เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 718

บทที่ 718 ผู้ครองกระบี่ อยู่ที่ใด!

โลกแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์กว้างใหญ่ไพศาล แผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ทางใต้ ดูภาพรวมแล้วก็เป็นเพียงแค่มุมหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ทั้งผืนก็เท่านั้น เทียบกับใจกลางของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ไม่ได้เลย

แต่ก่อนที่เคราะห์เทพเจ้าจะมาเยือน แผ่นดินใหญ่แห่งนี้ก็นับว่ามีชื่อเสียง แม้จะอยู่ร้างห่างไกล แต่ทิศเหนือติดกับแผ่นดินใหญ่วิญญาณนภา ทางตะวันตกติดกับแผ่นดินใหญ่ยลจันทร์ ระหว่างทิศตะวันตกกับทิศเหนือยังมีเส้นทางทะเลทรายโบราณของแผ่นดินใหญ่คิมหันต์ทมิฬเส้นหนึ่งด้วย

ยิ่งเพราะทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับทะเลโอฬาร ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเดินเรือหรือสินค้าล้วนสมบูรณ์มากมายนัก ในยามรุ่งโรจน์กระทั่งว่ามากพอจะติดสิบอันดับแรกแผ่นดินใหญ่เผ่ามนุษย์

แต่การมาเยือนของเสี้ยวหน้าเทพเจ้าเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง สิ่งที่ทะเลต้องห้ามกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตานั่นนำมาให้แผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ความร่ำรวยอีกต่อไป แต่เป็นไอพลังประหลาดและอันตรายมากมายมหาศาล

ทุกอย่างนี้ดำเนินต่อไปต่อไป ประกายแสงของแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ก็หมองหม่นลงไปอย่างรวดเร็ว รวมกับความตกต่ำของเผ่ามนุษย์ และการย้ายถิ่นฐานของจักรพรรดิมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ตกอันดับ กลายเป็นดินแดนที่ไร้ค่า

แผ่นดินใหญ่ยลจันทร์กลายเป็นแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา

แผ่นดินใหญ่วิญญาณนภาก็กลายเป็นแผ่นดินใหญ่วิญญาณทมิฬของเผ่าฟ้าทมิฬ

ส่วนเส้นทางทะเลทรายโบราณที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่คิมหันต์ทมิฬเส้นนั้นยิ่งกลายเป็นดินแดนที่ไม่อาจเหยียบย่างเข้าไปได้ เพราะแผ่นดินใหญ่คิมหันต์ทมิฬ…ไม่ได้เป็นของเผ่ามนุษย์อีกต่อไป กลายเป็นชายแดนของเผ่านภาคิมหันต์

จวบจน…การปรากฏขึ้นของรัฐม่วงคราม ทำให้แผ่นดินใหญ่ที่มืดหม่นกลับมาส่องประกายเจิดจ้าอีกครั้ง ความพร่างพรายของมันราวกับแม่น้ำดารา ทำให้เผ่าพันธุ์ทั้งหลายในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์หวาดกลัว

แต่ก็เป็นเพียงแค่ดอกถานบานเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น จากการดับดิ้นของรัชทายาทรัฐม่วงคราม ความรุ่งโรจน์ทั้งหมดกลายเป็นหมอกควัน

ต่อให้เป็นองค์ชายเจ็ดมาเยือน ดวงตะวันแห่งแสงอรุณที่ปล่อยออกไปในศึกระหว่างจักรพรรดิมนุษย์และเผ่าฟ้าทมิฬ ทำให้เผ่าฟ้าทมิฬพ่ายแพ้ ต้ากงคลื่นศักดิ์สิทธิ์ของรุ่นนี้เลือกที่จะกลับคืนสู่เผ่ามนุษย์ แต่เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นแค่ระลอกคลื่นในพื้นที่เล็กๆ ก็เท่านั้น

สำหรับทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์แล้ว ความจริงไม่ได้เป็นคลื่นใหญ่อะไรเท่าใดนัก

คิดจะสร้างคลื่นลมพายุจริงๆ เรื่องพวกนี้เห็นได้ชัดว่ายังมีคุณสมบัติไม่พอ

ไม่มีใครรู้ว่า แผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตจะส่องแสงสะท้านสะเทือนทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์เหมือนในตอนรัฐม่วงครามตอนนั้นได้หรือไม่

และในตอนนี้ ทางเหนือของแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ ในแผ่นดินใหญ่วิญญาณทมิฬที่เคยเป็นแผ่นดินใหญ่วิญญาณนภา สงครามกำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด กวาดตามองไป ในฟ้าดินที่สว่างเป็นอย่างยิ่ง การป้องกันรักษาของฝ่ายเผ่าฟ้าทมิฬพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แม้ในเผ่าฟ้าทมิฬจะมีผู้แข็งแกร่งไม่น้อย แต่ดวงตะวันแห่งแสงอรุณที่มีอยู่ทั่วทุกที่ทำร้ายพวกเขาอย่างแสนสาหัส จักรพรรดิเผ่าฟ้าทมิฬตลอดจนผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดของเผ่ามากมายยิ่งถูกผู้บำเพ็ญลึกลับลอบสังหารบาดเจ็บสาหัส

ทุกอย่างทำให้เผ่าฟ้าทมิฬตกเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำ และทันทีที่พระจันทร์สีชาดหายไป แม้โลกภายนอกจะรู้เรื่องนี้และยืนยันจริงเท็จได้ก็ต้องใช้เวลา แต่ผู้เลื่อมใสในเผ่าฟ้าทมิฬส่วนใหญ่แล้วล้วนสัมผัสได้ในทันที

สัมผัสรับรู้นี้เหมือนเติมน้ำค้างแข็งลงไปบนหิมะ ทำให้เผ่าฟ้าทมิฬตกอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ

และเทียบกับเผ่าฟ้าทมิฬที่อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สงครามที่เผ่ามนุษย์ก่อขึ้นในครั้งนี้ทรงพลังเกินต้านทาน ผู้ที่เคลื่อนไหวไม่ใช่แค่อ๋องเทียนหลันเท่านั้น ที่นอกแผ่นดินใหญ่ทั้งสองของเผ่าฟ้าทมิฬ ดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิเผ่ามนุษย์สิบสามอ๋องสวรรค์ล้วนเคลื่อนไหว

เข้าโจมตีแผ่นดินใหญ่ทั้งสองของเผ่าฟ้าทมิฬจากสิบสามทิศทาง

โดยเฉพาะอ๋องตงติ่งในฐานะที่เป็นอ๋องสวรรค์ฝ่ายพระมารดาขององค์หญิงสาม ซึ่งมีกำลังรบน่าตื่นตะลึง นำทัพด้วยตัวเอง สร้างความกดดันให้กับเผ่าฟ้าทมิฬมหาศาล

ในขณะเดียวกันก็สร้างความกดดันให้กับอ๋องเทียนหลันไม่น้อย

ตระกูลของพวกเขาได้จ่ายค่าตอบแทนอย่างมหาศาลไปเพื่อสนับสนุนองค์ชายเจ็ด ถึงได้รับการอนุญาตจากจักรพรรดิมนุษย์ และข้อหนึ่งในค่าตอบแทนนั้นคือเขาจะต้องได้ครอบครองแผ่นดินใหญ่วิญญาณทมิฬครึ่งที่เหลือ

นี่ก็เป็นเหตุผลที่หลังจากอ๋องเทียนหลันมาถึงแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ก็เรียกผู้บำเพ็ญทั้งแผ่นดินใหญ่มา สำหรับเขาแล้วคนของแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์จะเป็นจะตายไม่สำคัญ อย่างมากในอนาคตค่อยพักฟื้นหล่อเลี้ยงก็ได้

สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือสงครามครั้งนี้จะต้องชนะ เช่นนี้แล้วองค์ชายเจ็ดถึงจะเปลี่ยนให้ที่นี่เป็นแผ่นดินบรรดาศักดิ์ได้อย่างแท้จริง

และหากอยากจะชนะ อาศัยเพียงลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่เขานำมานั้นไม่พอ เขายังต้องโคจรวิชาเซียนต้องห้ามวิชาหนึ่งด้วย

วิชานี้ต้องใช้เลือดและวิญญาณของผู้คนทั้งหลาย

ดังนั้นคำสั่งเรียกแต่ละคำสั่งๆ ก็ส่งออกมาจากทางองค์ชายเจ็ดทางนั้นไม่ขาดสาย ยิ่งมีคนรับผิดชอบเกณฑ์ทหารเป็นกลุ่มๆ อยู่ในทุกๆ ที่ในแผ่นดินใหญ่ บังคับเกณฑ์ทหารโดยนามของคำว่าผดุงธรรม

หากมีคนไม่ยอมก็จะรายงานองค์ชายเจ็ด ให้องค์ชายเจ็ดที่วางแผนการอยู่ข้างหลัง ส่งกองทัพไปสังหาร

เรื่องนี้ดำเนินมาได้นานครึ่งปีแล้ว

สรรพชีวิตหมื่นเผ่าพันธุ์ในแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ใช้ชีวิตและเลือดเนื้อของตัวเอง ถมสนามรบทุกชุ่นในเผ่าฟ้าทมิฬ และรวมถึงเขตปกครองผนึกสมุทรด้วย

เผชิญหน้ากับคำว่าผดุงธรรม เผชิญหน้ากับอ๋องสวรรค์ เขตปกครองผนึกสมุทรไม่มีทางแข็งขืนได้ ต่อให้ทั้งๆ ที่รู้ว่าอ๋องเทียนหลันเก็บกำลังชั้นยอดเยี่ยมของตัวเองเอาไว้ จะลองใช้เลือดเนื้อสำแดงวิชาต้องห้าม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เพียงแต่ครึ่งปีมานี้ กำลังทหารที่ส่งไปยังสนามรบก็มากถึงห้ากลุ่มแล้ว

ในห้ากลุ่มนี้ครึ่งหนึ่งล้วนเป็นผู้ครองกระบี่

นี่สำหรับเขตปกครองผนึกสมุทรที่ผ่านสงครามครั้งใหญ่มาไม่นานแล้วก็มาถึงในช่วงลมพายุสั่นคลอน สำนักและเผ่าพันธุ์มากมายในเขตปกครองแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนเลือกวางอาวุธ เข้าสวามิภักดิ์องค์ชายเจ็ด

และเขตปกครองผนึกสมุทรก็ไม่มีกำลังมารวมกองทัพกลุ่มที่หกได้ นอกเสียจาก…ส่งผู้ครองกระบี่ที่เหลือและเมล็ดพันธุ์ของแต่ละสำนักออกไปให้หมด

แต่หากเป็นเช่นนั้น เขตปกครองผนึกสมุทรก็จะไร้อนาคต

ทว่าความแตกต่างของฐานะและกำลังแท้จริงของทั้งสองฝ่าย ทำให้เขตปกครองผนึกสมุทรไร้กำลังต่อต้าน ตอนนี้ นอกเมืองหลวงเขตปกครองผนึกสมุทร บนท้องฟ้ามีผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่งถือคำสั่งเกณฑ์ทหารขององค์ชายเจ็ดมา

คนกลุ่มนี้มีจำนวนหมื่นกว่า แบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยู่ข้างหน้า สวมชุดคลุมยาวสีดำ ปักกระบี่สีทอง เคลื่อนไปในท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

ในคนกลุ่มนี้ เผ่ามนุษย์มีจำนวนกว่าครึ่ง ต่างเผ่าก็มีบ้าง ล้วนเป็นผู้บำเพ็ญเผ่าต่างๆ สำนักต่างๆ ของเขตปกครองผมึกสมุทรในอดีตทั้งนั้น

พวกเขาหลังจากที่เลือกวางอาวุธแล้วก็มาสวามิภักดิ์องค์ชายเจ็ด ตำแหน่งเปลี่ยนไป ตอนนี้ภายใต้คำสั่งขององค์ชายเจ็ดยิ่งเป็นเหมือนข้าหลวงประจำพระองค์ มาที่นี่ทำการบังคับเกณฑ์ทหาร

ตอนนี้แต่ละคนสีหน้าสบายๆ ผ่อนคลาย ต่างยิ้มต่างหัวเราะ สายตาที่มองไปทางเขตปกครองผนึกสมุทรแฝงไว้ด้วยแววดูถูก บางคนยังมีรอยยิ้มเยาะที่มุมปากด้วย

และข้างหลังพวกเขาเป็นผู้บำเพ็ญนักรบชุดคลุมยาวสีเลือดเกราะสีเลือดหลายพันคน ทุกคนล้วนสีหน้าเย็นชา รังสีอำมหิตรุนแรง ทุกทีที่พาดผ่าน เมฆดำทะมึนปกคลุมเหนือศีรษะ รัศมีอำนาจไม่ธรรมดา

พวกเขาไม่ใช่ผู้บำเพ็ญแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ ต่างมาจากดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิ เป็นกองทัพที่องค์ชายเจ็ดนำมาในตอนนั้น

ทุกคนล้วนขี่กิ้งก่ายักษ์สีดำสวมเกราะ จากการเข้ามาใกล้เมืองหลวงเขตปกครอง พลังอำนาจแข็งแกร่งและพลังทำลายล้างเข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง

ในผู้บำเพ็ญหมื่นกว่านี้ยิ่งมีฉัตรลอยสูง ข้างล่างเป็นช้างบินสีขาวตัวหนึ่ง อยู่ในนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก

ช้างสีขาวตัวนั้นมีชายกลางคนสวมชุดเกราะคนหนึ่งนั่งอยู่ หน้าตาธรรมดาๆ แต่ดวงตาทั้งสองที่ลืมตาอยู่นั้นกลับมีประกายเย็นชาฉายวูบ

รอบๆ ยังมีเงาร่างชุดเกราะสีทองสิบกว่าคน ทุกคนล้วนแผ่ระลอกคลื่นพลังน่ากลัวออกมา กลิ่นอายหวนสู่อนัตตาแผ่ซ่านไปในฟ้าดิน ทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสี ก่อเกิดเป็นเมฆดำ จากการเคลื่อนไปข้างหน้าของพวกเขา เมฆดำกลุ่มนี้ก็เดือดพล่านไปด้วย

ข้างช้างสีขาวยังมีชายชราอีกคนหนึ่ง

ชายชราคนนี้หน้าตาเต็มไปด้วยรอยย่น ในดวงตามีเส้นไหมเป็นเส้นๆ เหมือนดาวตกพุ่งผ่าน ตอนนี้เดินทางติดตามไปด้วย พลางมองไปยังเขตปกครองผนึกสมุทรที่รูปสลักจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวประคองเอาไว้บนสองมือ สีหน้าฉายแววอาฆาตและเคียดแค้น

“เสี่ยเลี่ยนจื่อ เจิ้งข่ายอี้ แล้วก็มีสวี่ชิงไอ้สารเลวนั่น!”

ชายชรากัดฟัน ไฟแห่งความเคียดแค้นในใจกำลังเผาไหม้

ชายกลางคนบนหลังช้างสีขาว สายตากวาดมาที่ร่างของชายชรา แย้มยิ้มราบเรียบ

“หลิงอวิ๋น ที่นี่มีสหายเก่าของเจ้ามากมายเชียว”

ชายชราได้ยิน ก็รีบก้มศีรษะลงต่ำอย่างนอบน้อม ประสานหมัดคารวะ

“ใต้เท้าผู้บัญชาการ อีกเดี๋ยวขอโปรดอนุญาตให้กับกับสหายเก่าได้พูดคุยรำลึกความหลังกันสักหน่อยด้วยเถิดขอรับ”

สหายเก่าสองคำนี้เขากัดฟันกรอดพูดออกมา

ชายกลางคนหัวเราะ พยักหน้า

ชายชราคนนี้ก็คือปู่ของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง บรรพจารย์หลิงอวิ๋นแห่งสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าพันธมิตรแปดสำนักนั่นเอง

เขาในอดีตเนื่องจากเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง ถูกลงโทษให้ปิดด่านหกสิบปี ทว่าหลังจากการปรากฏตัวขึ้นของอ๋องเทียนหลัน พันธมิตรปล่อยเขาออกมาก่อนกำหนด หลังจากบอกเล่าทุกอย่างแล้ว บรรพจารย์หลิงอวิ๋นเลือกที่จะติดตาม เข้าสวามิภักดิ์กับองค์ชายเจ็ด

วันนี้เขากระตือรือร้นอาสาสุดชีวิต ติดตามมายังที่นี่ด้วย

เขาไม่กังวลว่าเขตปกครองผนึกสมุทรจะขัดขืนเลย เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ ขัดขืนเท่ากับเร่งความตายให้เร็วขึ้น

กระทั่งว่าในใจของเขาเฝ้ารอเสียด้วยซ้ำ

“ขัดขืนพวกเขาตายอย่างแน่นอน ไม่ขัดขืนพวกเขาก็รอความตาย!

“น่าสงสารหลานชายของข้า ทั้งๆ ที่มีพรสวรรค์จักรพรรดิโบราณ แต่เพราะไอ้สารเลวสวี่ชิง อิจฉาพรสวรรค์ของหลานข้า วางแผนชั่วช้าทำร้ายเขา

“ทั้งยังมีลูกชายของข้าที่ตายอย่างอนาถ เป็นเพราะเจิ้งข่ายอี้!

“ต้นกำเนิดทุกอย่างคือเสี่ยเลี่ยนจื่อ!

บทที่ 718 ผู้ครองกระบี่ อยู่ที่ใด! 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา