เสียงหายใจหอบดังขึ้นที่โถงทางเดิน เซิ่งอันหรานยืนพิงกับแผงประตูตัวแข็งทื่อ สายตาที่จ้องอวี้หนานเฉิงค่อยๆผ่อนคลายลงอย่างช้าๆ
“คุณดื่มไปเท่าไหร่เนี๊ย?”
"ผมไม่ได้เมา"
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว
สิ่งที่คนเมามักชอบพูดคือ ตัวเองไม่ได้เมา นิสัยของอวี้หนานเฉิง ถ้าเขาไม่เมา เขาคงจะไม่มาขวางทางเธอแบบนี้แน่
“คุณเมาขนาดนี้ แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไง”
"ขับรถมา"
ใบหน้าของเซิ่งอันหรานเคร่งขรึมขึ้น "อยากจะตายหรือยังไง ? "
อวี้หนานเฉินเดินเซเข้าไป ก้มหน้าลงช้าๆหยิบพวกกุญแจขึ้นมาแล้วส่งให้เธอ ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นเปล่งประกายด้วยแสงจางๆ
“คุณเป็นห่วงผมเหรอ ? ”
“ฉันเป็นห่วงว่าต่อไปจะไม่มีคนดูแลจิ่งซีต่างหาก”เซิ่งอันหรานคว้ากุญแจด้วยความโมโห เธอจ้องมองเขาอย่างดุเดือด “จิ่งซียังเด็ก คุณอยากให้เขาอยู่ในบนโลกนี้คนเดียวหรือยังไง ?”
ดวงตาของอวี้หนานเฉิงหรี่ลงเล็กน้อย เขาเงียบไปครู่หนึ่ง และพูดด้วยเสียงอู้อี้
"ผมนั่งรถแท็กซี่มา"
เขายังพอมีสติอยู่บ้าง
เซิ่งอันหรานเหลือบมองเขา เธอรู้ว่าเขายังคงได้สติอยู่ ดังนั้นจึงพูดกับเขาออกไปว่า "ในเมื่อไม่เมา ก็โทรหาผู้ช่วยของคุณ และโทรให้เขามารับคุณกลับไปเถอะ "
หลังจากที่พูดจบ เธอเปิดประตูเข้าไปในบ้าน 'โครม' เสียงปิดประตูดังสนั่นไปทั่วโถงทางเดิน
หลังจากเข้าไปในบ้านแล้ว เซิ่งอันหรานยกถุงขยะขึ้นมาจากถัง และนำถังขยะเข้าไปล้างในห้องน้ำ ใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด เธอใช้เวลาในจัดการไม่ถึงสิบนาที
ฝนนอกหน้าต่างเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
แสงฟ้าผ่าทำให้ห้องมืดสลัวมีแสงสว่างขึ้นเป็นระยะๆ โครม!! เสียงฟ้าร้องดัง ฝนตกหนักกระทบกระจกหน้าต่าง มันน่ากลัวมาก
เขาคงไม่รออยู่นอกประตู แล้วไม่ไปไหนหรอกใช่ไหม ?
เซิ่งอันหรานเอนตัวลงนอนบนเตียง แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็นอนไม่หลับ
หลังจากพลิกตัวอยู่หลายครั้ง เธอทนไม่ไหวแล้ว เซิ่งอันหรานลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตู ผ่านทางตาแมวของประตู เธอเห็นร่างหนึ่งพิงเข้ากับผนังและกำลังสูบบุหรี่
บ้าหรือเปล่า ! จนถึงป่านนี้แล้ว ยังไม่กลับไปอีก
เธอเปิดประตู พร้อมกับมองไปที่อวี้หนานเฉิงด้วยสายตาที่สงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
อวี้หนานเฉิงหยุดสูบบุหรี่ชั่วคราว นิ้วเรียวยาวของเขากำลังคีบก้นบุหรี่ ขี้เถ้าค่อยๆร่วงหล่นลดบนพื้น และล่องลอยไปกับสายลมตรงโถงทางเดิน
เขาขมวดคิ้วและอธิบายด้วยเสียงอู้อี้
“ฝนตกหนักเกินไป เรียกรถได้ลำบาก โทรศัพท์ของผมแบตหมด ก็เลยอยากจะรออยู่ตรงนี้สักครู่ ”
ไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า แต่เซิ่งอันหรานขี้เกียจจะเดา เธอจ้องไปยังอวี้หนานเฉิงอยู่ครู่หนึ่ง และหันหลังเดินกลับเข้าห้องโดยทิ้งท้ายประโยคไว้ว่า
"เข้ามาเถอะ"
เธอมองไม่เห็น ร่างที่อยู่ข้างหลังตกตะลึงครู่หนึ่ง นอกจากแสดงอาการตะลึงงันแล้ว เขารีบดับก้นบุหรี่อย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากลัวเธอจะเปลี่ยนใจ เขาเดินตามเธอเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
เซิ่งอันหรานกำลังชงชาอยู่ในครัว กลิ่นหอมของดอกมะลิค่อยๆ กระจายไปทั่วห้อง
เธอชอบดื่มชาที่มีกลิ่นหอมทุกชนิด นิสัยแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนมาหลายปีแล้ว
หลังจากวางถ้วยน้ำชาไว้ข้างหน้าอวี้หนานเฉิง เธอไปที่ห้องน้ำเพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวและยื่นให้กับเขา "เช็ดผมซะ"
แม้ว่าจะเรียกแท็กซี่ไม่ได้ แต่เขาก็ดูไม่ร้อนใจอะไรเลย ผมของเขามีน้ำหยดย้อยลงมา ถ้าไม่รีบเช็ดให้แห้ง เกรงว่าอาจจะเป็นหวัดได้
หลังจากจิบชาอุ่นๆสักถ้วย ร่างกายที่เย็นชาแต่เดิมเริ่มเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ความมึนเมาค่อยๆบางเบาลง
“ผู้ช่วยของคุณ ยังเป็นโจวฟังคนนั้นอยู่หรือเปล่า ?คุณจำหมายเลขโทรศัพท์ของเขาได้ใช่ไหม ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน