ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 107

หลังโจวฟังดึงตัวเกะกะไป อวี้หนานเฉิงรู้สึกสบายขึ้นมาก มองเซิ่งอันหรานแวบหนึ่ง

"ไปเถอะ คุณไม่ใช่แม่จองเขา ที่นี่ให้โจวฟังดูแลก็พอ"

เซิ่งอันหรานได้สติ หดศีรษะที่ยืดยาวไปในห้องสูท ลูบจมูกและยิ้มอย่างอายๆ

"ชินแล้ว เทียนเอินกับเส้าซืออายุพอๆ กัน เขาเหมือนน้องชายของฉัน ดังนั้นอดไม่ได้ที่จะใส่ใจขึ้นหน่อย คนอื่นมองอาจจะ

แปลกนิดๆ"

เธอไม่พูดถึงเส้าซือยังดี พอพูดถึงเส้าซือ อวี้หนานเฉิงหน้ายิ่งขรึม

"คุณเห็นพี่น้องเป็นขยะเหรอ? อยู่ข้างนอกจะเก็บก็เก็บ?"

"ขยะ?"เซิ่งอันหรานเบิกตากว้าง "ขยะอะไร เทียนเอินเป็นฉันที่ไม่ระวังชนโดนเขา ต้องให้บอกกี่รอบ?"

"งั้นเส้าซือล่ะ?"

อวี้หนานเฉิงเหล่มองเธอ "เขาคงไม่ใช่ถูกคุณชนกลับมาหรอกมั้ง? ดูคุณใจกล้าตั้งแต่เด็ก อายุ15ปีก็กล้าไปดูความครื้นเครงเวทีมวยใต้ดิน"

เซิ่งอันหรานอึ้งไป "คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?"

ได้ยินโทนเสียงของอวี้หนานเฉิง เขารู้เบื้องหลังของเส้าซือหมดแล้ว รวมไปถึงเรื่องก่อนที่ตระกูลเซิ่งรับเขามาเลี้ยง เขาขึ้นชกอยู่ในเวทีมวยใต้ดินก็สืบออกมา

"น้อยคนจะรู้เรื่องนี้เหรอ?"

จู่ๆ สีหน้าอวี้หนานเฉิงจริงจังขึ้นเล็กน้อย "เขาอยากเป็นนักแสดง เรื่องก่อนหน้าพวกนี้เป็นเรื่องเสื่อมเสีย หากไม่จัดการให้สะอาด ใครก็ไม่รู้ว่าเรื่องนั่นวันไหนจะกลายเป็นมีดที่ทำเขาปางตาย"

คำพูดนี้ของเขา ทำให้เซิ่งอันหรานรู้สึกท้ายทอยเย็นแปลกๆ และเพิ่งนึกได้หลังจากตัวเองกลับมัลดีฟส์มาเอง มีช่วงหนึ่งไม่ได้ติดต่อเส้าซือเลย

หลังจากจัดเทียนเอินเข้าพักโรงแรมเรียบร้อยตามคำสั่งของอวี้หนานเฉิง เซิ่งอันหรานก็ถอนใจโล่งอก คืนนั้นกลับบ้านเก็บของใส่กระเป๋าให้เซิ่งเสี่ยวซิง พาเธอไปทำงานที่บริษัทด้วย ตอนเย็นหลังเลิกงานค่อยส่งเธอไปบ้านอวี้หนานเฉิง

"พี่จิ่งซี"

เพิ่งถึงโรงแรม เซิ่งเสี่ยวซิงปล่อยมือเซิ่งอันหรานวิ่งไปทางห้องโถงแห่งหนึ่ง

เซิ่งอันหรานเงยหน้ามองไป เห็นพ่อบ้านตระกูลอวี้จูงมือ เหมือนเพิ่งถึงเหมือนกัน

"คุณชายน้อยโวยว้ายอยากเจอคุณเซิ่งตั้งแต่เช้า ผมเดาวันนี้เป็นวันทำงาน คุณต้องมาทำงานแน่ๆ ก็เลยพาคุณชายน้อยมา"

พ่อบ้านทำหน้าจนใจ หลังเห็นในมือเซิ่งอันหรานดึงกระเป๋าเดินทางของเด็ก ตาเป็นประกาย"นี่คือกระเป๋าของคุณหนูซิงซิงน้อยใช่ไหม ผมเอาไปวางที่ท้ายรถก่อน ตอนเย็นค่อยกลับบ้านด้วยกัน"

ดูท่าแล้ว อวี้หนานเฉิงคงบอกเรื่องเซิ่งเสี่ยวซิงจะไปอยู่ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนกับคนใช้ในบ้านแล้ว

เซิ่งอันหรานก็ไม่อิดออด ปล่อยพ่อบ้านลากกระเป๋าไปท้ายรถ มือข้างหนึ่งจูงเด็กคนหนึ่งไปที่เลานจ์ ให้คนไปหยิบผลไม้ของหวานมาให้เด็กทั้งสอง กำชับอย่างละเอียดว่า

"หม่าม้ายังต้องทำงานคงอยู่เป็นเพื่อนพวกเธอตลอดไม่ได้ พวกเธอก็เล่นอยู่ที่นี่ อย่าเดินเพ่นพ่าน ทำได้ไหม? ซิงซิงน้อยดูแลจิ่งซีให้ดีได้ไหม?"

เซิ่งเสี่ยวซิงได้ยินโดดลงมาจากโซฟาทันที ยืนนิ่งทำความเคารพ ทำหน้าเป็นเด็กแก่แดด

"รับประกันภารกิจสำเร็จ"

เซิ่งอันหรานยิ้มอย่างดีใจ ออกจากเลานจ์

หากเวลาปกติไม่มีเรื่องใหญ่อะไรสามารถอยู่เป็นเพื่อนเด็กทั้งสองได้ แต่วันนี้โรงแรมรับรองทีมงานกองถ่ายกองหนึ่งเข้าพัก หลังจากเห็นบนรายชื่อก่อนหน้านี้มีเกาหย่าเหวินด้วย เธอก็รู้สึกเรื่องวันนี้เกรงว่าจะรับมือยากหน่อย หลีกเลี่ยงการเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ยังวางใจไม่ได้

เพิ่งกลับถึงห้องทำงาน ก้นยังไม่ทันร้อน หน้าฟร้อนโทรมาว่าทีมงานกองถ่ายถึงแล้ว

"ผู้จัดการเซิ่ง อันที่จริงพวกเราไม่ต้องกังวลขนาดนั้นมั้ง ไม่ใช่มีข่าวลือว่าเกาหย่าเหวินเป็นคู่หมั้นประธานอวี้ของเราเหรอ? เพื่อไว้หน้าประธานอวี้ คงไม่ทำอะไรให้โรงแรมเราลำบาก"

เสี่ยวจังพูดคุยอยู่ข้างๆ เซิ่งอันหราน เซิ่งอันหรานได้ยินก็หงุดหงิด มองบนใส่เขา

"นายฟังใครพูดว่าเธอเป็นคู่หมั้นประธานอวี้"

"ทุกคนก็พูดกันอย่างนี้ ซุบซิบอะไรพวกนั้น"

เซิ่งอันหรานกำลังจะตอบเขา รถบ้านหลายคันมาจอดหน้าประตูตามลำดับ แฟนคลับกลุ่มใหญ่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกั้นไว้ นักแสดงหลายคนของทีมงานกองถ่ายตามกันเข้าไปในห้องโถงโรงแรม แฟนคลับกลุ่มใหญ่ถูกกั้นไว้นอกโรงแรม

"ห้องเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ คนนี้เป็นผู้จัดการแม่บ้านของโรงแรมเรา เธอจะพวกคุณไปค่ะ"

เซิ่งอันหรานสื่อสารกับคนรับผิดชอบทีมงานกองถ่าย อย่างมีมารยาท คำพูดก็รวบรัด ไม่มีคำพูดไร้สาระสักคำ

ไม่รอให้คนรับผิดชอบเอ่ยปาก จู่ๆ เสียงหนึ่งก็แทรกเข้ามา "ผู้จัดการเซิ่ง ไม่เจอกันนานขนาดนี้ คุณผ่านโปรแล้ว? ยินดีด้วยนะ"

เงยหน้าเห็นเกาหย่าเหวิน เพิ่งถอดแว่นกันแดดออก ท่าทางเชิดหน้านิดๆ ดูหยิ่งสุดๆ

เซิ่งอันหรานยืนตรงราวกับดินสอเหมือนเดิม ดูไม่แข็งกร้าว "ขอบคุณ"

"ในเมื่อเป็นเพื่อนเก่า ก็ไม่ต้องให้ผู้จัดการแม่บ้านอะไรนั่นพาฉันไป รบกวนผู้จัดการเซิ่ง คุณพาฉันไปที่ห้องด้วยตัวเองสักเที่ยว ยังไงฉันกับคุณค่อนข้างสนิทกัน บางอย่างก็พูดง่ายถูกไหม?"

ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เซิ่งอันหรานก็ยากจะปฏิเสธ เลยพยักหน้าตกลง ให้ผู้จัดการแม่บ้านไปจัดการทีมงานกองถ่ายเข้าพัก ตัวเองพาเกาหย่าเหวินและผู้จัดการเธอไปห้องสูทชั้นที่12ด้วยกัน

"ตามคำขอก่อนหน้านี้ อุณหภูมิแอร์ในห้องอยู่ที่27องศา เครื่องทำความชื้นทำงานตลอดเวลา รักษาอากาศชื้น ในห้องนอกห้องใช้น้ำหอมที่คุณชอบพ่นแล้ว1รอบ......."

"พอแล้ว ฉันรู้ว่าเธอเก่ง"เกาหย่าเหวินหยุดคำพูดเธอ ท่าทางเย็นชา "ไม่จำเป็นต้องแสดงว่าเธอมีความสามารถแค่ไหน ยังไงฉันก็ได้เรียนรู้แล้ว ไปมัลดีฟส์หนึ่งเที่ยว ก็สามารถแย่งคู่หมั้นคนอื่น เซิ่งอันหราน เธอแน่มากจริงๆ"

ในห้องรับแขกขนาดใหญ่ในห้องสูทมีเสียงดังแหลมของเกาหย่าเหวิน เซิ่งอันหรานฟังออกว่าเธอโกรธจริงๆ ทั้งหมดพุ่งมาที่ตัวเอง

เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว หลังคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอบว่า

"ขอโทษ คุณเกา ฉันไม่เข้าใจคุณหมายความว่าไง ฉันไม่เคยมีตั้งใจที่จะทำลายการแต่งงานของคุณ และไม่ตั้งใจทำลายเหมือนกัน"

"เธอไม่ต้องมาไม้นี้! เธอเห็นฉันโง่เหรอ? ทำท่าราวกับดอกบัวสีขาวบริสุทธิ์ที่สูงส่งให้ใครดู? เธอกล้าพูดสักคำออกมาจากจิตใต้สำนึกตัวเองไหม ว่าเธอไม่มีแผนชั่วต่อหนานเฉิงเลย?"

ใบหน้าเกาหย่าเหวินเต็มไปด้วยความโกรธ ความโกรธนี้เธอทนมาระยะหนึ่งแล้ว เริ่มแรกตอนได้รับสายจากผู้ช่วยอวี้หนานเฉิง เธอกำลังลองชุดแต่งงาน ตอนที่ได้ยินยกเลิกงานแต่งโมโหจนเกือบสลบไป

"ผู้หญิงอย่างเธอฉันเห็นมาเยอะแล้ว ทำตัวเหมือนตัวเองเก่งเด็ดเดี่ยว อ้างเรื่องงานเข้าใกล้หนานเฉิง จะบอกว่าแสดงละคร พวกเราที่เป็นนักแสดงยังเทียบไม่ได้กับงานไร้ยางอายแบบนี้ของพวกเธอ"

เซิ่งอันหรานโดนด่าจนขมวดคิ้วแน่น ตอนเงยหน้าสายตาเย็นราวกับน้ำแข็ง

"คุณเกา ทางที่ดีใช้ปากคุณพูดจาให้มันดีๆ หน่อย"

เธอมีความรับผิดชอบในงาน มีมารยาทต่อลูกค้า แต่นี่ไม่ได้แสดงว่าเธอสามารถรับคำพูดเสียๆ หายๆ อะไรก็ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน