เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 75

บทที่ 75 ฆ่าปลา!

ลมกลางคืนดุจคมเคียวอาบเลือดที่ทูตแห่งความตายแบกเอาไว้ มาพร้อมกับกลิ่นคาว มาพร้อมกับความเหนียวเหนอะ คืบคลานไปทั่วทุกมุมในเมือง

เงาร่างทูตแห่งความตายเหมือนได้ผสานเป็นหนึ่งกับเงาทุกอย่างในเมือง เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในความมืดท่ามกลางเสียงแตรแห่งการสังหาร หลอมรวมไม่ต่อเนื่อง แผ่กระจายออกไปต่อเนื่อง ราวกับไม่เกรงกลัวสิ่งใดทั้งสิ้น และมากพอจะทำให้สรรพชีวิตที่คิดจะดิ้นรนสิ้นหวัง

จวบจน…มันพบกับคนคนหนึ่งในเงาขณะแผ่ลามและเคลื่อนไปข้างหน้า ณ มุมมืดมิดที่ห่างไกล

นั่นเป็นเงาร่างที่สวมชุดนักพรตสีเทา แผ่นหลังของเขาคล้ายว่าดาบฟันไม่ขาดเข็มแทงไม่เข้า กลิ่นอายเย็นเยียบที่แผ่ซ่านออกมาคล้ายปิดกั้นแสงดาวบนท้องฟ้าในความมืด

ชวนให้คนหายใจไม่ออก

ในเสี้ยวขณะนี้เหมือนแม่น้ำที่โหมทะลักเจอกับมหาสมุทร เหมือนฝูงหมาไนที่ละโมบเจอกับราชาหมาป่า

ฝีเท้าของมันหยุดลง ร่างไร้รูปสงบนิ่งกลืนไปกับสภาพแวดล้อมเหมือนจะกำลังจับสังเกตท่ามกลางความเงียบสงัด จนเมื่อเงาร่างสีเทาร่างนั้นหันมาอย่างช้าๆ ดวงตาเย็นเยียบทั้งสองฉายแววสงบนิ่งดุจบ่อน้ำสีดำออกมา

มันหัวเราะ

เหมือนเจอผู้ที่ศรัทธา เหมือนเจอสหายร่วมวิถี มันแบกเคียวแห่งความตายเอาไว้พลางโห่ร้องไปทั่ว เงาร่างสีเทาร่างนี้ พัดผมยาวของเขาปลิวสยาย พัดชุดคลุมยาวปลิวสะบัด

“ลมคืนนี้ค่อนข้างแรงเสียด้วย” สวี่ชิงเอ่ยพึมพำเสียงเบา หันหน้าไปจ้องบ้านที่อยู่ไกลๆ ในความมืดต่อ

บ้านในสายตาของเขาเหมือนโลงศพโลงหนึ่ง แผ่ความหนักหน่วงออกมาท่ามกลางความมืด นั่นเป็นที่พักอาศัยของเด็กหนุ่มเผ่าเงือกที่เขาค้นพบในช่วงนี้

อีกฝ่ายไม่เหมือนลูกศิษย์ยอดเขาที่เจ็ด เหมือนจะไม่มีสิทธิ์ครอบครองเรือเวท ดังนั้นบริเวณที่พักอาศัยได้จึงเลือกได้แค่บนฝั่งเท่านั้น อาศัยอยู่กับคนติดตาม

สวี่ชิงจับจ้องอย่างสงบนิ่ง ไม่รีบร้อนกระวนกระวาย เสียงลมหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอของเขาเหมือนวารีเย็นเยียบคดเคี้ยวที่ทอดยาวและล้ำลึกในความมืด

เขากำลังรอ

กลิ่นอายที่เป็นสัญลักษณ์บอกสวี่ชิงอย่างแม่นยำว่าคนที่เขารออยู่ที่นี่

อีกทั้งวิเคราะห์จากกิจวัตรอย่างการออกไปข้างนอกเพียงลำพังของอีกฝ่ายเมื่อครั้งที่แล้ว ช่วงสองสามวันนี้น่าจะใกล้ถึงเวลาที่ปลาตัวนี้จะออกไปข้างนอก โดยเฉพาะวันนี้…ที่อีกฝ่ายอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก

ดังนั้นสวี่ชิงรู้สึกว่าความเป็นไปได้ในคืนนี้ ตนรอได้

เวลาไหลไป หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม ยามเมื่อดวงจันทร์บนท้องฟ้าถูกเมฆดำบดบังอีกครั้ง ลมราตรีพัดมาระลอกหนึ่ง บ้านที่ถูกฝังอยู่ในความมืดก็มีเสียงลมพัดกระทบดังมา

เสียงนี้ขับเน้นให้บ้านที่เหมือนโลงศพหลังนี้ยิ่งเหมือนเสียงคำรามแหบแห้งก่อนตายดังสะท้อนในท้องฟ้าราตรีที่เงียบสงบ

เงาร่างสายหนึ่งปรากฏขึ้นบนกำแพงสูงของบ้าน

ชุดนักพรตสีเทาปกปิดกลิ่นคาวปลาที่แผ่ซ่านมาจากทั่วร่างไม่มิด ดวงตาสีเขียวราวอัญมณีเหมือนจะเปลี่ยนสันดานเหี้ยมโหดไม่ได้

เสื้อคลุมตัวใหญ่ที่โบกสะบัดกลางสายลมแปลงเค้าโครงร่างให้ดูเหมือนใหญ่โตทรงพลัง แต่ชั้นบางๆ นั้นเหมือนเป็นหนังมนุษย์ที่ถูกเลาะออกมาแล้วมากกว่า

เขาก็คือเด็กหนุ่มเผ่าเงือกคนนั้นนั่นเอง

วันนี้อารมณ์ของเขาย่ำแย่ถึงขีดสุด เรื่องเมื่อเช้าทำให้เขารู้สึกถูกหยามหมิ่นอย่างรุนแรง

“องค์หญิงใหญ่ของยอดเขาที่เจ็ดแล้วอย่างไร ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งข้าจะฉีกทึ้งทรมานเจ้าแน่ ใช้ร่างของเจ้ามาเลี้ยงสัตว์ประหลาดผีร้าย!” เด็กหนุ่มเผ่าเงือกกัดฟันกรอด ความไม่สบอารมณ์ทำให้เขาเลือกที่จะออกไปข้างนอกก่อนกำหนดหลายวัน เขารู้สึกว่าตัวเองจะต้องออกไประบายอารมณ์สักหน่อย

และวิธีการระบายอารมณ์นั้น เขาได้ให้พี่สาวทั้งสองคนจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่สตรี แต่เป็นเด็กเล็ก

นี่เป็นความชอบที่จะให้ผู้คนรู้ไม่ได้ เขาชอบทรมานสังหารเด็กเล็กต่างเผ่า ใช้เรื่องนี้มาสร้างความสุขให้ตัวเอง

ตอนนี้ร่างเพียงไหววูบก็เดินเข้าไปในความราตรีมืดมิด

ร่างของเขาค่อยๆ รางเลือนไปตามการเคลื่อนไปข้างหน้า สุดท้ายก็หายลับไป ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นหรือความรู้สึก ในตอนนี้ล้วนไม่สามารถจับเป้าหมายได้ เหมือนจู่ๆ ก็ไร้ตัวตน

แต่สัญลักษณ์กลิ่นไม่มีทางหายไป

สวี่ชิงเงยหน้า มองเงาร่างของอีกฝ่ายที่หายไป สีหน้าของเขาสงบนิ่ง ก้าวเท้าไปอย่างเงียบงันเข้าไปในความมืดเช่นเดียวกัน

ลมพัดแรงขึ้น ดุจการต้านทานกันของคมดาบกับอากาศ ส่งเสียงสะท้อนไม่หยุดในคืนที่เงียบสงบคืนนี้

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ในมุมหนึ่งของตรอกตอนนี้รางเลือนบิดเบี้ยว เงาร่างของเด็กหนุ่มเผ่าเงือกปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และในเสี้ยวพริบตาที่เขาปรากฏตัวขึ้น เขาก็สัมผัสได้ถึงวิกฤตอันตราย ร่างพลันถอยหลังไปทันที

แต่ก็ยังช้าไป ม่านน้ำหนาๆ ทางหนึ่งปรากฏขึ้นข้างหลังเขาในเสี้ยวพริบตา ทั้งยิ่งปรากฏขึ้นทั่วทุกทิศแล้วปกคลุมตรอกแห่งนี้ เสียงคำรามต่ำทุ้มก็ดังมาจากม่านน้ำข้างหน้าในพริบตาที่ปิดผนึกอย่างแน่นหนา

วาฬตัวมหึมาที่เกิดจากวิชาเวทตัวหนึ่งปรากฏขึ้นพุ่งออกมาจากม่านน้ำอย่างรวดเร็ว

แผ่ความเย็นเยือก แผ่จิตสังหาร อ้าปากกว้างไปหาเด็กหนุ่มเผ่าเงือก เผยให้เห็นเขี้ยวคมวาววับที่มาพร้อมกับพลังมหาศาล พุ่งไปกลืนกิน

เด็กหนุ่มเผ่าเงือกสายตาเหี้ยมโหด

“น่าสนใจดี วันนี้อารมณ์ไม่ดีพอดีเลย เช่นนั้นก็เล่นกับเจ้าสักหน่อยก็แล้วกัน”

ระหว่างพูดมือทั้งสองของเขาก็ยกขึ้น กำลังจะประสานปางมือ ทว่าในเสี้ยวพริบตานี้ เงาที่ผสานรวมไปกับความมืดก็แยกออกมาเป็นเส้นๆ เหมือนกับโซ่ พุ่งเข้ามาจากทุกทิศอย่างเร็วรี่ รัดแขนและปกคลุมที่ฝ่ามือของเด็กหนุ่มเผ่าเงือก ทำให้เขาไม่สามารถประสานปางมือได้สำเร็จ

ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่ปกคลุมฝ่ามือ เงานี้ก็พุ่งไปที่คอของเขาแล้วแผ่ลามไปอย่างรวดเร็ว

และไม่ว่าจะเป็นมือทั้งสองข้างของเขาหรือเป็นผิวที่สัมผัสเข้ากับเงานี้ ล้วนแต่ส่งความเจ็บปวดรุนแรงปานทะลุทะลวงหัวใจในเสี้ยวขณะเหมือนกำลังถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้กะทันหันมาก สีหน้าของเด็กหนุ่มเผ่าเงือกจึงเปลี่ยนไปมหาศาลเป็นครั้งแรก

วิกฤตชีวิตความเป็นตายรุนแรงและความเจ็บปวดมหาศาลทำให้ลมหายใจของเขาถี่กระชั้น ในขณะที่เขาดิ้นรน วาฬที่แปลงมาจากม่านน้ำด้านหน้าก็มาอยู่เบื้องหน้าแล้วกลืนกินเขาลงไปด้วยรัศมีอำนาจน่าหวาดกลัว

แต่ในเสี้ยวพริบตาที่วาฬตัวนี้อ้าปากกกลืน เด็กหนุ่มเผ่าเงือกก็ส่งเสียงคำรามออกมา แสงสีฟ้าสายหนึ่งปะทุออกมาจากร่างของเขา ลำแสงประดุจหนามคม ในขณะที่พยายามลองขับไล่เงาบนร่างของเขา ก็ยิงออกไปรอบๆ ด้วย

ปะทะเข้าตรงๆ กับวาฬที่พุ่งเข้ามา วาฬแหลกสลายทันที แต่ไม่ได้แตกกระจายไปรอบๆ เศษพลังที่เหลือเหมือนคลื่นทะเลโหมซัด เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

เด็กหนุ่มเผ่าเงือกสั่นสะท้านไปทั้งกาย ร่างถอยหลังไป เลือดสดๆ กระอักออกมา ฉวยโอกาสที่แสงสีฟ้าทำให้เงาแปลกประหลาดทั้งหมดนี้เชื่องช้า สีหน้าของเขาฉายแววดุดันเหี้ยมโหดออกมา กำลังจะเปิดถุงเก็บของ

แต่ในตอนนี้เงามืดที่แผ่ลามทั่วร่างของเขาปะทุขึ้นมาอีกรอบ แล้วพันรัดมือทั้งสองของเขาอีกครั้ง หลังจากที่ขัดขวางการเคลื่อนไหวของเขาก็แผ่ลามไปทั่วร่างของเขาต่อ

ภาพนี้ทำให้เด็กหนุ่มเผ่าเงือกหวาดกลัวโดยสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นในเสี้ยวขณะนี้ ประกายเย็นเยียบสีดำทางหนึ่งก็พุ่งมาที่หว่างคิ้วของเขาอย่างรวดเร็วจากที่มืด

บทที่ 75 ฆ่าปลา! 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา