“ยัยหนู เธอคิดจะขายหรือไม่? จอกสุราปกติต้องมีเป็นคู่ ถ้าเธอมีครบคู่ ฉันจะเสนอราคาให้ถึงสองหมื่นห้าพันล้าน!”
เย่มู่มู่รู้สึกเจ็บปวดในใจ เธอไม่อยากให้จ้านเฉิงอิ้นต้องมาตายตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้
สองหมื่นห้าพันล้านเพียงพอที่จะเลี้ยงดูคนหนึ่งแสนคนได้
แต่สำหรับให้ทหารสองหมื่นนายของเขาเอาชนะกองทัพคนเถื่อนสามแสนนาย คงไม่เพียงพอแน่!
เย่มู่มู่กัดฟัน ก่อนจะหยิบจอกสุราอีกใบออกมา
“ฉันมีสองใบ สองหมื่นห้าพันล้านน้อยเกินไป!”
เมื่อผู้อาวุโสมู่มองเห็นว่าเย่มู่มู่มีจอกสุราครบทั้งสองใบจริง ๆ เขาก็ดีใจมากจนทำแว่นตาหลุด
มือที่สั่นเทาของเขารีบหยิบจอกขึ้นมา ตรวจสอบด้วยแว่นขยาย
เขาตื่นเต้นจนริมฝีปากสั่นระริก “ใช่แล้ว ใช่เลย! นี่คือจอกสุราคู่ที่สภาพสมบูรณ์ และยังคงงดงามเป็นอย่างยิ่ง!”
“เธอต้องการเท่าไหร่?”
เย่มู่มู่ตอบว่า “ฉันต้องการเงินสด และราคาต้องถึงขีดสูงสุด”
ผู้อาวุโสมู่เบิกตากว้าง “เธอต้องการสามหมื่นล้านเหรอ?”
เย่มู่มู่พยักหน้า
เขาเริ่มลังเลแล้ว!
เมื่อเย่มู่มู่เห็นเช่นนั้น ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง “ถ้าคุณไม่มีปัญญาจ่าย ฉันไปถามร้านข้าง ๆ ก็ได้!”
เธอลุกขึ้นเตรียมเก็บจอกสุราคืน
แต่ผู้อาวุโสมู่รีบยกมือขึ้นห้ามเธอ “เดี๋ยวก่อน ฉันไม่มีเงินสดมากขนาดนั้นจริง ๆ แต่ขอเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ฉันจะเรียกคนมารวมเงินซื้อ”
เย่มู่มู่จึงนั่งลงอีกครั้ง
หากเอาเงินสดมาได้ การรอครึ่งชั่วโมงก็ถือว่าคุ้มค่า
เพราะสามหมื่นล้านไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ!
หลังจากนั้นไม่นาน ชายคนหนึ่งสวมแว่นตาทองคำและถือกระเป๋าเอกสารเดินขึ้นมาด้วยท่าทางรีบร้อน
ผู้อาวุโสมู่พาชายคนนั้นไปชั้นบนพร้อมกับจอกสุรา เพื่อผ่านเครื่องตรวจสอบเพื่อยืนยันอายุของวัตถุ
เย่มู่มู่เหลือบมองรถจากพิพิธภัณฑ์ระดับมณฑลที่จอดอยู่หน้าร้าน
หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที ชายสองคนก็ลงมาจากชั้นบน
รองผู้อำนวยการจางที่สวมแว่นตาทองคำ มองเย่มู่มู่ด้วยความตื่นเต้นอย่างยิ่ง “คุณยังมีจอกสุราอีกหนึ่งใบใช่ไหม?”
เธอจึงหยิบจอกสุราอีกใบออกมาวางบนโต๊ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ