บทที่ 762 นั่งทางบูรพาทิศ เพ่งพินิจหมู่ดารา
เรื่องนี้เรียกได้กระทั่งว่าเป็นหนึ่งในพิธียิ่งใหญ่ของเผ่ามนุษย์
โดยปกติแล้วดาราจักรพรรดิโบราณ นอกเสียจากจะเซ่นไหว้บรรพชน ไม่เช่นนั้นแล้วน้อยครั้งนักที่จะเปิด
เพราะทุกครั้งที่เปิดมันทำให้ดาวโบราณตื่นขึ้นจากสภาวะหลับใหล ต้องใช้พลังดวงชะตาเผ่ามนุษย์มหาศาล ยิ่งต้องพลาญพลังรากฐานของดาวโบราณ
อย่างไรเสียที่นั่นก็เคยเป็นที่ตั้งของวังหลวงในยามที่เผ่ามนุษย์รวมแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ให้เป็นหนึ่ง ก่อนที่เสี้ยวหน้าจะมาเยือน หมื่นเผ่าต่างมาเข้าเฝ้าที่นี่ กระทั่งในภาพวาดฝาผนังหลายๆ เผ่า ที่นั่นเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสวรรค์ เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ได้อย่างไม่ต้องละอาย
ต่อให้จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวนำผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายจากไป แต่ดาวดวงนี้เดิมก็มีตำแหน่งสูงอยู่แล้ว มีความหมายไม่ธรรมดา
เพราะในนั้นแฝงไว้ด้วยมรดกสายตรงของหนึ่งร้อยแปดโหวนภาที่ติดตามจักรพรรดิโบราณในตอนนั้น และวิถีของอ๋องสวรรค์ทั้งสามสิบสามคนที่ไม่ว่าคนใดก็สั่นคลอนทุกทิศ
อย่างหลี่จื้อฮว่า เขาก็ทิ้งมรดกไว้ในนั้น
และสิ่งที่คนวาดหวังที่สุดคือตราประทับมหาจักรพรรดิทั้งเก้าของเผ่ามนุษย์ในนั้น
ในยุคจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว เป็นยุครุ่งโรจน์ของเผ่ามนุษย์ และเป็นจุดสูงสุดของพลังดวงชะตาเผ่ามนุษย์ จึงมีมหาจักรพรรดิเก้าองค์ปรากฏขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ไม่ว่าเผ่ามนุษย์คนใด หากได้มรดกมหาจักรพรรดิ ฐานะและตำแหน่งจะก้าวเดียวสู่สวรรค์ พลังบำเพ็ญหลังจากนั้นก็จะไม่ธรรมดาด้วยเช่นกัน
แต่น่าเสียดาย ดาราจักรพรรดิโบราณเปิดน้อยครั้งนัก ระยะเวลาที่เปิดทุกครั้งก็สั้นมาก ดังนั้นจนถึงทุกวันนี้ มีผู้ที่สัมผัสรับรู้มรดกโหวนภาได้ แม้มรดกอ๋องสวรรค์จะน้อย แต่ก็เคยมีปรากฏเช่นกัน
แต่ตราประทับมหาจักรพรรดิไม่เคยมีใครได้รับมาก่อน
ที่ได้กันส่วนใหญ่ คือเคล็ดวิชาของวีรบุรุษผู้กล้าที่รบตายเพื่อเผ่ามนุษย์ระดับโหวนภาลงไปจำนวนหนึ่ง แม้ระดับขั้นห่างชั้น แต่ก็นับว่าพิเศษ
ตอนนี้ ขั้วอำนาจทุกฝ่ายในเมืองหลวงต่างตื่นตะลึงกับการกระทำอันกะทันหันของจักรพรรดิมนุษย์ ยามที่ในใจเกิดระลอกคลื่นหมื่นจั้ง ในสำนักยอดจักรพรรดิดารา ในหอสำรวจนภา สายเลือดจักรพรรดิแซ่เผิงคนนั้นวันนี้อยู่ในสระน้ำเซียนถ้ำสวรรค์หอเลือนโลกีย์ พลันลืมตาตื่นขึ้นจากการนั่งสมาธิ
‘จักรพรรดิมนุษย์เปิดดาวโบราณ ให้อัจฉริยะเผ่ามนุษย์สัมผัสรับรู้วิถีโบราณ!’
ในดวงตาของเขาฉายประกายวาววาบ ผุดลุกขึ้นทันที
‘ในเมื่อหลิงเหยานั่นปฏิเสธหลายครั้ง ไม่เอาปราณพลังหยินของนางก็ได้ ในมรดกดาราจักรพรรดิโบราณ ข้าในฐานะที่เป็นลูกหลานสายเลือดมหาจักรพรรดิได้เปรียบเป็นอย่างมาก หากได้มา และได้จี้มังกรมาด้วย อาศัยพลังดวงชะตาคุ้มครอง สามารถทะลวงขั้นสมบัติวิญญาณก้าวสู่ระดับหวนสู่อนัตตาได้ทันที นับจากนี้ทุกอย่างก็จะราบรื่น ก้าวไปสู่ระดับเตรียมสู่เทวะก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้’
ขณะเดียวกัน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองหลวง ที่นั่นมีศาลเจ้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ศาลเจ้าแห่งนี้ภายนอกดูธรรมดานัก เต็มไปด้วยร่องรอยของห้วงเวลาที่ไหลผ่านไป
แต่ในนั้นลึกลับน่าอัศจรรย์ มีถ้ำสวรรค์มากมาย กว้างใหญ่ไม่มีสิ้นสุด
ตอนนี้ในถ้ำสวรรค์หนึ่งในนั้นมีผู้บำเพ็ญลักษณะเหมือนพระคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ คนผู้นี้เป็นชายกลางคน ไม่มีผม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยสัก
มองให้ละเอียดก็จะเห็นรูปร่างของรอยสักนั่นเป็นเสี้ยวหน้าบนท้องฟ้านั่นเอง
“ดาราจักรพรรดิโบราณเปิด เฝินซิง เจ้าไปเป็นตัวแทนของสำนักสัจจะวาจา ไปสัมผัสรับรู้สักหน่อย”
เสียงแหบพร่าผ่านห้วงกาลเวลาดังก้องไปในถ้ำสวรรค์ ดวงตาทั้งสองของชายกลางคนที่นั่งขัดสมาธิลืมตื่นขึ้น มือทั้งสองกอดอก ก้มหน้ารับคำ จากนั้นก็ลุกขึ้น เปลี่ยนเป็นชุดคลุมยาวสีขาวทั้งร่าง ปกปิดส่วนศีรษะ เดินออกไปข้างนอก
เงาร่างของเขาเพียงก้าวเดียวก็รางเลือน ก้าวที่สองก็หายลับไป ก้าวที่สามมาปรากฏอยู่บนสะพานสายรุ้งนอกวังหลวง รอคอยเงียบๆ
ภาพคล้ายที่คล้ายๆ กัน เงาร่างที่คล้ายๆ กัน ในสิบสุดยอดสำนักทั้งเผ่ามนุษย์ล้วนปรากฏออกมา ทางหอเลือนโลกีย์ที่เดินออกมาคือหลิงเหยานั่นเอง สำนักอื่นๆ ต่างก็มีอัจฉริยะที่ถูกส่งให้เข้าร่วมเช่นกัน
ขั้วอำนาจยุทธภพก็เช่นกัน สายตรงเผ่ามนุษย์ยิ่งย่อมเป็นเช่นนั้น
ในห้าวังทมิฬบน ผู้ที่ได้รับการอบรมฝึกฝนอย่างเข้มข้นและมีคุณงามความชอบครั้งใหญ่ อีกทั้งมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขต่างทยอยปรากฏตัวขึ้น ห้าวังทมิฬล่างก็เช่นกัน และยังมีบุตรหลานจากชนชั้นสูงผู้มีอำนาจฝ่ายต่าง
แล้วก็ยังมีองค์หญิงองค์ชาย!
นอกจากองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสองที่แต่งงานออกไป และองค์ชายห้าเนื่องจากติดตามอ๋องสวรรค์อันดับหนึ่งเผ่ามนุษย์ไปรักษาอยู่ชายแดนเผ่านภาคิมหันต์จึงไม่อยู่ในเมืองหลวง ตลอดจนองค์ชายใหญ่ที่ไม่เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิมนุษย์ อีกทั้งองค์ชายแปดและเก้าที่สละสิทธิ์แล้ว องค์ชายคนอื่นๆ ล้วนเลือกที่จะเข้าร่วมทั้งหมด
สำหรับจี้มังกร คนอื่นๆ ให้ความสำคัญเพราะในนั้นมีพลังดวงชะตา สามารถเสริมพลังให้กับตน มีประโยชน์เป็นอย่างมาก ส่วนเหล่าองค์ชาย…พวกเขาให้ความสำคัญกับนัยยะที่เป็นสัญลักษณ์ของจี้มังกรมากกว่า
จะอย่างไรนับจากที่จักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นขึ้นครองราชย์มานี้ เป็นครั้งแรกที่…เอาจี้มังกรที่เป็นตัวแทนของฐานะจักรพรรดิมนุษย์มาเป็นของรางวัล
ความหมายที่ซ่อนอยู่ในนั้นล้ำลึกนัก และคนที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการสัมผัสรับรู้ครั้งนี้ ไม่มีคนโง่ ดังนั้นต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง
“การที่จักรพรรดิมนุษย์ประทานจี้มังกร…หรือข่าวลือจะเป็นจริง จักรพรรดิมนุษย์คิดจะเลือกรัชทายาทจริงๆ อย่างนั้นหรือ”
“ไม่ว่าจะอย่างไร มรดกครั้งนี้ดูเหมือนเปิดกว้างให้กับอัจฉริยะทุกคน แต่ความจริงแล้วทุกคนเป็นใบไม้เขียวกันหมด ดอกไม้แดงในนี้…คือองค์ชายเหล่านั้น”
“จักรพรรดิมนุษย์จะพิจารณาบุตรของตัวเอง ดูว่าใครจะได้รับการยอมรับจากบรรพชนที่สุด”
“แน่นอนว่า หากมีคนโดดเด่นออกมาจาการสัมผัสรับรู้ที่ทดสอบองค์ชาย ก็จะต้องได้รับความสนใจจากผู้คนทั้งหลายแน่นอน นี่เป็นโอกาส!”
นอกวัง กระแสฮือฮาจากคำพูดของจักรพรรดิมนุษย์ เงาร่างแต่ละทางๆ มาถึงจากทั่วทุกสารทิศ รวมตัวมายังบนสะพานสายรุ้ง กวาดตามองไปมีมากถึงหลายพันคน
และในวัง จักรพรรดิมนุษย์ที่ยืนอยู่บนบันไดขั้นที่เก้า ถอนสายตากลับมาจากนอกตำหนัก ยกมือขวาขึ้น แขนเสื้อสะบัดเล็กน้อย ก้าวไปข้างหน้า
“ท่านทั้งหลาย ตามข้าไปร่วมชมสะพานในอนาคตของเราเผ่ามนุษย์ ยุคนี้เป็นยุคของพวกเรา ทว่ายุคในวันข้างหน้าเป็นของพวกเขา”
เสียงของจักรพรรดิมนุษย์มีอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาเล็กน้อยอย่างหาได้ยาก
คนทั้งหลายในตำหนักใหญ่ต่างแย้มยิ้มสีหน้ามีความสะท้อนใจปรากฏขึ้น ท่าทางอย่างจักรพรรดิและขุนนางร่วมสุข ตามจักรพรรดิมนุษย์เดินออกไปจากตำหนัก
สวี่ชิงก็อยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน หนิงเหยียนทางนั้นจงใจช้าเล็กน้อย มายังข้างกายสวี่ชิง
สวี่ชิงมองหนิงเหยียนผาดหนึ่ง พบว่าสีหน้าของเขาค่อนข้างหงอยเศร้า เขารู้ว่าหนิงเหยียนกลัวจักรพรรดิมนุษย์ และภาพแต่ละฉากๆ ที่เกิดขึ้นในวังหลวงก่อนหน้านี้ก็ทำให้หนิงเหยียนเป็นกังวล
ที่สำคัญกว่านั้นคือ จักรพรรดิมนุษย์นับแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้ชายตามองหนิงเหยียนเลย และไม่ถามอะไรแม้แต่น้อย
นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นสาเหตุความหมองเศร้าของหนิงเหยียน
“ไม่เป็นไร”
สวี่ชิงพยักหน้าเล็กน้อย
หนิงเหยียนถอนหายใจ สวี่ชิงทำให้เขารู้สึกเป็นเหมือนพี่ชายของตัวเองเมื่อตอนนั้น ยืนอยู่ข้างสวี่ชิงเขารู้สึกจิตใจสงบ จึงเข้าใกล้สวี่ชิงอีกนิด



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา