เมื่อหวางอ้ายหมินพูดอย่างนั้น จ้าวเจียนโหย่วก็แสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
“เหล่าวัง คุณพูดถูก! เป็นไปไม่ได้ที่จะรวยแล้วลืมเพื่อนเก่าหรอกจริงไหม อย่างที่ว่ากันว่าถ้าช่วยคนที่รีบดีกว่าช่วยคนจน เราต้องการมันจริงๆ มิฉะนั้น เราจะไม่ขอยืมเงินคุณเลย ”
เมื่อหวางอ้ายหมินพูดจบ เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาถอนหายใจ และเหลือบมองคนอื่นๆ
ซูฮวนกลอกตาอย่างดุเดือดและไม่พูดอะไร รู้สึกหดหู่ใจมากในหัวใจของเธอตอนนี้
หวังตงเสวี่ยค่อนข้างอึดอัดจริงๆ เมื่อถูกขอยืมเงินก็มักจะอึดอัดเช่นนี้ ยิ่งกว่านั้นด้วยรูปร่างหน้าตาของ จ้าวเจียนโหย่วมีที่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ซึ่งมันทำให้รู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นว่าคนในครอบครัวหยุดพูด ฉินจุนก็หัวเราะ
“พวกคุณต้องการเงินเท่าไหร่?” เห็นได้ชัดว่าครอบครัวของหวางอ้ายหมินไม่มีเงินมากพอที่จะไปจ่ายหนีด้านนอกได้ และจ้าวเจียนโหย่วก็มาหาพวกเขาเขา แต่ฉินจุนเองก็รู้ดี และมองออกถึงเจตนาของพวกเขา
แม้ว่าจะค่อนข้างไม่สบายใจ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ครอบครัวของลุงหวังต้องอับอายเรื่องเงิน
ครอบครัวของ จ้าวเจียนโหย่วทั้งสามคนมองหน้ากันและพูดว่า
“เราต้องการยืมเงินห้าแสน ไม่เช่นนั้นลูกชายของฉันจะต้องขายรถไป ไม่ต้องกังวลพวกเราจะคืนเงินให้คุณโดยเร็วที่สุด!”
โดยทั่วไปการยืมเงินจะต้องมีการกำหนดวันเวลา เมื่อจะต้องชำระคืน เช่นเดียวกับ จ้าวเจียนโหย่วเขาบอกว่าเขาจะชำระคืนโดยเร็วที่สุด โดยปกตืแล้วนั้นก็แปลว่าเขาไม่ได้เตรียมที่คืนนั่นเอง
แต่จวินฉินไม่สนใจ ห้าแสน ก็ถือว่าทำบุญไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ครอบครัวของลุงหวางต้องมาอับอาย
“ตกลง ฉันจะให้คุณยืม มาทำใบแจ้งหนี้กันเถอะ”
จ้าวเจียนโหย่วผงะไปครู่หนึ่งและเบะปากของเขาทันที “เราทุกคนเป็นเพื่อนเก่ากันและยังต้องทำใบแจ้งหนูอีกเหรอ … ”
ฉินจุนยิ้ม “ฉินจุนคนนี้ต้องเคลียร์บัญชีให้ชัดเจน และการทำใบแจ้งนี้ก็ไม่ผิดอะไร”
จ้าวเจียนโหย่วดูจะไม่เต็มใจ แต่ด้วยเงินจำนวนมหาศาล เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ ในเมื่อเขาต้องการให้ทำก็ต้องทำแล้ว
เขาไม่เชื่ออีกต่อไปแล้ว ถ้าเขาไม่จ่ายเงินจริง ๆ เขาจะไม่ถูกเหล่าหวางฟ้องเอาได้
คนแบบนี้มี ถ่าคุณใจแข็งจริง งั้นเขาก็จะคืนให้ แต่ถ้าคุณอ่อนแอหรือใจอ่อน ก็อย่าคิดเลยว่าจะได้คือแม้แต่แดงเดียว
ทำใบแจ้งนี้ เซ็นชื่อ และพิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อย
ฉินจุนถือใบแจ้งหนี้ไว้ พร้อมโอนเงินให้เขา 500,000 หยวน
เมื่อไดรักเงินจำนวนห้าแสนแล้ว ครอบครัวของ จ้าวเจียนโหย่วก็ยิ้มออกมา
“โอเคเหล่าหวาง ขอบคุณมากเลยนะ ลูกเขยของคุณนี่ดีจริงๆเลย ต่อครอบครัวของเราจะต้องไปมาหาสู้กันมากขึ้นแล้ว!”
“วันนี้ฉันไม่กินข้าวบ้านคุณแล้วนะ ไว้เจอกันวันหลัง!”
หลังจากพูดจบ ครอบครัวของจ้าวเจียนโหย่วก็จากไปทันที
หลังจากที่พวกเขาจากไป ซูฮวนก็บ่นทันที
“ไอ่บ้าเอ้ย คุณคิดยังไง คุณกล้าที่จะตกลง ให้เขาไป500,000 ? คุณมีเงินไหม นั่นเป็นเงินของเสี่ยวฉินทั้งหมด! ถ้าเกิดพวกเขาไม่จ่ายเงิน คุณจะหา 500,000ได้จากที่ไหนเอามาคืนให้กับเสี่ยวฉิน!”
หวางอ้ายหมินก้มศีรษะลงและสูบบุหรี่ต่อไปและเขาทำได้เพียงทนต่อการถูกดุ อันที่จริง เขาก็ไม่สามารถจ่าย 500,000 หยวนได้หรอก
ถ้าจ้าวเจียนโหย่วไม่จ่ายเงิน 500,000 หยวนคืนละก็ต้องยอมรับว่ามันเป้นโชคร้ายและความล้มเหลวแล้ว
หวางอ้ายหมินรู้สึกเสียใจเล็กน้อยต่อ และรู้สึกเกรงใจฉินจุน
แค่เผชิญหน้าไม่ได้ หน้าบางเกินไปสุดท้ายก็โดนยืมเงินจนได้
ฉินจุนยิ้ม “ลุงหวางไม่จำเป็นต้องกดดันขนาดนั้นหรอกครับ ผมมีใบแจ้งหนี้อยู่ ถ้าพวกเขาไม่คืน ผมก็จะใช้ใบแจ้งหนี้ตัวนี้เอาคทนมาครับ”
หวังอ้ายหมินพยักหน้า “ใช่ ใช่ เรายังมีใบแจ้งหนี้อยู่ และเหล่าจ้าวเองก็ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น!”
“มาเถอะ พวกเรามากินข้าวกันก่อน วันนี้เสี่ยวฉินซื้อรถให้เราพวกเราดีใจและมีความสุขมาก มาดื่มกันเถอะ!”
……
ครอบครัวของหวังตงเสวี่ยดื่มกันอย่างมีความสุข และครอบครัวของจ้าวเจียนโหย่วก็มีความสุขมากเช่นกัน
ครอบครัวนี้ไปร้านอาหารระดับไฮเอนด์และยังเรียกเพื่อนสองสามคนมารับประทานอาหารทะเลร่วมกัน
พวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อนในหมู่บ้านที่มักออกไปเที่ยวกับจ้าวเจียนโหย่ว หลายคนสับสนเมื่อเห็นอาหารทะเลมากมายบนโต๊ะนี้
“เหล่าจ้าว คุ้ณเป็นอะไรไป รวยแล้ว?เลี้ยงอาหารดีๆพวกเราเยอะขนาดนี้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง