"เอ๊ะ ฉันนึกออกแล้ว"
หวังหรุ่ยตีต้นขา ทำท่ารู้ตัวในฉับพลัน กู้เทียนเอินได้ยินก็เงยหน้า ก็เห็นเธอรีบวางเอกสารในมือแล้ววิ่งกลับมาอย่างเสียงดัง ตอนนี้ในมือหยิบกุญแจยื่นให้เขา
"คุณทำอะไร?"
กู้เทียนเอินคว้าที่เก้าอี้ ทำท่าน่าเบื่อ
"คุณไม่ใช่อยากรู้ว่าคนนั้นหน้าตาเป็นไงเหรอ? ผู้จัดการเซิ่งลงชั้นล่างไปรับขึ้นมาโดยตัวเอง พวกเราไม่มีใครเห็น แต่ถ้าหากคุณอยากเห็นละก็ ชั้นบนในห้องเก็บสินค้ามีห้องควบคุม คุณอยากจะ......"
"ยังไม่ถือว่าโง่"
ยังไม่ทันสิ้นเสียง กู้เทียนเอินก็ลุกขึ้นเดินไปทางลิฟต์ คำวิจารณ์เรียบๆ หนึ่งประโยคเข้าหูหวังหรุ่ย ทำให้เธอกำหมัดแน่น ทำท่าจะเข้าไปต่อย
"เร็วหน่อย"
ในลิฟต์กู้เทียนเอินวางมือที่ประตู อดไม่ได้ที่จะเร่ง
"มาแล้วๆ"
หวังหรุ่ยเก็บกำปั้นของเธอ เหยียบรองเท้าส้นสูง"ตึกตักๆ"เดินเข้าไป โดยไม่คาดคิดรองเท้าใหม่ที่เพิ่งซื้อยังอยู่ในช่วงปรับตัว เร่งฝีเท้าเกินไปดังนั้นวินาทีที่ก้าวเข้าลิฟต์ส้นรองเท้าติดอยู่ในช่องลิฟต์อย่างบังเอิญ
"โอ๊ย!"
เสียงร้องทรมาน หวังหรุ่ยล้มกางแขนกางขาในลิฟต์ กระโปรงสั้นสีชมพูอ่อนเผยให้เห็นขอบกางเกงสเตย์สีขาวเล็กน้อย กู้เทียนเอินที่ดันประตูอยู่ ทำท่าเหมือนตกใจ รอได้สติก้มมอง ใบหน้าแดงลงไปถึงคอ
หวังหรุ่ยล้มจนหน้ามอมแมม ตอนเธอลุกขึ้นตอนเห็นรองเท้าส้นสูงที่เพิ่งใส่มาครึ่งวันเสียแล้ว ชุดเดรสลิมิเต็ดบนตัวก็ใกล้จะพังแล้ว รู้สึกน้อยใจสุดๆ เบ้าตาแดงๆ ถลึงตาใส่กู้เทียนเอิน
"คุณไม่เป็นไรนะ?"
กู้เทียนเอินลูบจมูกปกปิดความอึดอัดในใจ เดิมไม่ถามก็ดีอยู่แล้ว ถามไปทำให้หวังหรุ่ยระเบิดทันที ในลิฟต์มีเสียงตะคอกของเธอดังก้องในทันที
"คุณเห็นฉันเหมือนไม่เป็นไรเหรอ?"
เสียงขอเธอบังเอิญไปซ้อมทับกับเสียงแจ้งเตือนของลิฟต์ และกู้เทียนเอินเลือกจะเมินเสียงเธอ ขมวดคิ้วดึงส้นรองเท้าที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ออกมา
ลิฟต์ถึงค่อยๆ ปิดลง
"นี่คือ......"
กู้เทียนเอินมองส้นรองเท้าสีชมพูในมือ ทำตัวไม่ถูกในช่วงเวลาสั้นๆ หมุนตัวมองด้านหลัง หวังหรุ่ยสองมือดันลิฟต์อยู่ในมุมหนึ่ง ยืนขาข้างเดียว ขาอีกข้างสวมรองเท้าที่หายไปข้างหนึ่ง ทำได้เพียงใช้กำลังตัวเองเขย่งเท้าไว้
ท่าทางดูตลกเล็กน้อย
"คุณยังขำอีก?"
หวังหรุ่ยไม่อยากจะเชื่อ
คิดไม่ถึงผู้ชายคนนี้หน้าตาขาวสะอาด ไม่เพียงทำเรื่องไม่เหมาะสม ยังเป็นคนนิสัยใช้ไม่ได้อย่างนี้
เธอยื่นมือแย่งส้นรองเท้าในมือกู้เทียนเอินมา ขาทรงตัวไม่ดี เอียงไปทั้งตัว หากไม่ใช่กู้เทียนเอินตอบสนองเร็วใช้นิ้วมือช่วยเธอประคองไหล่หาสมดุล เธอเกือบจะล้มไปอีกครั้ง
แต่ร่างกายกับหงายหลัง ออกแรงนิ้วชี้ดันไหล่เธอทำให้คนรู้สึกแย่จริงๆ เหมือนปกติเธอเรียกคนมาทำความสะอาดแล้วเจอเส้นผมในท่อน้ำถึงจะมีท่าทางแบบนั้น
กองไฟอยู่ในใจหวังหรุ่ยยิ่งลุกไหม้ขึ้น
เสียงลิฟต์เปิดดัง"ติ่ง" เธอเงยหน้าเดินหน้ายุ่งไปทางห้องควบคุม กู้เทียนเอินทำได้เพียงเดินตามหลังเธอ มองเธอก้าวเดินบิดไปมาเหมือนเพนกวิน ตลอดทางไปจนถึงจุดหมาย
หวังหรุ่ยเปิดประตูห้อง พากู้เทียนเอินเข้าห้องควบคุม ไม่รอให้เปิดอุปกรณ์ เธอก็หย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้แล้ว ทำท่าทรุด
เดิมคิดจะใช้เวลาที่กู้เทียนเอินตรวจสอบกล้องหาเหตุผลออกไป คิดไม่ถึงว่าเขาแค่ยืนมองหน้าประตู รอหวังหรุ่ยหันกลับมามองอีกครั้ง คนก็หายตัวไปแล้ว
"เขาเป็นปีศาจรึไง!"
หวังหรุ่ยถอดรองเท้าโยนไปด้านข้าง นวดข้อเท้าที่ปวดเงยหน้าถอนหายใจ จู่ๆ นึกถึงเพื่อนเมื่อสองวันก่อนเขาบอกเธอว่าช่วงนี้เธอดวงตก ตอนนั้นเธอกำลังกอดพ็อปคอร์นมองแจ็ก สแปร์โรว์อย่างคลั่งไคล้ในหน้าจอคอม ไม่ได้เอาคำนี้มาใส่ใจ
นึกถึงตรงนี้ เธอหยิบมือถือออกจากในกระเป๋า นิ้วมือเคาะที่แป้น
"ดวงตกแก้ไขยังไง ฉันเจอปีศาจตัวหนึ่ง"
ช่วงที่รอการตอบกลับ ร่างดำหนึ่งแล่นผ่านอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเธอตกใจเกือบตายคาที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน