เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 781

บทที่ 781 คำพยากรณ์สองเดือนให้หลังนี้

การเข้าร่วมขององค์ชายเจ็ดสำหรับสายผสานเทพแล้วเป็นการช่วยเสริมให้โดดเด่นขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะผู้ร่ำเรียนของสายก็ยิ่งเกิดความภาคภูมิใจ

ฐานะขององค์ชายมีความพิเศษ และการเข้าร่วมอย่างเปิดเผยเช่นนี้เท่ากับเป็นการประกาศอย่างกว้างขวางต่อภายนอก ทำให้สายผสานเทพที่มีผู้ร่ำเรียนมากมายในวังศึกษายิ่งมีผู้เชื่อถือมากขึ้น

ในเมื่อองค์ชายยังเลือกสายผสานเทพ นี่สำหรับหลายๆ คนแล้วเป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง

และตัวองค์ชายเจ็ดเองก็ย่อมเป็นตัวแทนของสายผสานเทพไปตามธรรมชาติ คนภายนอกจับตากันอย่างมากมาย

ความรู้สึกเช่นนี้เป็นสิ่งที่องค์ชายเจ็ดต้องการ นับจากที่อ๋องเทียนหลันตายไป เขาหนีกลับมายังวังหลวงอย่างหมดสภาพ เหมือนสุนัขข้างถนน ความรุ่งโรจน์ก่อนหน้านี้หายไปหมด ต้องเลือกฝืนทนข่มกลั้น หลบหลีกให้สวี่ชิง

ความอาฆาตแค้นในใจรุนแรงจนถึงขีดสูงสุดตั้งนานแล้ว

เขารอคอยมาตลอด รอเสด็จพี่ห้าของตนกลับมา

องค์ชายห้ามีพระมารดาองค์เดียวกันกับเขา เทียบกับองค์ชายองค์อื่นๆ แล้ว พวกเขาสองคนถึงจะเป็นพี่น้องที่ใกล้ชิดที่สุด

และองค์ชายห้ายิ่งเป็นคนที่มีกำลังรบสูสีกับองค์ชายใหญ่ในบรรดาองค์ชายทั้งหลายแล้ว องอาจชำนาญการต่อสู้ จักรพรรดิมนุษย์จับตามองให้ความสำคัญ ประทานรางวัลด้วยการให้ฝากตัวเป็นศิษย์กับอ๋องสวรรค์อันดับหนึ่ง ให้ไปตั้งค่ายอยู่ชายแดนเผ่านภาคิมหันต์ร่วมกับอ๋องสวรรค์อันดับหนึ่งเป็นเวลานาน น้อยครั้งที่จะกลับราชสำนัก

จนเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ เขาได้รับรายงานลับ เสด็จพี่ห้าของตนใกล้กลับมาแล้ว

เรื่องนี้ทำให้เขาตื่นเต้นนัก จึงเข้าร่วมกับสายผสานเทพตามแผนของเสด็จพี่ห้า ไม่เสียดายทุกสิ่ง ต่อให้ต้องเปลี่ยนเคล็ดวิชา ก็ยังยืนหยัดที่จะไปวิถีแห่งการผสานเทพ

และสายผสานเทพก็ใช้เรื่องในครั้งนี้เป็นอย่างดี ให้ความช่วยเหลือองค์ชายเจ็ดอย่างมหาศาล หลังจากที่เขาเข้าร่วมสายผสานเทพแล้ว เจ้าสายก็ทำการชี้แนะด้วยตัวเอง เปลี่ยนวิถีให้เขา สับเปลี่ยนเลือดเนื้อ

หนึ่งเดือนให้หลัง องค์ชายเจ็ดพัฒนาไปอย่างมหาศาลภายใต้การช่วยเหลือจากสายผสานเทพพลังบำเพ็ญเช่นนี้เอง ร่างเปลี่ยนเป็นเลือดเนื้อคุณสมบัติเทพไปได้สามส่วน สุดท้ายทะลวงขั้นจากระดับสมบัติวิญญาณ ก้าวสู่ระดับหวนสู่อนัตตาขั้นหนึ่ง

วันที่เขาทะลวงขั้นวันนั้น ขั้วอำนาจทุกฝ่ายล้วนจับตามอง

ในวังศึกษาผู้ร่ำเรียนที่ไม่ได้เข้าร่วมสายผสานเทพก็ต่างใจเต้น

เพียงพริบตา ฐานะของสายผสานเทพก็ยิ่งมั่นคง ผู้เลื่อมใสเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอีกครั้ง กลายเป็นสายอันดับหนึ่งที่สมชื่อ ส่งอิทธิพลกับโลกภายนอกทางอ้อม ทำให้ผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ในเมืองหลวงต่างพูดถึงวิถีผสานเทพกันบ่อยครั้ง

เรื่องแบบนี้ มีเพียงในตอนที่สายเซียนต่างวิถีอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์เมื่อครั้งนั้นเท่านั้นที่เคยปรากฏ

ลมพายุผสานเทพกำลังปะทุขึ้นในเผ่ามนุษย์

เทียบกับสายผสานเทพที่ดุจดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวันแล้ว ทางสายเซียนต่างวิถีทางนี้ก็ยิ่งไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ กลับสู่ความจืดจางโดยสมบูรณ์

แม้แต่ลูกศิษย์ที่ขั้วอำนาจแต่ละฝ่ายส่งให้มาเข้าร่วมเหล่านั้นก็มีห้าคนที่หายไป ไม่มาทุกวันแล้ว มีเพียงผู้เข้าร่วมในภายหลังสี่คนซึ่งรวมสตรีลึกลับผู้นั้นที่ยังยืนหยัดมาทุกวัน

แต่เห็นได้ชัดว่าทางแรงขับเคลื่อนไม่พอแล้ว

ส่วนศิษย์หลักสามคนนั้นที่เข้ามาก่อนสวี่ชิงนั้นไม่มีทางเลือก คำพูดที่เจ้าสายกล่าวเหล่านั้น จากที่เชื่อในทีแรกก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตอนนี้ส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้นแล้ว

เป้าหมายสำคัญของพวกเขาในตอนนี้ สุดท้ายก็ยังอยู่ที่การบริหารจัดการจุลสาร ลากสวี่ชิงจมอยู่ในนี้ทั้งวัน

ส่วนเจ้าสายทางนั้น…ถอนหายใจในใจทั้งวัน แต่ความยืนหยัดในใจทำให้เขายังรักษาท่านั่งที่สง่างามเอาไว้ได้ เพียงแต่เห็นเขาที่เงียบนิ่งอยู่ทุกวัน น่าจะยืนหยัดไปได้อีกไม่นานเท่าไรแล้ว

หากไม่มีอะไรผิดพลาด สุดท้ายสายเซียนต่างวิถีก็จะกลับไปเหมือนเดิม

แต่เหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นแล้ว…จุลสารของสายเซียนต่างวิถีกลายเป็นชนวน

โดยมีจุลสารที่ศิษย์สามคนนั้นจัดตั้งขึ้นมาในแรกเริ่ม เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แสวงหาความเป็นจริง แต่เป็นการดึงดูดความสนใจจากข่าวซุบซิบต่างๆ เหล่านั้น มีเพียงเช่นนี้ถึงจะตรงกับความเป็นมนุษย์ ถึงจะมียอดขายที่แน่นอน

ปกติก็เขียนถึงสายต่างๆ เพราะสายเซียนต่างวิถีเดิมก็ตกต่ำอยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรให้เสีย สายอื่นๆ ต่อให้ถูกเขียนข่าวก็ทำอะไรไม่ได้

เคยมีคนบุกมาหาเหมือนกัน แต่เผชิญกับสายเซียนต่างวิถีที่เหมือนก้อนหินในหลุมสุขา สุดท้ายก็ทำได้แค่จากไปพร้อมความโกรธเคือง

ถึงอย่างไรสายเซียนต่างวิถีก็เป็นเช่นนี้ไปแล้ว ยากจนไส้แห้ง เจ้าจะทำอะไรได้

กระทั่งว่ายิ่งมาหา จุลสารของสายเซียนต่างวิถีก็ยิ่งดีใจ ในข่าวของวันที่สองก็จะเน้นพูดเรื่องนี้ ใช้วิธีการบอกเป็นนัยๆ ต่างๆ นานามาพิสูจน์ว่าข่าวจุลสารของตัวเองเป็นเรื่องจริง

นานวันเข้าทุกคนก็ไม่สนใจแล้ว

แต่หลังจากที่สายเซียนต่างวิถีมีผู้บำเพ็ญลึกลับขั้นใหญ่ปรากฏตัว ในระดับหนึ่งก็จะพูดว่าตกต่ำไม่ได้แล้ว เพราะนับได้ว่ามีการยกระดับขึ้นมานิดหนึ่ง ดังนั้น…หลังจากที่เขียนข่าวถึงสายผสานเทพอยู่หลายครั้ง ในวันนี้ คนของสายผสานเทพบุกมาหา

ฐานะในสายผสานเทพของผู้มาเยือนก็ไม่ธรรมดา เป็นผู้ร่ำเรียนที่มีชื่อในสายผสานเทพ สูสีกับศิษย์ตัวแทนสาย ข้างหลังเขายังมีผู้ร่ำเรียนหลายร้อยคนติดตามมาด้วย

การมาเยือนของพวกเขาดึงดูดความสนใจจากคนที่อยู่บนท้องถนน

โดยเฉพาะความเดือดดาลในดวงตาของคนเหล่านี้รุนแรงนัก หลังจากเข้ามาในเจดีย์ขาวสายเซียนต่างวิถีแล้ว บรรยากาศก็ยิ่งตึงเครียด

ลูกศิษย์ในเจดีย์ขาวสายเซียนต่างวิถีต่างหยุดงานที่อยู่ในมือ มองไปทางลูกศิษย์สายผสานเทพที่โมโหเดือดดาลกลุ่มนี้

“สายเซียนต่างวิถีชักจะทำเกินไปแล้ว!

“ในฐานะที่เป็นสายที่สุดยอดในตอนนั้น มาในวันนี้ตกต่ำก็ช่างเถิด แต่ไยจึงไร้ยางอายเช่นนี้ เพื่อดึงดูดความสนใจแล้ว ก็ปั้นน้ำเป็นตัวเขียนข่าวสายอื่นๆ!

“โดยเฉพาะจุลสารยามวิกาลฉบับจ่ายเงินอะไรของพวกเจ้า!

“วันนี้ เจ้าสายเซียนต่างวิถีจะต้องให้คำตอบกับเรา!”

ผู้ร่ำเรียนสายผสานเทพที่เป็นผู้นำคนนั้นเอ่ยอย่างเดือดดาล ในดวงตาแฝงไว้ด้วยเส้นเลือด

คำพูดของเขาดังออกมา ลูกศิษย์ที่เข้าร่วมสายเซียนต่างวิถีภายหลังในเจดีย์ขาวเหล่านั้นต่างหันหน้าไปมองพวกสวี่ชิงทั้งสี่คนที่อยู่ในมุมหลืบ

สวี่ชิงจิตใจสงบนิ่ง กวาดสายตาไปบนร่างคนเหล่านี้ แต่ศิษย์หลักสามคนข้างกายเขากลับถอยหลังไปสามสี่ก้าวตามสัญชาตญาณ ใจไม่สงบนิดๆ

บทที่ 781 คำพยากรณ์สองเดือนให้หลังนี้ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา