เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 88

บทที่ 88 กฎเกณฑ์ของสวี่ชิง

ในดวงตาสวี่ชิงเปล่งประกายเฉียบคม

กลุ่มภูตสมุทรนี้ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จัก

ในเจ็ดเนตรโลหิตก่อนหน้านี้เขาขาดหินวิญญาณจึงเคยสังหารพวกประกาศจับมาแล้วหลายคน ในนั้นมีซุนเต๋อวั่งจากกลุ่มภูตสมุทรอยู่ด้วย

อีกฝ่ายแพ้พนันจนหมดตัวในบ่อนที่เจ้าจงเหิงเปิด จนทำให้หลังจากที่สวี่ชิงสังหารเขา นอกจากค่าหัวแล้วก็ไม่ได้ของมีค่าอื่นเลย

และทำให้สวี่ชิงรู้ว่าในทะเลต้องห้ามนี้มีกลุ่มโจรสลัดอยู่มากมายในตอนนั้นเอง สมาชิกของพวกเขาล้วนเป็นพวกคนที่ถูกขับไล่ออกจากสำนัก เกาะหรือกระทั่งตระกูลต่างๆ

ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกอับจนหนทางมาเข้าร่วมกับกลุ่มโจรสลัด โลดแล่นอยู่บนทะเลต้องห้าม

ในนี้กลุ่มโจรสลัดกลุ่มใหญ่มีอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือภูตสมุทร

และเงาสิบกว่าร่างที่เดินขึ้นมาจากด้านล่างภูเขาเวลานี้ คลื่นพลังบำเพ็ญของแต่ละคนในกลุ่มล้วนอยู่ในระดับเดียวกับซุนเต๋อวั่งทั้งสิ้น กระทั่งมีอยู่สี่คนที่สูงกว่าอย่างชัดเจน

ความรู้สึกที่สวี่ชิงสัมผัสได้ คือรวมปราณขั้นบริบูรณ์

โดยเฉพาะพวกเขาที่ใช้ชีวิตอยู่บนปลายดาบ ดังนั้นปราณพิฆาตจึงเข้มข้นมาก ทั้งยังแข็งแกร่งมากกว่าทุกคนที่สวี่ชิงเคยพบที่ฐานที่มั่นคนเก็บกวาดเสียอีก

ดวงตาสวี่ชิงค่อยๆ หรี่ลง จ้องเขม็งไปที่ร่างทั้งสิบหกคนของกลุ่มภูตสมุทร มองพวกเขาที่เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว จนหลังจากที่มาถึงพื้นที่แอ่งกระทะ จิตสยบด้วยพลานุภาพวูบหนึ่งก็แผ่ออกมาจากรอบตัวตัวผู้บำเพ็ญทั้งหมด

เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงกับความแข็งแกร่งของกลุ่มภูตสมุทรทำให้คนทั้งหมดเวลานี้ปรากฏจิตขับไล่ขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ

แต่สำหรับผู้บำเพ็ญกลุ่มภูตสมุทรเหล่านี้ พวกเขาเหมือนจะไม่สนใจผู้บำเพ็ญในนี้เลย สีหน้าแต่ละคนเย็นชา และมีรอยยิ้มเย็นชาชั่วร้ายอย่างคร้านจะใส่ใจเผยออกมาอีกด้วย

ต่อให้เป็นสวี่ชิงกับชายชราถนนทองผุดทางนั้น พวกเขาก็มีท่าทีเย็นชาใส่ กวาดตามองผ่านๆ เช่นกัน

ราวกับว่าคนทั้งหมดในนี้ ล้วนไม่คู่ควรให้พวกเขาใส่ใจ

แต่พวกเขาก็ไม่ได้ลงมือทันที และหาพื้นที่จุดหนึ่งแล้วทยอยนั่งลงขัดสมาธิ หนึ่งในพวกเขาเงยหน้าเย็นชามองไปรอบๆ เอ่ยขึ้นแช่มช้าว่า

“พวกเจ้าไสหัวไปได้แล้ว ถ้ายังไม่ไป เช่นนั้นนับตั้งแต่นี้ หนังกิ้งก่าทะเลพวกเจ้าก็มองได้เพียงอย่างเดียว อย่ามาแย่ง มิเช่นนั้น…ตาย”

น้ำเสียงแผ่จิตสังหารเข้มข้นออกไปรอบด้าน คนทั้งหมดล้วนนิ่งงัน

ภาพนี้ทำให้สวี่ชิงครุ่นคิด ก่อนหน้านี้ก็มีการคาดเดาคนอื่นไว้บ้างแล้ว ตอนนี้พอรวมกับภูตสมุทรที่มาถึง เขาก็ตระหนักได้ว่า เกาะกิ้งก่าทะเลนับจากนี้ไป บางทีอาจเกิดเรื่องพิเศษบางอย่างขึ้นมา

‘ออกไปก่อนดีหรือไม่นะ’

สวี่ชิงครุ่นคิด เมื่อสัมผัสคลื่นพลังวิญญาณในร่างกายแล้ว ในดวงตาเขาก็เผยการตัดสินใจเด็ดขาด ยืนขึ้นและหมุนตัวเดินออกไปอย่างไม่ลังเล

เพียงพริบตาก็ออกห่างไปไกลอย่างรวดเร็ว

การจากไปของเขา ทำให้คนรอบๆ ต่างเหลือบตามอง ชายชราถนนทองผุดก็ประหลาดใจยิ่งกว่า

“เจ้าเด็กนั่นไปจริงๆ หรือ”

ผู้บำเพ็ญกลุ่มภูตสมุทรก็มีหลายคนที่มองแผ่นหลังของสวี่ชิง

สวี่ชิงใช้ความเร็วสูงสุดลงจากเขา ย่ำเข้าป่าอย่างไม่หยุดพักเช่นนี้ จนครึ่งชั่วยามต่อมา ร่างของเขาก็ปรากฏอยู่ที่ชายหาดแล้ว

สวี่ชิงสีหน้าสงบนิ่ง พอโบกมือเรือเวทก็ปรากฏขึ้นในท้องทะเล จากนั้นจึงกระโจนร่างเหยียบลงไปบนเรือ

พริบตาที่ร่อนลงเรือเวท สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก นั่งลงขัดสมาธิ สองมือประกบปาง เกราะคุ้มกันเรือเวทก็ปรากฏออกมา ขณะที่คลื่นตีเกลียว อสูรคอยาวบรรพกาลที่เกิดจากวิชาเวทของเขาก็แหวกว่ายอยู่ใต้ทะเล คอยระวังภัยรอบทิศ

เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนความ สวี่ชิงเงยหน้าขึ้นมองเกาะกิ้งก่าทะเล สายตาเผยประกายคมปลาบออกมาแล้วหายไป

ความระแวดระวังกับความเฉียบแหลมของเขาไม่ได้ลดลงจากความราบรื่นในการเก็บเกี่ยวบนเกาะ และไม่เคยแผ่วลงจากการยกระดับและความแข็งแกร่งของพลังบำเพ็ญ นิสัยของเขาเป็นเช่นนี้มาตลอด

ดังนั้นตอนที่พลังฝึกบำเพ็ญกำลังจะทะลวงขั้น เขาจึงไม่บุ่มบ่ามยกระดับบนเกาะ

ถึงแม้ทำเช่นนั้นก็น่าจะปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้นผงพิษของเขาก็มีอยู่มากจนทำให้คนที่เข้ามาใกล้เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดจนตายได้ ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายตนเองก็ยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย

แต่นั่นไม่มีความจำเป็น

ตัวอย่างเช่นหลงระเริงในตนเองกับความเลินเล่อชั่วขณะจนเปิดโอกาสให้คนอื่นแย่งชิงผลประโยชน์ ตอนเขาอยู่ในถ้ำยาจกเคยเห็นเรื่องเช่นนี้มาบ้างแล้ว

นี่ก็เหมือนกับหลักการที่เขาต้องทำลายพลังคุกคามความปลอดภัยในชีวิตรอบๆ ทั้งหมดให้สิ้น สวี่ชิงจะไม่สร้างโอกาสให้คนอื่นจัดการตนเองได้เด็ดขาด

นี่คือหลักการดำรงชีวิตบนโลกาวินาศ

มีบางคนค่อยๆ หลงลืมจุดนี้ไปเพราะตนเองแข็งแกร่งขึ้น แต่ประสบการณ์ตั้งแต่เด็กของสวี่ชิงได้สลักมันไว้ลงในกระดูกแล้ว ดังนั้นเขาไม่มีทางลืม

เมื่อปัจจุบันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย สวี่ชิงหลับตาลง พลังบำเพ็ญในร่างระเบิดออกครืนครัน เริ่มทำการทะลวงขั้น

ขณะเดียวกัน ข้างพื้นที่แอ่งกระทะบนยอดเขาเกาะกิ้งก่าทะเล เพราะสวี่ชิงจากไป พิษที่นี่ก็เจือจางไปพอควร จนทำให้ผู้บำเพ็ญมากมายเบาใจลงบ้าง

แต่คำพูดตอนที่กลุ่มภูตสมุทรมาถึง กลายเป็นแรงคุกคามขนาดใหญ่ ทำให้ในใจผู้บำเพ็ญไร้สังกัดทั้งหมดในนี้เกิดแรงกดดัน แต่จะออกไปก็ดูไม่ค่อยดีนัก ทุกคนจึงลังเลที่จะตัดสินใจ

และมีบางส่วน หลังจากลังเลก็เลือกจากไป

เพียงไม่นาน ยามเย็นก็มาถึง

พริบตาที่แสงสายัณห์สาดทอ เส้นขอบฟ้าทะเลที่ห่างออกไป ค่อยๆ ปรากฏปราณหมอกขึ้น

ปราณหมอกนี้เบาบาง แผ่กระจายไปทั่วทุกทิศ เหมือนมีเทพเจ้าที่มองไม่เห็นองค์หนึ่งกำลังปลดปล่อยกลิ่นอายของตนเองออกมา ล้อมรอบทะเลต้องห้ามเอาไว้ ตีเกลียวกระจายไปทั่วทิศ

สำหรับทะเลต้องห้าม ปราณหมอกเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ดังนั้นต่อให้มีคนสังเกตเห็นก็ไม่ค่อยใส่ใจมากนัก จนกระทั่งคลื่นพลังที่น่าตกตะลึงวูบหนึ่ง แผ่ออกมาฉับพลันจากผืนทะเลฝั่งชายหาด ตอนนี้จึงมีผู้บำเพ็ญไม่น้อยรีบเงยหน้าขึ้นแล้วมองไป

จังหวะที่สายตาพวกเขามองไปนั้น พลังวิญญาณที่ชายฝั่งก็แผ่คลื่นที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าออกมา ระเบิดครืนครัน

บทที่ 88 กฎเกณฑ์ของสวี่ชิง 1

บทที่ 88 กฎเกณฑ์ของสวี่ชิง 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา