เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 809

บทที่ 809 เช่นนั้น เจ้าก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยหรือ

เมื่อสมองสวี่ชิงเสียงดังครืนครัน สัมผัสรับรู้ทั้งหมดก็สลายหายไปในพริบตากลายเป็นความว่างเปล่า จิตเทพของเขาก็สลายไปในมิติต้นกำเนิดพลังเซียน

ส่วนเมล็ดดอกผูกงอิงเมล็ดนั้นก็สั่นไหวเช่นกัน ปลิวถอยไปเล็กน้อย จากนั้นจึงกลับเข้าเส้นทางที่ลอยมาดังเดิม กลับไปยังต้นกำเนิด เพียงแต่…ร่างเงาด้านในนั้น ยามนี้จากที่มีสองร่างเปลี่ยนเป็นสามร่างแล้ว!

ทว่าร่างเงาที่สามนั้นพร่าเลือนอย่างมาก คล้ายจะหายไปได้ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกยากก่อเป็นรูปเป็นร่างได้

ส่วนร่างจริงของสวี่ชิงตอนนี้ยืนอยู่ใต้ทะเลเพลิงนอกหน้าต่างมิติต้นกำเนิดพลังเซียนในศาลเจ้าเก่าแก่ ดวงตาทั้งสองปิดสนิท นิ่งเงียบไม่ไหวติง

เจ้าวังเซียนคิมหันต์ที่อยู่ไม่ไกลถอนหายใจเบาๆ เจือความเสียดายออกมาเล็กน้อย

ผีเสื้อน้อยทางนั้น ย่อมฟังความเสียดายที่แฝงมาออก จึงเปล่งเสียงใสกระจ่างออกมาทันที

“สวี่ชิงผู้นี้โลภเกินไป การที่พลังต้นกำเนิดเทพยังไม่ได้ชำระล้างเจตจำนงด้านในเมล็ดที่กลับไปจะทำให้สัมผัสรับรู้ได้ยากยิ่ง หากพลังต้นกำเนิดเทพชำระล้างจนว่างเปล่าแล้วก็จะง่ายขึ้นเยอะ”

น้ำเสียงของผีเสื้อน้อยเจือความได้ใจและมีความสุข แอบคิดว่าตอนอยู่ข้างนอกใครใช้ให้เจ้าเล่นงานข้าจนตายไปหลายรอบเช่นนั้นเล่า ข้าจึงไม่บอกความลับนี้กับเจ้าก่อน

จากนั้นเสียงของมันก็ดังก้องขึ้นอีกครั้งอย่างอารมณ์ดี

“ท่านอาจารย์ช่วยประวิงเวลาให้เขาตั้งสิบอึดใจ แต่เขากลับไม่รู้จักบริหารให้ดี ซึ่งนี่ก็คือวาสนาของเขา อย่าถอนหายใจไปเลยเจ้าค่ะ

“ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ สติปัญญาของข้าดีกว่า ไว้ข้าพยายามใหม่รอบหน้า ข้าจะเก่งกว่าเขาเสียอีก

“สวี่ชิงคนนี้ เป็นไปได้มากว่าเงาที่อยู่ในเมล็ดจะสลายไปเอง หมายความว่าเขาสัมผัสรับรู้ไม่สำเร็จ และนับว่าสติปัญญาของเขาด้อยกว่าข้าเล็กน้อย ทั้งยังไม่ทันการแล้วด้วย

“หากเมล็ดนั้นกลับไปยังต้นกำเนิด แล้วไม่ได้ทิ้งร่างเงาที่แท้จริงไว้ ก็จะถูกชำระล้าง

“ดังนั้นท่านอาจารย์ไม่ต้องเสียใจไปนะเจ้าคะ”

ผีเสื้อน้อยกล่าวออกมาอารมณ์ดี แต่เมื่อเจ้าวังเซียนคิมหันต์ข้างๆ ได้ยินก็ส่ายหน้า

กล่าวจบ สายตาของเจ้าวังเซียนคิมหันต์ก็หยุดอยู่ที่เมล็ดดอกผูกงอิงซึ่งสวี่ชิงสัมผัสรับรู้อยู่ในจุดพลังต้นกำเนิดเทพ

ผีเสื้อน้อยอึ้งตะลึง ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่อาจารย์สื่อ จึงเบนสายตามองตามอาจารย์ไปยังเมล็ดพลังต้นกำเนิดเทพตามสัญชาตญาณ กำลังจะเอ่ยปากถาม แต่พริบตาต่อมาดวงตาที่แปรเป็นลายบนปีกของมันก็พลันหดเล็กลง

ในมิติพลังต้นกำเนิดเทพ เมล็ดดอกผูกงอิงที่สวี่ชิงสัมผัสรับรู้ ตอนนี้กำลังลอยกลับไปยังต้นกำเนิดซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก คาดว่าประมาณไม่กี่สิบอึดใจก็จะได้ผสานเข้าไปในต้นกำเนิด

แต่ระหว่างที่ลอยกลับไป ร่างเงาสามร่างรางเลือนด้านใน กลับชัดเจนขึ้นด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ!

ร่างเงาเสถียรขึ้นเรื่อยๆ โครงร่างก็มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ

จนสุดท้าย กระทั่งเห็นได้ว่าร่างเงาที่สามเป็นรูปร่างหน้าตาของสวี่ชิงแล้ว

ความเร็วนี้ยิ่งกว่าที่ผีเสื้อน้อยจินตนาการ แต่ก่อนมันล้วนสัมผัสรับรู้เมล็ดที่ถูกชำระล้างแล้ว ซ้ำยังเป็นเมล็ดที่ลอยออกด้านนอก มันจึงมีเวลาได้สัมผัสรับรู้ที่นี่เต็มเปี่ยม

ปกติแล้ว หากมีเวลาสักวันสองวัน อย่างไรมันก็พอจะจับทางได้บ้าง

เพราะมันเอามาเปรียบเทียบกับตัวเอง และไม่คิดว่าสวี่ชิงจะทำสำเร็จ เมื่อครู่จึงกล่าวเช่นนั้นออกมา แต่ทุกสิ่งที่เห็นตอนนี้หักล้างความรู้ความเข้าใจของมัน ทำให้มันรู้สึกเหมือนกับฟ้าผ่าลงกลางใจ สับสนอยู่ตรงนั้น

“นี่…”

ขณะเดียวกัน พายุที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินก็กำลังปะทุอยู่ในทะเลความรู้สึกสวี่ชิง

เขาเห็นท้องฟ้าประดับดาราซึ่งมีริ้วคลื่นดั่งผิวน้ำ

เทียบกับทั้งจักรวาล ท้องฟ้าประดับดาราผืนนี้ราวกับเป็นบ่อน้ำ

“มีสรรพสิ่งซึ่งแฝงพลังวิเศษทั้งหมด ของวิเศษเวททั้งหมด สภาวะทั้งหมดเอาไว้ ล้วนคงอยู่ในบ่อน้ำนี้…”

เสียงซึ่งผ่านการเวลามาเนิ่นนานขาดๆ หายๆ

สมาธิของสวี่ชิงจดจ่ออยู่กับมัน จิตสำนักผสานเข้าไปในเสียงนี้ จมลงไปในบ่อน้ำ

แม้การสัมผัสรับรู้พลังต้นกำเนิดเทพของเขาหายไปแล้ว ถึงจิตเทพทางนั้นจะสลายไปจนสิ้น แต่พริบตาที่สัมผัสก่อนหน้านี้ มรดกที่ผสานเข้าไปในจิตสำนึกสวี่ชิงยังคงอยู่

แม้จะไม่มาก ขอแค่วูบเดียวเท่านั้น ด้วยสติปัญญาของสวี่ชิงที่กระทั่งนายท่านเจ็ดตลอดจนรัฐทายาทก็ตกตะลึงอยู่หลายครั้ง เพียงวูบเดียวนี้มีมากเพียงพอในทะเลความรู้สึกของเขาแล้ว

ดังนั้นระหว่างที่จดจ่ออยู่นี้ ท้องฟ้าประดับดาราในครรลองสายตาสวี่ชิงจึงค่อยๆ สงบลงจากการสลายไปของริ้วคลื่น ขณะที่ไร้ริ้วคลื่นก็สะท้อนสิ่งที่มีอยู่เหนือผิวน้ำทั้งหมดออกมา

ทันใดนั้น สวี่ชิงมองเห็นตัวเองในบ่อน้ำที่แปรมาจากท้องฟ้าประดับดารา

บนผิวน้ำ เขาเห็นสภาวะเทพเจ้าทั้งหมด เห็นวิถีสวรรค์ เห็นของวิเศษทั้งหมด เห็นของวิเศษเวททั้งหมด และเห็นเรื่องราวของตัวเองที่เกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ในระดับแก่นลมปราณทั้งหมด

นิ้วเทพเจ้า เขาจักรพรรดิภูติ ติงหนึ่งสามสอง แสงประกายอรุณ…

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีวิชา วิชาเวทตลอดจนพลังวิเศษทั้งหมดตั้งแต่ที่เขาเริ่มฝึกบำเพ็ญ

วิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณ ใต้ปรโลก เป็นต้น…กระทั่งเงาร่างของเขาเองยังปรากฏอยู่ด้านในชัดเจนอย่างยิ่ง

มองผาดแรก แทบจะแยกไม่ออกว่าเหนือผิวน้ำหรือที่ผิวน้ำเป็นของจริง

“นั่นก็คือข้า…”

สวี่ชิงพึมพำ นี่เป็นความรู้สึกที่น่าพิศวงอย่างยิ่ง แต่กลับดูเป็นของจริงเหลือเกิน

และท่ามกลางความคลุมเครือนี้ สวี่ชิงก็สัมผัสได้ว่าตนไม่อาจเคลื่อนไหวได้ ราวกับถูกแช่แข็ง ประหนึ่งวิญญาณถูกผิวน้ำดูดไป

แต่…เงาสะท้อนในน้ำ ไม่มีผลึกวารีสีม่วง!

การค้นพบนี้ ทำให้ใจสวี่ชิงสั่นสะท้าน จากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่ผันผ่านห้วงเวลามาเนิ่นนานและอหังการอีกครั้ง

“พลังวิเศษของข้า ก็คือ…ช้อนจันทราในบ่อน้ำ!”

พริบตาที่เสียงดังขึ้น ในมิติก็เหมือนมีมือเลือนรางขนาดใหญ่ข้างหนึ่งปรากฏขึ้น ตักตวงลงไปที่ผิวน้ำเบาๆ ผิวน้ำเกิดระลอกคลื่นอีกครั้ง แล้วอยู่ดีๆ ร่างสวี่ชิงในเงาสะท้อนก็ถูกช้อนขึ้นมา

“ข้าเห็นสีสันของจันทราในบ่อน้ำงดงามจับตา จึงอยากจะได้มาครอบครอง และตอนนี้ ข้าก็ได้ครอบครองแล้ว”

สิ่งที่ปราฏอยู่ในมือขนาดใหญ่มายาก็คือร่างของสวี่ชิงนั่นเอง และระหว่างที่เสียงกล่าวคำซึ่งผันผ่านห้วงเวลามาเนิ่นนานดังขึ้น มือขนาดใหญ่ก็กำร่างของสวี่ชิงในฝ่ามืออย่างแรง

บทที่ 809 เช่นนั้น เจ้าก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยหรือ 1

บทที่ 809 เช่นนั้น เจ้าก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยหรือ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา