ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 113

“ฉัน...”

“มู่ซย่า ต่อหน้าฉัน เธอไม่จำเป็นต้องเสแสร้งทำตัวเป็นเข้มแข็ง” เยี่ยซือเจวี๋ยที่กำลังพูดอยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองพูดมากเกินไป เหมือนไม่ใช่ตัวเขา จึงรีบพูดเสริมทันที “อยู่ต่อหน้าฉัน เธอเสแสร้งไปก็เท่านั้น ไม่มีใครเสแสร้งแกล้งทำแล้วสามารถหลบสายตาของฉันไปได้หรอก ดังนั้นเธอเก็บแรงไว้เถอะ”

มู่ซย่าเมื่อครู่นี้เธอยังรู้สึกซึ้งใจต่อเยี่ยซือเจวี๋ยขึ้นมานิดหน่อย แต่ตอนนี้สีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ขอบคุณที่ช่วยฉันเก็บแรง แต่ว่าฉันไม่เสียใจจริงๆ”

แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เผยด้านที่อ่อนแอให้คนอื่นเห็น

เยี่ยซือเจวี๋ยมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งเล็กน้อย อยู่ ๆ ในใจก็หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

เขาที่กำลังจะพูด แต่อยู่ ๆ ประตูห้องก็โดนเคาะขึ้นอีกครั้ง

ชู่” เยี่ยซือเจวี๋ยทำท่าทางให้เงียบเสียง

มู่ซย่ารู้งาน รีบหลบเข้าไปในห้องนอน

แต่พอเธอเพิ่งผ่านประตูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงของเยี่ยซือเจวี๋ยเอ่ย “ออกมาเถอะ คนของฉัน”

มุ่ซย่ารีบผลักประตูเดินกลับไปยังห้องรับแขก เห็นเพียงแต่ชายหนุ่มใส่แว่นตาที่ก่อนหน้านั้นเธอเคยเจอที่ตระกูลจวินกำลังยืนอยู่ที่ห้องรับแขก ในมือถือกระดาษทิชชูที่ห่อเส้นผมของซือถูไห่ไว้

ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดมเล็กน้อย ย่นจมูกถาม “ทำไมถึงมีกลิ่น?”

สีหน้าของมู่ซย่าร้อนขึ้นมา เธอใส่ไว้ในใต้รองเท้า แน่นอนว่าต้องมีกลิ่นอยู่ไม่มากก็น้อย

ในขณะที่เธออึดอัดไม่รู้จะอธิบายยังไงนั้น เยี่ยซือเจวี๋ยก็เอ่ยออกมาเสียงเรียบ “นายจะรักสะอาดมากเกินไปแล้ว ฉันแค่ถืออยู่ในมือไม่กี่นาทีเท่านั้น ถ้าหากมีกลิ่น...น่าจะเป็นกลิ่นหอมของร่างกายฉันแล้วล่ะ”

มู่ซย่านิ่งชะงัก “...”

หลัวอี้ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรอีก นำห่อกระดาษเก็บลงในกระเป๋าเสื้อ จากนั้นสายตาของเขาก็มองไปยังร่างของมู่ซย่า หยุดมองอยู่หลายวินาที แล้วเขาก็มองไปยังเยี่ยซือเจวี๋ยที่พันแต่ผ้าขนหนูไว้ ดวงตาเกิดความประหลาดใจเล็กน้อย

“พวกเธอนี่...?”

“มีเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย จำเป็นต้องปิดบังบางคน

“เห็นทีคงเป็นคุณหนูท่านนี้ที่ต้องการตรวจ DNA” หลัวอี้ยื่นมือไปหามู่ซย่า “ต้องให้เส้นผมของคุณผมมาเส้นหนึ่งด้วย”

มู่ซย่ารีบดึงเส้นผมของตัวเองแล้วยื่นให้หลัวอี้ทันที

หลัวอี้ดึงกระดาษออกมาห่อเส้นผมไว้ จากนั้นมองไปยังเยี่ยซือเจวี๋ย “เจ้าหนุ่มที่โรงพยาบาลนั่น..ลองรักษาทุกวิถีทางแล้ว แต่ไม่ได้ผล หมอบอกว่าเป็นภาวะความเครียดหลังได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงของเขา รักษาค่อนข้างลำบาก อย่างน้อยต้องใช้เวลาเป็นปี”

“หนึ่งปี?” เยี่ยซือเจวี๋ยคิ้วขมวดขึ้นมาทันที “นานเกินไป พวกเรารอนานขนาดนั้นไม่ได้”

ในขณะนั้นเอง มู่ซย่าที่ยืนอยู่ด้านข้างเดินก้าวเข้ามาถาม “โรคเครียดหลังได้รับบาดเจ็บ?”

อยู่ ๆ มู่ซย่าพูดแทรกขึ้นมาทำให้หลัวอี้ดันแว่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

สำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ

เพียงแต่มู่ซย่าเป็นเพื่อนของเยี่ยซือเจวี๋ย อีกทั้งเขายังอดทนกับเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่น

แต่เป็นเพราะวันนี้ชายหนุ่มมีปากมีเสียงกับเด็กหนุ่มอีกสองคนที่โรงพยาบาลหลายครั้งเพราะเรื่องของมู่ซย่า ทำให้เขาหงุดหงิดจนปวดหัว ดังนั้นเขาเริ่มที่จะไม่มีความอดทนกับมู่ซย่าเล็กน้อย

“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเรา คุณหนูมู่อย่าได้มา...”

คำพูดของหลัวอี้เพิ่งพูดไปเพียงครึ่งประโยค ก็โดนเยี่ยซือเจวี๋ยยกมือขึ้นตัดบท

หลัวอี้ไม่ค่อยเข้าใจ ดังนั้นจึงได้แต่ฟังเยี่ยซือเจวี๋ยที่หันไปถามมู่ซย่า “เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับโรคเครียดหลังจากได้รับบาดเจ็บหรือ?”

มู่ซย่าผงกศีรษะ “โรคเครียดหลังจากได้บาดเจ็บหรือเรียกอีกอย่างว่า PTSD ฉันมีเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศอยู่คนหนึ่ง พูดให้ถูกก็คือคู่สามีภรรยา พวกเขาวิจัยเรื่องนี้มาโดยตลอด พวกเขาอยากใช้แพทย์แผนจีนมารักษาด้านนี้ ปกติมีเวลาว่าง ฉันก็เรียนกับพวกเขา เลยรู้มาบ้างนิดหน่อย”

หลัวอี้ถามด้วยความตะลึง “นี่เป็นโรคทางประสาท ใช้การรักษาแบบแพทย์แผนจีน? คุณกำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!