ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 89

บ่ายวันนั้นพายุฝนรุนแรง ไฟล์ทบินทั้งหมดถูกยกเลิก ค้างอยู่ในสนามบินสองวันถึงกลับสู่เที่ยวบินปกติ อวี้หนานเฉิงต้องอยู่อีกสองวันอย่างทำอะไรไม่ได้ กลับถึงประเทศหลังจากผ่านเรื่องไป 3วันแล้ว

อวี้ย่วนวิลล่า อวี้หนานเฉิงยืนอยู่หน้าประตูห้องพัก ขมวดคิ้วแน่น

พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ ตอบอย่างระมัดระวัง

"คุณชาย 2วันก่อนคุณเซิ่งกลับมาย้ายของเธอออกไปแล้ว บอกว่าหาห้องพักได้แล้ว ดังนั้นไม่รบกวนแล้ว"

"ยังพูดอะไรอีก?"

"ยังบอกพักที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่า คิดค่าเช่าทิ้งเงินไว้3หมื่น อยู่นี้แล้ว"

พ่อบ้านถือซองหนึ่งไว้ "ก่อนหน้านี้ผมไม่กล้าให้เลขบัญชีในบ้านกับเธอ วันที่2 เธอก็ยกซองเงินสดมาแล้ว"

ชั่วพริบตาที่เห็นซองกระดาษ อวี้หนานเฉิงหน้าขรึมลง

เธอร้อนใจอยากขีดเส้นแบ่งแยกกับตัวเองขนาดนั้นเลย?

อวี้จิ่งซีอยู่ข้างๆ ดึงชายเสื้อเขา ท่าทางตื่นตระหนกและน้อยใจ

อวี้หนานเฉิงพูดอย่างหงุดหงิด

"ไม่เห็นเหรอ? เธอไปแล้ว ลูกดึงป่าป๊าก็ไม่มีประโยชน์"

อวี้จิ่งซีปากยื่นทันที น้ำตาไหล่ออกมา ‘แง’ร้องไห้ออกมา

พ่อบ้านและคนใช้เห็นเหตุการณ์ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เวียนกันโอ๋แต่โอ๋ไม่ได้ อวี้หนานเฉิงทั้งโมโหทั้งปวดใจ พูดเสียงสูง"เธอดีขนาดนั้นเลย? ไม่ใช่แม่ลูกสักหน่อยทำไมถึงชอบเธอขนาดนั้น?"

อวี้จิ่งซีร้องไห้ไม่ขาดสาย เหมือนหายใจไม่ออก พ่อบ้านและคนใช้รีบพาอวี้จิ่งซีลงไป แล้วปลอบใจอวี้หนานเฉิง "คุณชาย อย่าโมโหเลย ผมเห็นกลับมาครั้งนี้คุณเซิ่งเหมือนมีเรื่องหนักใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น? ไปเที่ยวไม่สนุกเหรอครับ?"

พูดถึงตรงนี้ อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม

เรื่องเกิดแล้ว แต่ตอนนี้แยกไม่ออกว่าเธอไม่พอใจอะไร นอกจากคืนก่อนที่เธอจะกลับ ตอนอยู่ที่ชายหาดก็ยังดีๆ อยู่ กินข้าวเย็นเหมือนร่างไร้วิญญาณ เหมือนได้ยินเส้าซือพูด บ้านเธอเกิดเรื่อง?

"เหล่าโจว บ้านเซิ่งชิงซาน ประธานเซิ่งซื่อกรุปอยู่ที่ไหน?"

พ่อบ้านนิ่งไป "เหมือนว่าจะอยู่ทางเจียงซินย่วน"

——

ห้องรับแขกตกแต่งอย่างสวยงาม ประเมินมูลค่าตามราคาตลาดของบ้านนี้เกินสิบล้าน

ในห้องรับแขก คนใช้วางแก้วชาลง ทิ้งคำพูดไม่แยแสมาหนึ่งประโยค ‘คุณอันหรานน้ำชา’พร้อมถือถาดออกไป เซิ่งอันหรานขมวดคิ้วเรียกเธอไว้

"น้าชายฉันยังไม่กลับมาเหรอ?"

คนใช้หยุดฝีเท้า มองเธอเรียบๆ "คุณผู้ชายยุ่งมาก ปกติเวลานี้อยู่ในสำนักงานทำงานราชการอยู่ ไหนเลยจะมีเวลากลับมา"

เซิ่งอันหรานเตือน

"วันนี้วันอาทิตย์"

"วันอาทิตย์แล้วทำไม? วันอาทิตย์ไม่ต้องเข้าสังคมเหรอ? คุณอันหราน หากคุณเต็มใจรอก็รอไปเถอะ ไม่แน่ว่าวันนี้คุณผู้ชายอาจจะกลับมากินข้าวเย็น"

พูดเสร็จ คนใช้ก็หันหน้าเดินไปเลย

เซิ่งอันหรานค่อยๆ ถอนหายใจปรับอารมณ์ที่สับสน

ตอนเธอจากตระกูลซูไปอายุเพิ่งได้ 5 ขวบ ตอนจากไปสถานการณ์กระอักกระอ่วนใจ คุณตาจากไปเพราะเธอ น้าสะใภ้เอาของทั้งหมดของเธอส่งไปที่ตระกูลเซิ่ง หลังจากนั้นก็มีท่าทีตัดการติดต่อ

หลังจากนั้นหลายปี เธอก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย

ครั้งนี้หากไม่ใช่เพื่อสิทธิ์การเลี้ยงดู เธอก็ไม่กลับมาเอามรดกที่แม่ทิ้งไว้

ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน มีเสียงดังมาจากชั้นสอง เกิดเสียงลงมาชั้นล่าง

เซิ่งอันหรานมองตามเสียง ในใจรัดแน่น

เสียงฝีเท้าหยุดที่กึ่งกลางบันได ผู้หญิงอายุเกิน50ปี รูปร่างอวบอิ่ม ก้มลงมองเธอจากที่สูง ตาคมทั้งสองทั้งเย็นชาและฉลาด เปิดปากก็พูดจาโหดร้าย

"อุ๊ย ฉันก็คิดว่าใครมารบกวนเวลานอนหลับ เกือบ20ปีที่เธอไม่ได้กลับมาสินะ หากไม่ใช่ตื่นมาแล้วได้ยินคนใช้พูด ฉันยังนึกว่าชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสได้เห็นหลานสาวที่คุณพ่อเอ็นดูสุดๆ เสียอีก"

เซิ่งอันหรานกำหมัดแน่น พูดเสียงอ่อย

"น้าสะใภ้ น้าอยู่บ้านเหรอคะ?"

เธอมาถึงไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง คนใช้ก็ขึ้นชั้นบนไปหลายครั้ง เห็นท่าทางนี้ หากเธอไม่คิดจะรออยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ น้าสะใภ้เธอคนนี้คงไม่คิดจะลงชั้นล่างมาเจอเธอ

"นอนกลางวันน่ะ คนใช้รู้นิสัยฉันดี ตอนฉันนอนกลางวัน เป็นนายกเทศมนตรีมาก็ไม่มีใครกล้าปลุกฉัน"

เซิ่งอันหรานทำน่าอึดอัดใจไม่รู้ว่าควรพูดอะไรอยู่นาน

น้าสะใภ้ของเธอคนนี้ครอบครัวนักการทูต ถือได้ว่ามีอำนาจทางการเมืองที่สุดในเกียวโต ตอนนั้นน้าชายของเซิ่งอันหรานถูกบ้านพวกเขาประคองขึ้นมา ดังนั้นครอบครัวฝ่ายสามีจึงมีฐานะทางสังคมมาโดยตลอด

เซิ่งอันหรานกลัวเธอมาตั้งแต่เด็ก

"นั่งสิ"

น้าสะใภ้ลงมาชั้นล่างแล้ว เดินไปนั่งลงตรงหน้าเธอ หน้าตาเย็นชา พูดตรงประเด็น

"มาทำไม?"

เซิ่งอันหรานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "ฉันรอน้าชายกลับมาค่อยพูดดีกว่าค่ะ"

"แน่ใจเหรอ? งั้นเธอคงเสียเวลาเปล่าแล้ว ฉันก็ไม่แน่ใจเขาจะกลับมาเมื่อไร"

เซิ่งอันหรานได้ยินจับชายเสื้อแน่น ไตร่ตรองครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เอ่ยปาก "ฉันกลับมาเอามรดกของแม่ที่ให้คุณตาช่วยดูแลไว้ ฉันไม่ต้องการอย่างอื่น ต้องการแค่ห้องชุดหลังนั้น"

"ฉันก็ว่าแล้ว 10กว่าปีไม่กลับมา ยังคิดอะไรได้อีก?"

น้าสะใภ้ทำเสียงขึ้นจมูก "ตอนนั้นแม่เธอออกจากตระกูลเซิ่งไม่เอาทรัพย์สินติดตัวออกมาเลย คืนที่คลอดเธอออกมาก็ตายแล้ว ใครบอกเธอ หล่อนทิ้งมรดกให้เธอ?"

เซิ่งอันหรานได้ยินหน้าซีดขาว พูดด้วยความลังเล"คุณตาบอกว่ามี แม้ว่าตอนนั้นฉันอายุยังน้อย แต่เรื่องนี้คุณตากำชับไว้หลายครั้ง ดังนั้น……ฉันคงจำไม่ผิด"

ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าตอนแรกแม่ออกจากตระกูลเซิ่งด้วยความโกรธไม่ได้เอาทรัพย์สินติดตัวมา แต่ตอนนั้นทรัพย์สินภายใต้ชื่อเธอมีไม่น้อย มีของตระกูลเซิ่งส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งยังมีตอนที่แต่งงาน สินสอดฝ่ายแม่ที่ให้เธอ

น้าสะใภ้ยังทำหน้าเย็นชาเหมือนเดิม "จริงเหรอ? ทำไมฉันจำไม่ได้ว่ามีเรื่องนี้อยู่ ตอนเธอไปอายุเพิ่ง 5 ขวบจะจำอะไรได้? อีกอย่าง สองปีนั้นบริษัทเซิ่งชิงซานเกิดปัญหา ยื่นมือขอคุณตาเธอตลอดเวลา ไม่รู้ว่าให้เงินบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นของเขานั้นไปมากเท่าไหร่ แม่เธอที่ไม่เอาไหนคนนั้น จะทิ้งมรดกอะไรให้เธอได้? ฉันว่าเธอฝันกลางวันแล้ว!"

ใบหน้าเซิ่งอันหรานซีดขาวไม่มีสีแดงแม้แต่นิดเดียว เหมือนกัดริมฝีปากจนเลือดออกมา แทบอยากเดินจากที่นี่ไป เธอกำหมัดแน่น กัดฟันพูด

"น้าสะใภ้ ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ คุณตาบอกฉัน ตอนนั้นแม่ฉันเก็บบ้านหลังไหนไว้ บนโฉนดเขียนชื่อฉัน แม้โฉนดจะไม่ได้อยู่ที่ฉัน แต่หากน้าจำเรื่องบ้านไม่ได้ล่ะก็ ฉันสามารถไปตรวจสอบที่สำนักงานอสังหาริมทรัพย์เองได้"

"เอ๊ะ?" น้าสะใภ้หน้าเปลี่ยนสี "เธอพูดอย่างนี้ได้ยังไง? ความหมายของเธอคือฉันยึดบ้านเธอไว้รึไง? เธอยังคิดจะฟ้องฉันทำนองนั้น? มีความสามารถงั้นก็ไป ไปศาลถามน้าชายเธอดูเอง เขาจะยื่นคำร้องให้เธอไหม"

ชั่วพริบตาที่ได้ยินคำนี้ ในใจเซิ่งอันหรานหมดหวังไปเกือบครึ่ง น้าชายเธอเป็นอธิบดีศาลยุติธรรมของเมืองจินหลิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน