“เธออย่ามายุ่งนะ เทียนเอินยังเรียนไม่จบเลย และอีกอย่างเขาก็จำอดีตตัวเองไม่ได้ ไม่แน่เขาอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้”
ตามความเข้าใจของเซิ่งอันหรานและสไตล์ที่สอดคล้องกันของถานซูจิ้ง เมื่อเธอเริ่มให้ความสนใจกับชายหนุ่มแล้ว นั่นหมายความว่ากว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
เกาจ้านเป็นผู้ชายที่แย่ ถ้าต้องการจะคุยจริงๆ เธอกับเกาจ้านก็เหมาะสมกันที่สุดแล้ว
“ทำไมเธอถึงเหมือนแม่ของเธอแบบนี้นะ ?” ถานซูจิ้งจ้องมองเธอ “ฉันเพิ่งถามเธอว่าทำไมเธอถึงทำตัวเหมือนมีคนแย่งผู้ชายของเธอ ”
“คนโง่”
“ด่าใครโง่กัน ? เธอสิโง่” “ถานซูจิ้งโยนหมอนลองอย่างโกรธเคือง ฉันเห็นแล้วไม่เข้าใจเลย ? เกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มน้อยของฉัน ?”
“คุณลืมมันไปเถอะ ฉันยังไม่รู้จักคุณเลย และอีกอย่างก็ดังแค่สามนาที ดูละครเกาหลีพี่น้องรักกันอะไรพวกนี้ใช่ไหม ตัดใจเถอะ ฉันว่าเกาจ้านก็ดีกับคุณนะ เชื่อฟังคำด้วย”
“เขาเชื่อฟังคำพูดของผู้หญิง”
เมื่อพูดถึงเกาจ้าน ถานซูจิ้งก็รีบราวกับกำลังเบี่ยงเบนความสนใจ เธอละสายตาที่มองไปยังห้องครัวอย่างเกียจคร้าน “สันดานดิบแก้ไม่ได้หรอก”
“ทำไม ? ยั่วผู้หญิงอีกแล้วเหรอ ? ช่วงนี้พวกคุณสองคนไม่ได้มีความสุขกันเหรอ ?”
“เขาไม่ยั่วก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนเข้ามาเริ่ม เขาไม่เหมือนอวี้หนานเฉิงของเธอที่บริสุทธิ์อยู่บ้านตลอด คนยังไม่ดัง คุณหวังจะให้เขาอยู่บ้านไม่ออกไปไหนนะเหรอ ? ทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ถ้าอยากจะมีชีวิตอย่างสงบสุข ทุกคนก็สามารถแสร้งทำเป็นปิดหูปิดตาได้หมดแหละ”
เมื่อเห็นท่าทางถานซูจิ้งที่ดูมีสติและไม่สนใจอะไรเลย ทันใดนั้นเซิ่งอันหรานก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ซูจิ้ง อันที่จริงบางครั้งเรื่องที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันจบไป คนเราต้องมองไปข้างหน้า คุณอย่ากลัวที่จะมองอนาคต แล้วแบกรับอะไรไว้คนเดียว และแสร้งทำเป็นเหมือนอะไรก็ไม่รู้ไม่สนใจ อย่างไรซะเรื่องในอดีตพวกนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นอีก”
ถานซูจิ้งกำหมัดแน่น สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา “ฉันไม่ได้สนใจเรื่องอดีต ในตอนนั้นที่เธอเจอฉัน อนาคตของคนอื่นอยู่ในมือของตัวเอง แต่กลับฉันไม่ใช่ ดังนั้นฉันเลยไม่คาดหวัง และไม่อยากจะคาดหวังกับคนอื่นมากเกินไป ตอนนี้มีความสุขมันก็ดีแล้ว”
“บางทีมันก็อาจจะไม่กลับไปซ้ำรอยแล้วก็ได้นะ ? นี่มันก็สามปีแล้วไม่ใช่เหรอที่ไม่เกิดเรื่องซ้ำแบบเดิม ?”
เซิ่งอันหรานรีบจับมือของเขา มือเธอเย็นเฉียบ ราวกับว่าไม่มีอุณหภูมิเลย
“เธอก็พูดแล้วนี่ มันก็แค่บางที”
สีหน้าของถานซูจิ้งเรียบเฉย ในสายตาที่เจ้าเล่ห์คู่นั้นมีเรื่องราวอยู่มากมาย ในโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนที่รู้อดีตของเธอ อดีตที่น่าอับอายพวกนั้น มันส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของเธอ
หลังจากเงียบไปนาน เซิ่งอันหรานก็ได้ยินเสียงของเกาจ้านที่กำลังเลือกจานในครัวอย่างระมัดระวัง เธอจึงหันศีรษะไปถามถานซูจิ้น
“งั้นคุณตั้งใจจะบอกเขาไหม ?”
ถานซูจิ้งส่ายศีรษะ กะพริบตา
“บอกเขาทำไม ไม่แน่พวกเราสองคนทานข้าวมื้อนี้เสร็จอาจจะเลิกกันก็ได้ ?”
เซิ่งอันหรานถอนหายใจอีกครั้ง คิ้วของเธอไม่สามารถขยับได้แล้ว
หม้อไฟใกล้จะเตรียมพร้อมแล้ว
วันซานฝู เครื่องปรับอากาศในห้องก็เย็นมาก และในหม้อก็ร้อนจัดจนควันขึ้นเช่นกัน
เสี่ยวซิงซิงเริ่มกินของที่ต้องหลีกเลี่ยงตั้งแต่สามขวบ ดังนั้นการกินเผ็ดจึงไม่เป็นอะไร แต่จิ่นซี แค่ชิมเนื้อวัวที่ปรุงในหม้อไฟไปคำเดียว ก็น้ำตาไหลออกมาแล้ว
“แค่กแค่ก แค่กแค่ก”
เด็กชายตัวเล็กไอ เซิ่งอันหรานรีบเอาน้ำให้เขาดื่ม กว่าจะหายไปได้ไม่ง่ายเลย เด็กน้อยปฏิเสธที่จะนั่งอยู่บนโต๊ะต่อ เขาถือกล่องช็อกโกแลตเดินกลับห้องไป เสี่ยวซิงซิงกินอีกสองสามคำก็เดินตามเข้าไป
“เด็กคนนี้กินเผ็ดได้เหมือนพ่อของเขา” เกาจ้านทำหน้าเคร่งขรึม
ตอนที่พี่เฉิงยังเด็กเขาก็มักจะทำสีหน้าเหมือนคนชรา และยังชอบไม่สนใจผมอีก มีปีหนึ่งในวันโกหกเพื่อนๆมาเล่นด้วยกันและได้ทำขนมปังกรอบซอสเผ็ดให้เขากิน เห็นได้ชัดว่าเขาเผ็ดจะตายอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงอดทน ในที่สุดโชคดีที่ผมพบแล้วพาไปส่งห้องฉุกเฉินได้ทันเวลา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน