ตอนที่ 7 ลองดูสักตั้ง
“นายเพ้อเจ้ออะไร ที่ตรงนี้ไม่ต้องการนาย รีบไสหัวออกไปเลย...” ซูอวี่ฉีเกรงว่าเฉินผิงจะรบกวนการรักษาของคุณหมอซุน จึงตะคอกด้วยอารมณ์ “ได้ คุณเป็นคนไล่ผมเองนะ ผมจะออกไปนั่งที่ทางเดินด้านนอก ไม่เกินห้านาที คุณจะต้องขอร้องให้ผมกลับเข้ามา” เมื่อพูดจบ เฉินผิงก็เปิดประตูห้องวีไอพีเดินออกไป ไม่มีใครสนใจเฉินผิงที่เดินออกไป คุณหมอซุนเริ่มฝังเข็มให้ซูเหวินจงอย่างระมัดระวัง ไม่นานนัก คุณหมอซุนก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ! เมื่อเข็มเล่มสุดท้ายถูกฝังลงไป ซูเหวินจงก็เริ่มรู้สึกตัวและค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ! “พ่อ พ่อฟื้นแล้ว คุณหมอซุน พ่อฉันฟื้นแล้ว ดีจริงๆ...” เมื่อเห็นว่าซูเหวินจงรู้สึกตัวแล้ว ซูอวี่ฉีดีใจจนร้องตะโกนออกมา ดวงตาของเธอชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำตา เมื่อครู่นี้เธอกลัวมาก กลัวว่าพ่อของเธอจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก คุณหมอซุนถอนหายใจยาวๆ ด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นซูเหวินจงฟื้นขึ้นมา อันที่จริงเขาเองก็ไม่ได้มั่นใจเท่าไรนัก! แต่ในขณะที่ซูอวี่ฉีและคุณหมอซุนกำลังโล่งอกโล่งใจอยู่นั้น ซูเหวินจงที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว กลับกระตุกชักอย่างรุนแรง สีหน้าท่าทางของเขาเจ็บปวดและทรมานมาก แล้วใบหน้าทั้งใบก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม! “พ่อ...พ่อ...” ซูอวี่ฉีร้องตะโกนเสียงดัง เธอรีบเอ่ยถามคุณหมอซุนด้วยความร้อนใจ “คุณหมอซุนคะ เกิดอะไรขึ้น” ในเวลานี้ คุณหมอซุนก็รู้สึกตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน “ผม...ผมก็ไม่รู้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ...” “คุณถามใครล่ะ คุณเป็นหมอนะ!” ซูอวี่ฉีร้อนใจแล้ว เธอตะคอกใส่คุณหมอซุน ขณะนี้ อาการชักของซูเหวินจงเริ่มค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งแน่นิ่งไปในที่สุด แม้แต่ลมหายใจก็หยุดนิ่ง คราวนี้ ความตื่นตระหนกของคุณหมอซุนยิ่งเพิ่มทวี หากซูเหวินจงเป็นอะไรไป เขาจะต้องซวยแน่ๆ “พ่อ อย่าทำให้หนูกลัวสิคะ อย่าทำให้หนูกลัวสิ...” ซูอวี่ฉีร้องไห้ออกมาแล้ว “คุณหนูซู พวกเราส่งประธานซูไปโรงพยาบาลเถอะครับ ผมจนปัญญาแล้ว!” คุณหมอซุนพูดด้วยสีหน้าวิตกกังวล สาเหตุที่เขาตัดสินใจให้ส่งซูเหวินจงไปโรงพยาบาลในเวลานี้ ก็เพื่อหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ หากซูเหวินจงเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแล้ว “คุณคิดว่าฉันโง่เหรอ สถานการณ์ของพ่อในตอนนี้ จะทนไปถึงโรงพยาบาลได้หรือ คุณรีบช่วยพ่อเดี๋ยวนี้เลย ถ้าคุณช่วยชีวิตพ่อไม่ได้ คุณก็อย่าคิดจะมีชีวิตรอด...” เวลานี้ สติของซูอวี่ฉีขาดผึงไปแล้ว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ตระกูลซูเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของหงเฉิง หากคิดจะจัดการกับหมอตัวเล็กๆ สักคน มันก็เรื่องง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก นาทีนี้ คุณหมอซุนตกใจจนขวัญกระเจิงไปหมดแล้ว เขาเองก็หมดหนทาง และจู่ๆ ในขณะที่กำลังวิตกกังวลอยู่นั้นก็นึกถึงเฉินผิงขึ้นมาได้ จึงรีบร้อนเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณหนูซูครับ เด็กหนุ่มที่เพิ่งเดินออกไปคนนั้น ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีวิธีรักษา ผมว่าเขาน่าจะมีความสามารถพอตัวเลย!” เมื่อคุณหมอซุนพูดถึง ซูอวี่ฉีจึงนึกถึงเฉินผิงขึ้นมาได้ ทว่า เมื่อสักครู่นี้คุณหมอซุนเพิ่งจะดูถูกเฉินผิงไป แต่ในเวลานี้กลับเอ่ยชมเขา ไม่มีอะไรนอกไปจากต้องการให้เฉินผิงมารับผิดชอบแทนเขาเท่านั้นเอง! ขอเพียงเฉินผิงลงมือการรักษา แล้วหากซูเหวินจงเสียชีวิตลง ความรับผิดชอบก็จะถูกปัดพ้นไปจากตัวของเขา แต่กลับไปตกอยู่ที่เฉินผิงแต่เพียงผู้เดียว ซูอวี่ฉีลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอประคองให้ซูเหวินจงนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไป! เวลานี้ เฉินผิงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงโถงทางเดิน เขารู้ว่า ซูอวี่ฉีจะต้องออกมาหาเขา เมื่อเห็นว่าเฉินผิงยังอยู่ ซูอวี่ฉีจึงรีบวิ่งไปหาเขา แต่เมื่อจะอ้าปาก กลับนึกขึ้นได้ว่า แม้แต่ชื่อของเฉินผิง เธอก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ “ได้โปรด ได้โปรดช่วยพ่อของฉันด้วย...” ซูอวี่ฉีขอร้องเฉินผิงด้วยสีหน้าลำบากใจ เฉินผิงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองซูอวี่ฉี แต่ซูอวี่ฉีไม่กล้าสบตาเขา ก็เมื่อครู่เธอเพิ่งจะใส่อารมณ์กับเขา แล้วตอนนี้กลับมาขอร้องเขา! “คุณเชื่อว่าผมจะช่วยพ่อของคุณได้หรือ เชื่อว่าผมไม่ใช่พวกหลอกลวงแล้วใช่ไหม?” เฉินผิงเอ่ยถาม ซูอวี่ฉีนิ่งเงียบ เธอไม่รู้ว่าเธอควรตอบยังไง เนื่องจากในเวลานี้ ซูอวี่ฉีก็ไม่ได้เชื่อใจเฉินผิงร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่เธออับจนหนทางแล้ว เธอแค่ต้องการพยายามให้ถึงที่สุด แม้ความหวังจะริบหรี่ก็ตาม! เฉินผิงฉีกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของซูอวี่ฉี เขาไม่ต้องการทำให้เธอลำบากใจอีก จึงลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้อง ซูอวี่ฉีรีบเดินตามเขาเข้าไป คุณหมอซุนที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อกำลังเดินไปมาอยู่ภายในห้องด้วยความกระวนกระวายใจ! เมื่อเห็นเฉินผิง เขารู้สึกราวกับเห็นพระมาโปรด ไม่ว่าเฉินผิงจะรักษาซูเหวินจงได้หรือไม่ ขอเพียงแค่เฉินผิงลงมือ ความรับผิดชอบก็จะถูกปัดพ้นไปจากตัวเขาทันที “น้องชาย เมื่อกี้นี้ผมไม่ดีเอง ได้โปรดช่วยประธานซูด้วย!” คุณหมอซุนลดทอนอีโก้ลง เขาเอ่ยขอร้องเฉินผิง หากเทียบกับชีวิตของตนและครอบครัวแล้ว พูดจาดีแค่ไม่กี่คำ มันจะเป็นไรไป! เฉินผิงเหลือบมองซูเหวินจง เขาพูดพลางถอนหายใจเบาๆ “ดูแล้ว ผมคงต้องลองดูสักตั้ง...” เฉินผิงพูดจบ ก็หันไปถามคุณหมอซุน “คุณยังมีเข็มอีกไหม” “มีครับ อยู่ในกล่องยา!” คุณหมอซุนรีบร้อนหยิบห่อเข็มยื่นให้เฉินผิง “ไม่พอ!” เฉินผิงส่ายศีรษะ “ไม่พอหรือ” คุณหมอซุนตกตะลึง “ในห่อนี้มีเข็มมากกว่าสามสิบเล่ม ยังไม่พออีกหรือ” โดยปกติ การฝังเข็มโดยใช้เข็มสิบกว่าเล่มก็ถือว่าน่าทึ่งมากแล้ว แม้แต่โจวจี้หมิน ประธานสมาคมแพทย์แผนจีน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นหมอเทวดา ยังสามารถใช้เข็มได้เพียงยี่สิบกว่าเล่มเท่านั้น ดังนั้นเข็มสามสิบกว่าเล่มก็ควรจะเพียงพอแล้ว! “ไม่พอ ผมต้องการเข็มจำนวนมาก!” เฉินผิงกล่าว “ต้องการเท่าไร” คุณหมอซุนถามออกไปอย่างระมัดระวัง “เก้า เก้า แปดสิบเอ็ดเล่ม!” เมื่อเฉินผิงเปล่งคำพูดออกมา คุณหมอซุนถึงตกใจและนิ่งอึ้งไป! เพียงครู่เดียว ความตื่นตระหนกผุดในดวงตาของคุณหมอซุน แต่ทว่า เขานิ่งเงียบและหยิบเข็มทั้งหมดออกมาจากกล่องยา! เฉินผิงรับเข็มมา แล้วจึงจัดแจงให้ซูเหวินจงนอนราบไปกับพื้น จากนั้นมือของเขาค่อยๆ โบกสะบัดเข็มฝังเข้าไปในร่างกายของซูเหวินจงอย่างต่อเนื่อง เฉินผิงเริ่มมีเหงื่อซึมออกมาที่หน้าผาก เสื้อผ้าก็เริ่มเปียกแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาได้ใช้พลังไปอย่างมาก! เมื่อเข็มเล่มสุดท้ายถูกฝังเข้าไปในร่างกายของซูเหวินจงแล้ว เฉินผิงจึงถอนหายใจออกมายาวๆ ด้วยความโล่งอก คนทั้งคนแทบจะทรุดล้มลง เขาหมดแรงทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น ช่วงเวลานี้ ซูอวี่ฉีเฝ้าดูด้วยความกังวลใจ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการฝังเข็มเลย เธอต้องการจะเอ่ยถาม แต่ก็กลัวจะรบกวนเฉินผิง ส่วนคุณหมอซุนนั้นตกอยู่ในอาการตะลึงค้างอยู่นานแล้ว เขาอ้าปากหวอ กว้างพอจะยัดไข่เข้าไปได้ทั้งฟอง ผ่านไปสักพัก ความตื่นตะลึงแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้น คุณหมอซุนคุกเข่าลงเสียงดังตึงตรงหน้าเฉินผิง! อากัปกิริยาฉับพลันของคุณหมอซุน ทำให้เฉินผิงและซูอวี่ฉีตกใจ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประกาศิตราชามังกร
เมื่อไหร่จะต่อครับ...