดหยุดชะงัก
สวี่ชิงครุ่นคิด ควบคุมถุงหนัง โยนเลือดเนื้อชิ้นที่สองลงไป
แผ่นดินครืนครัน เลือดเนื้อร่วงลงไปในทะเลเพลิง แต่หลังจากเปลวเพลิงปกคลุม ก็ยังเป็นเหมือนเดิม
‘พลังเปลวเพลิงยังไม่เพียงพอ’
สวี่ชิงมองเลือดเนื้อสองชิ้นในทะเลเพลิง ก็หาคำตอบพบแล้ว
เงียบนิ่งไปครู่หนึ่ง ขณะที่สมบัติลับทั้งหมดกลับคืนสภาพเดิมอย่างรวดเร็ว สวี่ชิงก็พบวิธีแก้ปัญหาแล้ว
‘ในเมื่อยังขาดพลังไฟ เช่นนั้นก็เพิ่มเชื้อเพลิงเข้าไป!’
ดวงตาสวี่ชิงเปล่งประกาย ในสมองผุดภาพการกัดกร่อนภาพสัญลักษณ์ชื่อหมู่ที่ประตูใหญ่ตำหนักขบถจันทร์ขึ้น จากการแผ่ขยายของจิตเทพ แผ่นดินสมบัติลับครืนครัน ปริแตกเป็นรอยแยกขนาดยักษ์ทางหนึ่ง อสูรโลหิตพุ่งออกมาจากด้านในตัวแล้วตัวเล่า โถมไปที่ทะเลเพลิง ระเบิดตัวเองในทะเลเพลิง
การระเบิดตัวเองของพวกมัน กลายเป็นเสียงฟ้าร้องดังสนั่นหลายเสียง ยิ่งด้วยการระเบิดตัวเองนี้ ไฟของเตาหลอมสมบัติลับก็ปะทุขึ้นตาม สีของมันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏเป็นสีเลือดขึ้นมาแล้ว
ใช้อสูรโลหิตเป็นเชื้อเพลิง ใช้ความเกี่ยวข้องกับชื่อหมู่ของมันหลอมละลาย รวมกับการกัดกร่อนที่แฝงไว้ในร่างเดิมของพวกมัน นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่สวี่ชิงคิดออก


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา