บทที่ 993 ช่วงเวลาแห่งการล่าเหยื่อ
ทะเลต้องห้าม ใต้มหาสมุทร
ในคลื่นใต้น้ำมืดมิด ฝูเสียสีหน้าเคร่งเครียด ความร้อนรนและความไม่สงบในใจในเสี้ยวขณะนี้ผุดพวยพุ่งขึ้นมาอย่างมหาศาล เขาสำแดงความเร็วจนถึงขีดสูงสุด ทะยานไปที่ไกลอย่างสุดกำลัง
เขาไม่กล้าหยุดแม้เพียงเสี้ยวขณะ ไม่กล้าเสียเวลาแม้เพียงน้อยนิด
เสี้ยวพริบตาเมื่อครู่ เขาสัมผัสได้รางๆ ว่ามีพลังอันน่าอัศจรรย์อีกทั้งเก่าแก่โบราณบางอย่างพุ่งลงมา จับทิศทางของตนไว้
เขาลองที่จะลบสัมผัสรับรู้นี้ทิ้งไป แต่กลับล้มเหลว
นี่ทำให้ในขณะเดียวกับที่ใจของเขาหล่นวูบ ความรู้สึกคราวเคราะห์ลงมาเยือนก็รุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นตอนนี้จึงรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง แปรเปลี่ยนเป็นรอยเงาทางหนึ่ง หายไปที่ไกลในเสี้ยวพริบตา
ยิ่งในขณะที่ประสานปางมือก็หลอมรวมวิชาเซียนขึ้นมา
วิชาเซียนวิชานี้คล้ายกับเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา แต่วิธีการที่สำแดงออกมาแปลกประหลาดอัศจรรย์กว่า
อีกทั้งยังต้องจ่ายค่าตอบแทนบางอย่างด้วย
หากเปลี่ยนเป็นตอนที่เขายังเป็นระดับเจ้าเหนือหัว เพียงแค่หายใจก็ทำได้สำเร็จ อีกทั้งแม้ว่าค่าตอบแทนจะไม่น้อยเลย แต่ก็ใช่ว่าจะรับไม่ได้
แต่ตอนนี้ เขาจำเป็นต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งไปเตรียมตัว สำหรับค่าตอบแทนก็เปลี่ยนไปมากยิ่งกว่าเดิม
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ตอนนี้เมล็ดพันธุ์วิชาเซียนหลอมรวมอยู่ในทะเลความรู้สึกของเขาอย่างรวดเร็ว ความคิดของเขาแผ่ระลอกขึ้นมา
“บรรพจารย์แตกดับ…แดนศักดิ์สิทธิ์จะต้องอยู่ในคราวเคราะห์เช่นกันแน่นอน…”
ฝูเสียขมขื่น ในสมองมีภาพในแดนศักดิ์สิทธิ์หลายปีที่ผ่านมานี้ผุดขึ้นมามากมาย ในใจเกิดความรู้สึกเสียใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เขาเสียใจขึ้นมานิดๆ แล้วจริงๆ แต่เขาก็รู้ดีว่าเรื่องนี้มาถึงขั้นนี้ เสียใจไปก็ไร้ความหมายแล้ว
และเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกต่อเผ่าพันธุ์อย่างเข้มข้นอย่างบรรพจารย์เช่นนั้น สิ่งที่เขาอยากได้คือความแข็งแกร่งของตัวเองมาโดยตลอด
ดังนั้นเขารู้ดี ต่อให้ทุกอย่างย้อนกลับไปอีกครั้ง ตัวเองก็คงจะเลือกทำแบบนี้เหมือนเดิม
เผชิญหน้ากับความเย้ายวนของเซียนคิมหันต์ ต่อให้อันตรายแสนสาหัส ตัวเองก็ไม่มีทางต้านทานได้
ต่อให้วาสนานี้มีโอกาสความเป็นไปได้เพียงเศษเสี้ยวก็ตาม
แต่นั่นคือวาสนาเซียนคิมหันต์เชียวนะ!
นับจากอดีตกาลมา ระดับขั้นที่ทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ก็มีเพียงไม่กี่คนที่เหยียบไปถึง หากเขาสำเร็จ…เช่นนั้นอาศัยพลังน่ากลัวราวเทพแท้จริง ต่อให้เป็นในห้วงดาราแห่งนี้ เขาก็จะมีที่ยืนของตัวเองเช่นกัน
กระทั่งว่าเป็นเหมือนกับบุคคลยิ่งใหญ่ท่านนั้น เดินอยู่บนเส้นทางไล่ไขว่คว้าระดับขั้นที่สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีใครไปถึง
“เซียนคิมหันต์…”
“น่าเสียดาย…น่าเสียดาย…”
ฝูเสียในใจเกิดความรู้สึกเจ็บใจอย่างท่วมท้น ความเจ็บใจแปรเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่ง ในยามที่มันเต้นระริกในดวงตา ความกดดันน่าหวาดกลัวก็พลันลงมาเยือนจากข้างบน
มาพร้อมด้วยเสียงดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว ตัดความคิดในใจของฝูเสีย เขาพลันเงยหน้าขึ้นขณะที่หน้าเปลี่ยนสี
สิ่งที่เห็นคือทะเลเพลิงน่าครั่นคร้ามผืนหนึ่ง
น้ำทะเลกำลังลุกไหม้ เปลวเพลิงสีแดงปกคลุมไปทั่วสารทิศ เผาไหม้ไอพลังประหลาดในพื้นที่บริเวณนี้จนหมดสิ้น ทำให้น้ำทะเลคืนกลับมาเป็นสีเดิม
อุณภูมิสูงแผ่ลามไปใต้ทะเลอย่างรวดเร็ว
และใจกลางของทะเลเพลิงนี้ ตอนนี้มีคลื่นวนมหึมาลูกหนึ่งปรากฏขึ้นมา ขณะที่หมุนไปอย่างต่อเนื่อง ก็มีเงาร่างสองร่างเดินออกมาจากในนั้น
หนึ่งในนั้นหลังจากที่ปรากฏในดวงตาฝูเสีย ความเจ็บใจในใจของเขาก็ยิ่งโหมรุนแรง
แต่ไม่ทันที่อารมณ์ของเขาจะแผ่ระลอกคลื่นโดยสมบูรณ์ เสี้ยวพริบตาต่อมา ข้างหลังเงาร่างทั้งสอง เงามายาของวิหคเพลิงสวรรค์ จากการเดินออกมาของเงาร่างที่สามก็แผ่ปกคลุมมายังใต้ทะเล
ท่ามกลางเสียงร้องหวีดแหลม หวงเหยียนที่เดินออกมาจากในคลื่นวน ในดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร เหยียบย่างไปทางฝูเสียทางนั้นในก้าวเดียว
ก้าวนี้เมื่อก้าวลงมา ใต้ทะเลเดือดพล่าน การลุกไหม้ของน้ำทะเลรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ฝูเสียร่างสะท้านเฮือก กระอักเลือดออกมาคำโตทันที
หลังจากที่อาศัยการเปลี่ยนความทรงจำของวิชาเซียน ฟื้นคืนชีพใหม่ เขาก็สูญเสียพลังระดับเจ้าเหนือหัวไปแล้ว ตกลงมาอยู่ระดับเตรียมสู่เทวะ ตอนนี้เผชิญหน้ากับความโกรธเคืองของวิหคเพลิงสวรรค์ สภาวะของเขาไม่อาจต้านทานได้เลย
เพียงแค่เสี้ยวพริบตาวิหคเพลิงสวรรค์ก็ทำเขาบาดเจ็บสาหัส
จากการกระอักออกมาของเลือดสดๆ พลังบำเพ็ญของเขาไม่เสถียรอีกครั้ง ความเร็วในการหนีถูกบีบลดลง แม้แต่เมล็ดพันธุ์เซียนที่กำลังหล่อหลอมขึ้นในทะเลความรู้สึกก็สั่นไหวขึ้นมา
ส่วนหวงเหยียนก็มาอยู่ข้างหน้าฝูเสียแล้ว
เพียงแค่ยกมือสะบัด
พลังน่ากลัวจากวิหคเพลิงสวรรค์พลันปะทุมา
หลอมรวมเป็นเปลวเพลิงใต้ทะเลแห่งนี้ ก่อเป็นพายุเปลวเพลิง กวาดโหมไปหาฝูเสีย
ภายใต้ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของพลัง การต้านทานใดๆ ก็ล้วนไร้ประโยชน์
เพียงพริบตา ร่างของฝูเสียสะท้านบ้าคลั่ง เลือดสดๆ กระอักออกมาสิบกว่าครั้ง พลังบำเพ็ญพังครืนจากสภาวะที่ไม่เสถียร ลดฮวบอีกครั้ง
จากระดับเตรียมสู่เทวะบริบูรณ์ร่วงลงมาถึงเตรียมสู่เทวะห้าโลก
ช่วงเวลาเป็นตาย ฝูเสียไม่สนใจว่าเมล็ดพันธุ์วิชาเซียนในทะเลความรู้สึกยังไม่ทันหล่อหลอมได้สำเร็จโดยสมบูรณ์จากสีหน้าที่บิดเบี้ยว ภายใต้จิตใจที่เดือดพล่าน ท่ามกลางกลิ่นอายความตายที่ปกคลุม เขาไม่เสียดายค่าตอบแทนใดๆ ฝืนกระตุ้นมันขึ้นมา
เสี้ยวพริบตาต่อมา ร่างของเขาระเบิดดังบึ้มขึ้นมา แล้วแตกสลายทันที แปรเปลี่ยนเป็นไหมวิญญาณระยิบระยับ หายลับไป
หวงเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น เงยหน้ามองไปทางที่ไกลอย่างเย็นชา
ตอนนี้สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวก็เดินออกมาจากในคลื่นวนเปลวเพลิงแล้วเช่นกัน
“สวี่ชิง ข้ารู้ว่าเจ้าอยากไล่ล่าสังหารด้วยตัวเอง ดังนั้นด้วยพลังบำเพ็ญตอนนี้ของคนผู้นี้ก็สูญเสียภัยคุกคามต่อเจ้าไปแล้ว สำหรับเคล็ดวิชาลับของเขา ข้าก็ทำการก่อกวนไปแล้ว หนีไปได้ไม่ไกลนัก”
หวงเหยียนมองไปทางสวี่ชิง การลงมือก่อนหน้าเห็นได้ชัดว่าเป็นผลจากการจงใจควบคุมของเขา
สวี่ชิงพยักๆ หน้า มิตรภาพระหว่างเขากับหวงเหยียนไม่แพ้นายกองเลย ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก ตอนนี้ในดวงตาประกายแสงวาววามฉายวาบ
เพียงพริบตา ความรอบรู้แห่งเทพของเขาก็แผ่ออก เสียงนับไม่ถ้วนดังมาจากใต้ทะเล
มีน้ำไหล มีปลาสะบัดหาง มีเสียงคำรามต่ำของอสูรสมุทร และมีเสียงลอยขึ้นลงของเม็ดทรายใต้ทะเล…เสียงทุกอย่างต่างๆ นานา หลอมรวมเป็นเสียงหายใจของทะเลต้องห้าม

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา