บทที่ 807 เซียนคิมหันต์ทั้งเก้า!
เสียงศักดิ์สิทธิ์ดังวนเวียน แว่วกังวานอยู่ในศาลเจ้าโบราณ ทั้งๆ ที่คนพูดอยู่ข้างหน้า แต่กลับทำให้สวี่ชิงรู้สึกเหมือนว่าตรงกลางมีเวลาเนิ่นนานปีขวางกั้นอยู่
เหมือนมีคนดีดสายพิณเบาๆ อยู่นอกกาลเวลา ทำให้เสียงที่ดังมามีความรู้สึกของห้วงกาลเวลา
นิ้วเทพเจ้าในร่างสวี่ชิงนอนไม่หลับ จึงเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมา
ส่วนตัวสวี่ชิงเองตอนนี้ในใจก็เกิดระลอกคลื่นอารมณ์ เขามองพลังบำเพ็ญของเจ้าวังเซียนคิมหันต์ที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้ไม่ออก สัมผัสไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ล่องลอยไม่ชัดเจน คลุมเครือพร่าเลือน
ภาพนี้ จากการเติบโตขึ้นของสวี่ชิงก็ปรากฏน้อยมากแล้ว
ด้วยประสบการณ์ตลอดทางที่เขาเดินมานี้ สูงสุดถึงผู้ปกครอง ต่ำสุดถึงสิ่งประหลาดล้วนเคยเห็นมาแทบจะหมดแล้ว
ต่อให้เป็นเทพเจ้าก็เคยประสบมาหลายครั้ง
ดังนั้นสำหรับการวิเคราะห์กลิ่นอาย ในใจสวี่ชิงมีเกณฑ์อ้างอิงของตัวเอง แต่ตอนนี้…เขาไม่อาจสัมผัสจากร่างของเจ้าวังเซียนคิมหันต์ได้เลยแม้แต่น้อย และหาเกณฑ์อ้างอิงที่คล้ายกันไม่ได้เช่นกัน
การสอดประสานกันของอดีตและปัจจุบันเช่นนั้น ความรู้สึกที่ความจริงและภาพมายาผสานกัน ในเสี้ยวขณะนี้ยิ่งรุนแรงขึ้น
และความรู้สึกทั้งหมดนี้ สุดท้ายรวมกันกลายเป็นความลึกลับ แผ่ซ่านเข้ามาในใจของสวี่ชิง เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนคำพูดของอีกฝ่าย ภายใต้บรรยากาศลึกลับนี้ ก็ยิ่งเต็มไปด้วยความลึกล้ำ ราวกับเสียงของสรรพชีวิตแปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะท้อนดังก้องอยู่ในจิตใจของสวี่ชิง
‘เซียนคิมหันต์…’
สวี่ชิงสะกดระลอกคลื่นอารมณ์ในใจของตัวเอง เงียบนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพลันยกมือขวาขึ้น วัชระกำจัดมารที่บรรพจารย์สำนักวัชระสิงอยู่พุ่งออกมาทันทีก่อนจะลอยมาอยู่ในมือของเขา
“ที่ผู้อาวุโสพูดหมายถึงสิ่งนี้หรือขอรับ”
สวี่ชิงมองไปทางเจ้าวังเซียนคิมหันต์เอ่ยเสียงแผ่วเบา
ศาลเจ้าโบราณเงียบสงัด แว่วเสียงดังวนเวียน
ท่ามกลางความเงียบสงัดนี้ บรรพจารย์สำนักวัชระที่อยู่ในมือของสวี่ชิงสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง ความหวาดกลัวที่ไม่อาจควบคุมได้เหมือนว่าสิ่งที่มันเผชิญหน้าอยู่คือเทพเจ้าองค์หนึ่ง
ส่วนเจ้าเงาที่อยู่ใต้เท้าสวี่ชิงก็ไหววูบเล็กน้อย ควบคุมระลอกคลื่นอารมณ์ ไม่กล้าบุ่มบ่าม
ทุกอย่างนี้ทำให้สวี่ชิงมีการวิเคราะห์ในด้านพลังบำเพ็ญของเจ้าวังเซียนคิมหันต์ที่อยู่ข้างหน้าคนนี้มากขึ้น
ครู่หนึ่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้นอีกครั้ง
“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่”
สตรีในชุดเรียบง่ายยังคงนั่งหันหลังให้สวี่ชิงอยู่ตรงนั้น เสียงที่สกัดกั้นด้วยห้วงเวลาวนเวียนอยู่นานไม่หายไป
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าอะไรคือเซียนคิมหันต์”
สวี่ชิงเงียบนิ่ง ไม่ได้ตอบทันที เขานึกย้อนเรื่องที่เกี่ยวกับเซียนคิมหันต์ทุกอย่างที่ตัวเองรู้อย่างละเอียด
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาเอ่ยเสียงต่ำทุ้มขึ้นว่า
“เซียนคิมหันต์คือระดับขั้นอย่างหนึ่ง”
สตรีในชุดเรียบง่ายบริสุทธิ์ส่ายหน้าเล็กน้อย
“ถูกแต่ก็ไม่ถูก เจ้าลองดูด้วยตัวเองก็จะรู้”
ทันทีที่เสียงดังลอยล่องมา หญิงสาวยกมือขวาขึ้นชี้ไปยังภาพที่หนึ่งในบรรดาม้วนภาพวาดทั้งเก้าซึ่งบูชาอยู่ข้างหลังเทียนแท่นบูชาเบาๆ
ทันใดนั้นความรางเลือนบนม้วนภาพวาดภาพนั้นเริ่มหายไป เงาร่างในม้วนภาพวาดค่อยๆ ชัดขึ้น
นั่นเป็นชายชราคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ผมขาวเคราขาวท่วงท่าบุคลิกหยาบกระด้าง มือถือไม้เท้าสีทองด้ามหนึ่ง วัสดุ…คือกระดูก
นั่นไม่ใช่กระดูกธรรมดาทั่วไปแต่เป็นกระดูกเทพเจ้า
ต่อให้เป็นเพียงภาพวาดแต่กลิ่นอายก็น่าครั่นคร้าม ทำให้สวี่ชิงรู้สึกว่ากระดูกนี้เหนือกว่าชื่อหมู่!
และทั้งๆ ที่เป็นภาพนิ่ง แต่มองแล้วชายชราคนนี้ทั้งคนเหมือนกำลังก้าวเท้าไปข้างหน้า ราวว่าเหยียบอยู่บนก้อนเมฆ ทั่วทั้งร่างทรงอำนาจน่าเกรงขาม
เสื้อผ้าอาภรณ์บนร่างดูค่อนข้างเก่า แต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อรัศมีอำนาจของเขาแม้แต่น้อย กลับยิ่งเพิ่มความรู้สึกของห้วงเวลาที่ผันเปลี่ยนเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง แววตายิ่งล้ำลึกดั่งท้องฟ้าดารา คล้ายมองทุกสิ่งในโลกทะลุปรุโปร่ง
มองภาพนี้ สวี่ชิงคิดอยากจดจำมันเอาไว้ แต่เขาพบว่าเรื่องง่ายๆ เรื่องนี้ตัวเองกลับทำไม่ได้
เหมือนว่า…คนในม้วนภาพวาดนี้ไม่อาจจดจำไว้ได้
“เทพเจ้าไม่อาจจ้องมองตรงๆ เซียนไม่อาจจดจำได้”
เสียงสตรีในชุดเรียบง่ายยังคงเย็นยะเยือกลอยล่องในโถงศาลเจ้า
“ที่เจ้าเห็นอยู่ข้างหน้านี้คือหนึ่งในเซียนคิมหันต์ทั้งเก้าของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ชาติกำเนิดไม่ใช่เผ่ามนุษย์ รูปร่างหน้าตาโดยละเอียดไม่มีคนรู้ ภาพที่ทิ้งเอาไว้ภาพนี้แปลงมาจากคราบร่างก่อนเป็นเซียนของท่าน”
หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่วเบา ความรู้สึกของเวลาในเสี้ยวขณะนี้ชัดเจนเป็นพิเศษ
มือขาวเนียนของนางสะบัดอีกครั้ง ม้วนภาพวาดม้วนที่สองก็ชัดเจนขึ้น
เงาร่างในม้วนภาพเป็นชายชราเช่นกัน แต่ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ทรงพลังอำนาจน่าเกรงขามแบบนั้น มีความสง่างามอย่างบัณฑิตมากกว่า
ชุดบัณฑิตทั้งร่าง เครายาวสะบัดพริ้วตามลม ดวงหน้ามีเลือดฝาด แววตาล้ำลึก แฝงไว้ด้วยวิถีสวรรค์
ผมของเขาจัดแต่งเป็นระเบียบ ใช้ปิ่นไม้เล่มหนึ่งปักไว้ที่เหนือศีรษะ ตัวเสื้อปักลายเมฆวิจิตรประณีต ทุกฝีเข็มทุกเส้นด้ายล้วนแผ่กลิ่นอายสูงส่งไร้มลทิน
นั่นเป็นกลิ่นอายของเทพเจ้า
ทุกฝีเข็มทุกเส้นด้ายล้วนผนึกเทพเจ้าองค์หนึ่งเอาไว้!
“เจ้าบอกว่าเซียนคิมหันต์เป็นระดับขั้นอย่างหนึ่ง นั่นถูกต้อง แต่ยิ่งกว่านั้นคือมันเป็นนิยามที่ชนรุ่นหลังนิยามบรรพชน ผู้บำเพ็ญแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์รุ่นหลังคิดว่าหลังจากระดับเตรียมสู่เทวะแล้วก็จะเป็นระดับเจ้าเหนือหัว หลังจากเจ้าเหนือหัวก็จะเป็นมหาจักรพรรดิเตรียมเซียน และทะลวงระดับเตรียมเซียนได้ ก็จะเป็นเซียนคิมหันต์”
ขณะเจ้าวังเซียนคิมหันต์เอ่ยก็สะบัดมืออีกครั้ง ม้วนภาพที่สามและสี่ ก็ปรากฏในสายตาสวี่ชิง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา