ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 49

“คุณต้องการจะซื้ออะไร?”

เมื่อเห็นอวี้หนานเฉิงออกหน้าปกป้อง เซิ่งอันหรานจึงทำได้เพียงแค่ยอมแพ้ แต่เธอก็จ้องมองไปยังเซิ่งเสี่ยวซิง “ครั้งนี้หม่าม้าจะปล่อยไป เฉพาะแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวหม่าม้าจะหักเงินเดือนค่าขนมเดือนหน้าของเรา”

เซิ่งเสี่ยวซิงทำหน้ามุ่ยน้อยใจ อวี้จิ่งซีดึงแขนเสื้อของเธอ แล้วกะพริบตาให้เธอเป็นสัญญาณว่าเขาเองก็มีเงิน จึงทำให้เธอยิ้มออกมาได้อีกครั้ง

เซิ่งอันหรานกำลังจะต่อว่าอวี้หนานเฉิงไม่ให้ตามใจเด็กๆ จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ทันทีที่เธอกดรับโทรศัพท์ ก็มีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังออกมาจากทางต้นสาย พร้อมกับเสียงผู้หญิงที่พูดออกมาอย่างใจคอไม่ดี

“อันหราน เธออยู่บ้านหรือเปล่า รีบมาที่นี่หน่อยสิ”

“เกิดอะไรขึ้น?”

หลังจากที่ถามได้สองสามคำถาม เซิ่งอันหรานก็มีสีหน้าวิตกกังวลขึ้นมา “อะไรนะ?ทำไมเธอถึง……”

เนื่องจากอวี้หนานเฉิงยังอยู่ตรงนี้ด้วย เธอจึงไม่อยากพูดอะไรมาก รีบกดวางสายโทรศัพท์แล้วมองไปยังที่เขา“ฉันมีธุระที่ต้องไปจัดการด่วน ฉันฝากคุณดูแลซิงซิงน้อยด้วยได้ไหมคะ”

“ได้ครับ”

“ขอบคุณมากค่ะ”

เมื่อขอบคุณเสร็จเธอก็ไม่สนว่าอวี้หนานเฉิงจะพูดอะไรต่อ เซิ่งอันหรานก็รีบวิ่งออกจากแถวที่จ่ายเงินแล้ววิ่งไปยังทางออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างรีบร้อน

สิ่งที่อวี้หนานเฉิงกำลังจะพูดคือ‘เกิดเรื่องอะไรขึ้น เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง’แต่กลับไม่ได้ถูกพูดออกมา

ตอนนี้ข้างนอกนั้นเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน รถแท็กซี่ก็ติดอยู่ครึ่งชั่วโมง กว่าที่เซิ่งอันหรานจะมาถึงสำนักงานรักษาความปลอดภัยของสนามบินได้ เมื่อเข้ามาเธอก็ได้เห็นหญิงสาวที่สวมชุดขาวดำนั่งอยู่บนเก้าอี้ แว่นดำสีดำนั้นไม่สามารถซ่อนความเย่อหยิ่งของเธอเอาไว้ได้

เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเข้ากับกระโปรงหางปลาสีดำ รองเท้าส้นสูงสีแดงพื้นสีดำที่สูง4นิ้วนั้นทำให้ขาของเธอดูเรียวยาวอย่างมีพลัง ในมือถือกระเป๋าสีเงินที่สะท้อนแสงออกมา ทั้งตัวเธอนั้นเปล่งประกายออร่าออกมาอย่างเย็นชา

“ซูจิ้ง” เซิ่งอันหรานรีบวิ่งเข้าไปหา “นี่เธอก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว?”

“ฉันก่อเรื่อง?”ถานซูจิ้งถอดแว่นดำออก เผยให้เห็นใบหน้าอันงดงามของเธอที่กำลังโกรธเคืองอยู่ไม่หาย

“ฉันเจอคนถูกคนไม่ดีรังแกเลยเข้าไปช่วย ไอ้พวกลามกนี่ฉันก็เคยเจอมาเยอะแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเจอไอ้ลามกหน้าไหนที่กล้าจะมาถอดกางเกงกลางวันแสกๆในลาดจอดรถของสนามบินได้เลย!”

“หา?ถอดกางเกง?” เซิ่งอันหรานตกใจ รีบร้อนเข้าไปประคองถานซูจิ้งเอาไว้ แล้วรีบถามขึ้นว่า “แล้วเธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?ไม่มีใครมาลวนลามเธอใช่ไหม?”

“ไอหยา ไม่ใช่ฉัน” ถานซูจิ้งคว้ามือไปสัมผัสมือของเซิ่งอันหรานอย่างขุ่นเคือง

“ก็บอกแล้วว่าฉันเป็นแค่คนที่พบเห็น คนที่ถูกลวนลามนั้นเป็นคนอื่น เมื่อกี้เพิ่งจะมีเพื่อนมารับตัวไป ตอนนี้ก็เหลือแค่ไอ้คนลามกบ้ากามคนนั้น”

“ใครกัน?” เซิ่งอันหรานมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นใคร

“อยู่ข้างใน ไอ้คนแบบนั้นมันต้องถูกกักตัวไว้ไม่ให้ออกมาทำร้ายประชาชนคนอื่นไม่ไช่หรอ?”

“โอเคโอเค” เซิ่งอันหรานถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย “ในเมื่อเรื่องมันจบแล้ว งั้นเดี๋ยวฉันจะไปเซ็นชื่อแล้วรีบกลับกัน ซิงซิงน้อยกำลังรอฉันอยู่”

ถานซูจิ้งนั้นเป็นคนอารมณ์ร้อน เธอฝึกอยู่ในกองทัพทหารมาอยู่หลายปี ร่างกายของเธอนั้นแข็งแรงมาก โดยปกติแล้วผู้ชาย3-5คนก็ไม่สามารถจะเอาชนะเธอได้ เซิ่งอันหรานรู้จักกับเธอได้นั้นก็เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เหมือนกัน ซูจิ้งเป็นคนที่ช่วยเธอเอาไว้ตอนที่อยู่ในบาร์เหล้าที่ต่างประเทศ หลังจากที่ได้รู้จักกับเธอก็พบเจอเหตุการณ์ที่พาคนขึ้นโรงพักแบบนี้ก็ไม่น้อย

“กระเป๋าเดินทางหล่ะ”

เมื่อออกมาจากสำนักงานรักษาความปลอดภัยแล้ว เซิ่งอันหรานก็ถามเธอ

ถานซูจิ้งถือกระเป๋าถืออยู่ในมือ ทันใดนั้นก็คิดอะไรบางอย่างออก แล้วรีบพูดขึ้นว่า

“เฮ้ย กระเป๋าเดินทางยังอยู่ข้างในอยู่เลย!”

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สนามบินก็ได้พาไปหากระเป๋าเดินทางที่ห้องเก็บของในโรงรถ กล่องอลูมีเนียมสีไวน์แดงที่ดูโดดเด่นในกองกระเป๋าเดินทางที่หาย

“ฉันบอกแล้วมันไม่หายหรอก”

ถานซูจิ้งลากกระเป๋าเดินทางแล้วมองไปยังเซิ่งอันหรานที่กำลังแสดงสีหน้าตื่นตระหนก “โอเค วันนี้พี่สาวมีความสุข เดี๋ยวเราไปรับซิงซิงน้อยแล้วไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน”

ทั้งสองคนควงแขนกันเดินกลับไปยังโรงจอดรถ ถานซูจิ้งมักจะนั่งเครื่องบินเพื่อเดินทางไปทำงานต่างที่ และเธอก็จะจอดรถไว้ที่สนามบินทุกครั้งเพื่อความสะดวกสบายเวลาขับรถกลับ

หลังจากเมื่อวางกระเป๋าเดินทางลงที่ท้ายรถเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็กำลังจะเดินขึ้นรถ แต่ทันใดนั้นเซิ่งอันหรานก็ได้ยินที่คุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลัง

“เดี๋ยวฉันจะพานายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลก่อน”

“ไปโรงพยาบาลทำไม ฉันจะไปหาทนายก่อน เป็นเพราะยายบ้านั่นแท้ๆ”

“แน่ใจว่าบาดแผลของนายไม่เป็นอะไร?”

เสียงทุ้มดังก้องอยู่ภายในโรงจอดรถ เซิ่งอันหรานที่กำลังจับประตูรถได้หันหลังกลับไปมอง ก็ได้เห็นร่างสูงใหญ่สองคนกำลังยืนคุยกันอยู่ด้านหน้ารถ BMW สีดำ หนึ่งในนั้นหน้าตาคล้ายกับอวี้หนานเฉิง

“อวี้หนานเฉิง” เซิ่งอันหรานพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

ตอนนี้เขาควรจะต้องพาเด็กทั้งสองคนกลับบ้านไม่ใช่หรอ?ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

อวี้หนานเฉิงได้ยินเสียงของเซิ่งอันหราน จึงหันมามองตามเสียง เมื่อได้เห็นเธอเขาก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรคะ?” เซิ่งอันหรานปิดประตูรถ เมื่อเขาก้าวเท้าได้สองก้าวเธอก็เห็นเงาคนที่อยู่ด้านหลัง ใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำนั้นไม่สามารถปิดบังออร่าความเสเพลได้

“ประธานเกา หน้าคุณไปโดนอะไรมาคะ?”

เกาจ้านเอามือสองข้างปิดไปที่หน้าของตัวเอง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด“ผมว่าผมก็หลบแล้วนะคุณยังจำได้อีกหรอว่าเป็นใคร?คุณจำผิดคนแล้ว”

ขณะที่กำลังสับสน ถานซูจิ้งก็เดินเข้ามาแตะไหล่ของเซิ่งอันหราน ยิ้มแล้วพูดว่า

“ทำไมหรอ?เจอคนที่รู้จักหรือไง?คนนี้เป็นเพื่อนเธอหรอ?”

“อ่อ” เซิ่งอันหรานรีบแนะนำตัว “คนนี้เป็นเจ้านายของฉัน ประธานอวี้แห่งเซิ่งถังกรุป”

“นี่คือ”

“ฉันชื่อถานซูจิ้ง” ถานซูจิ้งรีบพูดตัดบทเซิ่งอันหราน เธอยื่นมือออกไปด้านหน้าอวี้หนานเฉิง แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา

“เป็นเพื่อนรักของอันหรานค่ะ คุณคืออวี้หนานเฉิงสินะคะ?ฉันชื่นชมคุณมากนานแล้วค่ะ ”

อวี้หนานเฉิงเหลือบมองไปยังเซิ่งอันหราน แล้วยื่นมือไปจับมือกับเธออย่างมีมารยาท “สวัสดีครับ”

“คนคนนี้คือ” สายตาของถานซูจิ้งมองไปยังคนที่ยืนอยู่ด้านข้างอวี้หนานเฉิง

และเกาจ้าน ก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา

ในระหว่างที่สบตากัน วินานทีนั้นเปลวไฟในดวงตาของทั้งคู่ก็ถูกระเบิดออกมา

“ยายผู้หญิงบ้า——”

“ไอ้คนลามก——”

เสียงพูดนั้นดังขึ้นพร้อมกันจากทั้งสองฝ่าย เสียงหนึ่งดังมาจากเกาจ้าน อีกเสียงหนึ่งดังมาจากถานซูจิ้ง

เซิ่งอันหรานคว้าถานซูจิ้งที่กำลังโกรธเคืองเอาไว้ได้

“เฮ้ย เธอจะทำอะไร?”

“ไอ้คนนี้แหละ” ถานซูจิ้งชี้นิ้วไปยังเกาจ้าน “ไอ้คนลามกที่ฉันบอกเธอในสถานีตำรวจก็คือเขานี่แหละ ”

“ใครลามก?” เกาจ้านก้าวเท้าออกมาจากที่หลบอยู่ด้านหลังอวี้หนานเฉิง ด้วยใบหน้าสีแดงก่ำ “เธอต่อยฉันจนเป็นแบบนี้ เธอนั้นแหละที่บ้า เธอรอพบทนายฉันได้เลย ฉันจำชื่อเธอได้แล้ว ถานซูจิ้งใช่ไหม ”

รอยฟกช้ำบนใบหน้าของเกาจ้านทั้งเขียวทั้งบวม ดวงตาทั้งสองข้างนั้นกลายเป็นหมีแพนด้าไปแล้ว

แม้แต่เซิ่งอันหรานเองที่คุ้ยเคยกับการลงไม้ลงมือแบบนี้ของถานซูจิ้งมาก่อนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเห็นใจเขา อวี้หนานเฉิงก้าวเท้าถอยออกมาสองก้าว พร้อมกับลากเขาออกมาให้ห่างจากถานซูจิ้งเอาไว้

“ถ้าคุณไม่ใช่คนลามก?เมื่อกี้ที่โรงจอดรถคนที่ใช้กำลังบีบบังคับผู้หญิงไม่ใช่นายหรอ?กางเกงนายก็ถอดแล้ว น่าขยะแขยงมาก!”

เซิ่งอันหรานและอวี้หนานเฉิงต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป มองไปยังเกาจ้านอย่างงุนงง

มองไม่ออกเลยว่า เกาจ้านที่มักจะสุภาพเรียบร้อย แม้ว่าเขาจะชอบพูดจาลวนลามพนักงานสาวในบริษัท แต่ทำไมถึงมีพฤติกรรมแบบนี้ด้วย?

“พวกนายทำสีหน้าอะไรกัน” เกาจ้านรู้สึกประหม่า “นี่พวกนายเชื่อในสิ่งที่เธอคนนี้พูดงั้นหรอ?เรื่องจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นนะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน