เมื่อพิจารณาดูแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนฉลาดหลักแหลมคนหนึ่ง ถ้าไม่มีเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม เกรงว่าแม้คนอื่นมอบเงินให้เขาก็คงไม่ต้องการ เซิ่งอันหรานต้องพูดออกไปตามตรงให้รู้แล้วรู้รอดกันไป
“ตอนที่พวกคุณไปบ้านตระกูลเปาอีกครั้งให้พาฉันไปด้วย บอกแค่ว่าฉันเป็นผู้ช่วยของคุณ จากนั้นเมื่อตกลงซื้อขายกันแล้ว พวกคุณก็เสนอขึ้นว่าอยากขอกลับเข้าในบ้านของพวกเขาอีกรอบ เพื่อดูว่ามีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ อีกไหม พวกคุณก็สำรวจเฟอร์นิเจอร์ไป ส่วนฉันจะไปตามหาคน”
ชายหนุ่มจ้องมองเธออยู่สองสามวินาทีก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ตกลง”
ผู้ช่วยของชายหนุ่มเรียกเขาว่าประธานหลิน เซิ่งอันหรานจึงเรียกเขาว่าประธานหลินตาม เธอเดินตามหลังพวกเขาเข้าไป คราวนี้เซิ่งอันหรานเข้ามาในบ้านตระกูลเปาได้อย่างราบรื่น ผู้หญิงคนนั้นที่ไล่เธอเมื่อครู่ไม่อยู่แล้ว จึงไม่มีอุปสรรคขัดขวาง
เซิ่งอันหรานมองดูตู้ลิ้นชักอย่างละเอียด หลังจากยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดพลาด จึงส่งสัญญาณลับให้ประธานหลิน
ประธานหลินจ้องมองไปยังคนตระกูลเปา “ถ้างั้นก็ตามราคาที่พวกคุณว่ามาเลยครับ”
พี่ใหญ่ของตระกูลคนที่ขายเฟอร์นิเจอร์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง รีบร้อนยื่นมือออกไป “ต้องขอบคุณพวกคุณมากๆ นะครับ...”
ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ รู้งาน เขายื่นมือออกไปตรงหน้าประธานหลินจับมือกับพี่ใหญ่ตระกูลเปา
“งั้นก็ตามนี้ จำนวนเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีคุณภายในครึ่งชั่วโมง สักพักจะมีคนมายกตู้ลิ้นชักออกไป เวลายังเช้าอยู่ เราอยากสำรวจดูสักหน่อยว่าพวกคุณยังมีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ อยู่ที่นี่หรือเปล่า ได้ไหมครับ?”
“ได้ ได้แน่นอนครับ”
พี่ใหญ่ตระกูลเปาอยากให้พวกเขาซื้อเพิ่มอีกสักสองสามชิ้นแทบแย่
ประธานหลินเป็นคนมือใหญ่ใจโต มีคนมาดูตู้ลิ้นชักที่บ้านจำนวนไม่น้อย แต่ยังไม่มีใครตกลงราคานี้กับพวกเขาได้
เซิ่งอันหรานเดินตามหลังผู้ช่วยและประธานหลินเข้าไปในลานบ้าน แสร้งทำเป็นกำลังห่อเฟอร์นิเจอร์ หลังจากทำเป็นอย่างลวกๆ ก็เดินเข้าไปลานบ้านด้านหลัง พี่ใหญ่ตระกูลเปาเดินเข้ามาเช่นกัน พร้อมกับอธิบายว่า
“สถานที่ตรงนี้เป็นที่ที่น้องชายผมอาศัยอยู่ เฟอร์นิเจอร์ของเขาทั้งหมดเป็นของใหม่ ไม่มีอะไรน่าดูหรอก”
เซิ่งอันหรานกลับยิ้มกริ่ม
“ไม่ใช่ว่าคุณชายเปาแอบเก็บสะสมของมีค่าอะไรไว้ที่นี่แล้วกลัวพวกเราเห็นหรอกนะคะ?”
“จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไรล่ะครับ?” พี่ใหญ่ตระกูลเปาโบกมือปฏิเสธทันควัน “ผมพูดเป็นความจริง ถ้าคุณไม่เชื่อ จะเข้าไปดูก็ได้ครับ โอ้! ไม่ใช่ว่าแบบนี้จะทำพวกคุณยิ่งเสียเวลาหรอกนะ?”
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากด้านหลังของเซิ่งอันหราน ผู้ช่วยประธานเปาทำปากยื่น บ่นมุบมิบ “เธอคงถือว่าตัวเองยังเป็นเลขาอยู่สินะ คำพูดจาสอดคล้องมีเหตุมีผลเชียว”
ทันทีที่พูดจบ เขารับรู้ได้ถึงความรู้สึกหนาวเหน็บ พอเงยหน้าขึ้นเห็นเจ้านายกำลังจ้องอยู่ไม่วางตา “ถ้ารู้สึกว่าลำบากที่จะพูด คราวหน้าก็ให้คุณเลขามาคนเดียว”
ผู้ช่วยรีบร้อนเอ่ยเสียงสั่น “ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นครับ”
“งั้นก็อย่าพูดอะไรไร้สาระ”
ทันทีที่เซิ่งอันหรานเข้าไปในลานบ้านด้านหลัง ก็ได้กลิ่นนมลอยเข้ามาปะทะจมูกอย่างแรง พี่ใหญ่ตระกูลเปาอธิบายว่า “น้องชายของผมเป็นเซฟทำขนม เพิ่งเกษียณออกมา คุ้นเคยกับการทำอะไรแบบนี้ บางทีกลิ่นก็เลี่ยนรุนแรงจนเกือบฆ่าคนได้ เราไปดูอย่างอื่นกันดีกว่า”
“ทำขนมเหรอ?” เซิ่งอันหรานแสร้งทำเป็นแปลกใจ “มีชิ้นที่ทำเสร็จแล้วไหมคะ? พวกเรากับประธานหลินยังไม่ได้ทานอะไรมาเลย หากว่ามี เราจะได้ขอซื้อไว้ทานระหว่างทางที่พูดคุยกันสักหน่อย”
เปาต้ารีบร้อนโบกมือปฏิเสธ “เฮ้ ซื้ออะไรกันครับ เดี๋ยวผมไปยกมาให้พวกคุณทานเอง ประธานหลิน คุณทานรสอะไรครับ? หวานหรือเค็ม?”
ประธานหลินมองไปที่เซิ่งอันหราน มีเครื่องหมายปรัศนีประทับอยู่บนหน้าเขา
เรื่องนี้ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนพูดขึ้นมาแต่กลับมาถามเขา เขาไม่เคยพูดว่าอยากกินตั้งแต่แรก ได้หนึ่งจะเอาสองจริงๆ
เซิ่งอันหรานขยิบตาให้เขา อ้อนวอนขอความร่วมมือจากเขาอย่างหนัก
ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ รีบร้อนจนดูไม่จบ กำลังจะพูดขึ้น แต่น้ำเสียงเย็นชาก็แย่งพูดขึ้นมาตรงหน้าเขาเสียก่อน “พาเราไปดูหน่อยสิ”
ผู้ช่วยเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ จ้องมองหัวหน้าอย่างตกใจอยู่ชั่วขณะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน