เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 74

บทที่ 74 เทียบเชิญลงนรก

ท้องฟ้ายามเที่ยงวัน แสงแดดร้อนแรง ดวงอาทิตย์ในเสี้ยวขณะนี้ก่อนที่จะอยู่ข้างหน้าเสี้ยวหน้าเทพเจ้า ก็ส่องประกายแสงเจิดจ้าอยู่ทางนั้น ทำให้คนธรรมดายากจะเงยหน้าและจ้องมองตรงๆ

เทพเจ้าที่อยู่ข้างหลังดวงอาทิตย์อยู่สูงส่ง สำหรับสรรพสิ่งทั้งหลาย องค์ท่านเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะเช้าหรือค่ำ ความจริงหรือความฝัน อดีตหรืออนาคต องค์ท่านเป็นอมตะชั่วนิรันดร์

เป็นพยานให้กับการเปลี่ยนแปลงในโลก เป็นพยานให้กับความเป็นความตายทั้งหลาย และเป็นพยานให้กับโลกาวินาศที่เปลี่ยนมาเหี้ยมโหดอำมหิตเพราะการปรากฏขึ้นขององค์ท่าน

และความร้อนแรงที่หลงเหลืออยู่ในแสงอาทิตย์ก็เหมือนจะได้อิทธิพลมาจากความเหี้ยมโหดของเสี้ยวหน้าเทพเจ้า มันแปรเปลี่ยนเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย เหมือนไม่ยอมจำนนที่จะจากไปอย่างเงียบๆ ตามวิถีแห่งธรรมชาติของฤดูนี้

ดังนั้นจึงปลดปล่อยความร้อนทั้งหมดออกมาอย่างบ้าคลั่งรุกรานทุกซอกทุกมุมในเมืองหลักเจ็ดเนตรโลหิต ทำให้สรรพชีวิตทุกอย่างเดือดระเหิดจนกลายเป็นไอ

ต่อให้อยู่ใต้ร่มไม้ อยู่ใต้หลังคา ก็ล้วนถูกโจมตีรุกรานอย่างไร้รูปลักษณ์แม้ลมทะเลจะพัดมาก็ไม่สามารถพัดพามันไปได้ เหมือนพิษที่แทรกซึมเข้าไปในไขกระดูก

ชายชุดนักพรตของสวี่ชิงก็เหมือนอย่างเช่น

ตรงนั้นดูเหมือนปกติ แต่หากดูให้ละเอียดแล้วก็จะเห็นผงบางอย่างเปื้อนอยู่บนนั้น และผงนี่ก็กระจายไปแล้วกว่าครึ่ง

กลิ่นที่กระจายออกมาร้อนแรงเหมือนกับฟ้าดินที่ได้รับผลกระทบจากเสี้ยวหน้าเทพเจ้า มาพร้อมด้วยความชั่วร้าย ความเหี้ยมเกรียม กัดกินเลือดเนื้อและกระดูกของสวี่ชิงที่อยู่ใต้ชุดนักพรต

ความเร็วในการกัดกินรวดเร็วยิ่งนัก แผ่ซึ่งความละโมบออกมาด้วย

จากที่ปรากฏขึ้นจนถึงกัดกินก็เป็นแค่เวลาไม่กี่อึดใจเท่านั้น

สวี่ชิงก้มหน้ากวาดตามองชายเสื้อด้วยสีหน้านิ่งสงบ ดวงตาหรี่ลง เดินไปยังท่าจอดเรือ

ผงที่ชายเสื้อเป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มเผ่าเงือกได้แอบทิ้งเอาไว้ขณะประมือกับเขาเมื่อครู่นี้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าตอนนี้ก็คงยังยากจะสังเกตเห็น

ในเมื่อพิษนี้ไร้สี ไร้กลิ่น กระทั่งว่าบางทีในระดับหนึ่งแล้วนี่อาจจะไม่ใช่พิษ

แต่สวี่ชิงเชี่ยวชาญวิถีโอสถ เอกลักษณ์พิเศษแบบนี้ทำให้ในหัวของเขามีสิ่งที่เป็นตัวยาคล้ายๆ กันอย่างน้อยเจ็ดแปดประเภท โดยรายละเอียดแล้วเป็นประเภทใดนั้น เขาต้องกลับไปวิเคราะห์สักหน่อย

ไม่ว่าจะอย่างไร การปะทะกันหลายครั้ง ทำให้จิตสังหารที่สวี่ชิงมีต่อเด็กหนุ่มเผ่าเงือกยิ่งเดือดพล่าน

“โอกาสฆ่าปลามาถึงแล้ว”

สวี่ชิงพึมพำ เดินทางมาถึงท่าจอดเรือที่ท่าเรือ ในเสี้ยวพริบตาที่ก้าวเข้ามาในเรือเวท เขาก็เปิดเกราะป้องกันทันที สกัดกั้นเสียงทุกอย่างจากโลกภายนอก ทำให้ในเรือเวทเงียบสงัด

จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิในเรือ สวี่ชิงฉีกชายเสื้อชุดนักพรตออกมาทันที

ถือมันเอาไว้ในมือ เขามองมันอย่างละเอียด มือซ้ายประสานปางมือ ก็มีไฟกลุ่มหนึ่งลอยขึ้นที่ฝ่ามือสวี่ชิงทันที

คัมภีร์แปรสมุทรแม้จะฝึกฝนน้ำเป็นหลัก แต่สำหรับผู้ฝึกฝนวิชาเวท หลายประเภทเป็นประเภทเสริมถือเป็นเรื่องปกติ

แผ่นหยกเคล็ดวิชามีการแนะนำเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

ตอนนี้มือซ้ายสวี่ชิงเพียงสะบัด ลูกไฟก็พุ่งไปที่ชายเสื้อ ปกคลุมมันเอาไว้ แล้วเริ่มเผา

เสียงแซ่ดๆ ดังออกมาไม่หยุด ยิ่งมีควันจางๆ ลอยฟุ้งออกมา

การไหวระริกของแสงเพลิงสะท้อนให้ใบหน้าของสวี่ชิงไหววูบ

เขามองชายเสื้อที่ถูกเผาหงิกงอไม่หยุด เส้นสีแดงที่เผาปรากฏขึ้นที่ชายขอบแผ่ลามไปทั่วทั้งผืนผ้าอย่างรวดเร็ว ทุกที่ที่พาดผ่าน ชายเสื้อสีเทาก็กลายเป็นเถ้าถ่านที่เพียงแตะก็แหลกสลาย

กระทั่งว่าหลังจากนั้นสามสี่อึดใจ ชายเสื้อก็ถูกเผาจนหมดสิ้น เปลวไฟค่อยๆ มอดดับ

สวี่ชิงมองเถ้าที่กลางฝ่ามือ ดมกลิ่นควันที่ลอยออกมาจากในนั้นแล้วเอ่ยพึมพำ

“นี่คือเลือดของแมงดาพรายปรารถนา มีพิษ แต่ก็ไม่ใช่พิษ”

ในตำรายาที่ปรมาจารย์ไป่ทิ้งไว้ให้บรรยายถึงแมงดาพรายปรารถนา บอกว่าสิ่งมีชีวิตประเภทนี้อาศัยอยู่ในทะเลลึก พบเห็นยากมาก ที่สวี่ชิงตอนนี้อยู่สองตัว แต่ยังหาตัวยาเสริมไม่ได้ ดังนั้นจึงยังไม่ได้แตะต้องเสียที

แต่เขารู้ว่า เลือดของมันหลังจากที่ผ่านการจัดการแล้วจะกลายเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ในการรักษาบาดแผลอย่างหนึ่ง แต่หากใช้วิธีอื่นปรุง กลิ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากเลือดของมันจะเป็นที่รังเกียจของอสูรกลายพันธุ์มากมายภายใต้สมุนไพรที่เพียบพร้อมหยินและหยาง

“ยังมีลักษณะพิเศษของหญ้าเบิกปัญญา” สวี่ชิงหลับตา หลังจากที่วิเคราะห์แล้วก็ลืมตาขึ้น ดวงตาทั้งสองประดุจบ่อน้ำลึกดำมืด เยือกเย็นเป็นที่สุด

บทที่ 74 เทียบเชิญลงนรก 1

บทที่ 74 เทียบเชิญลงนรก 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา