ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 137

มู่ซย่าถามด้วยความไม่เข้าใจ “พ่อคะ พ่อบอกจะถ่ายทำเป็นเพื่อนหนูไม่ใช่เหรอ ไม่เข้ามาเหรอคะ”

ซือถูไห่ไอแห้ง พูดว่า “ทีมงานของพวกลูกเป็นมืออาชีพมาก พ่อไม่เข้าไปยุ่งดีกว่า ฉันไปดูทางน้าของลูกดีกว่า เธอยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่ พ่อกลัวว่าเธอจะทำคนเดียวไม่ไหว ลูกถ่ายทำเสร็จก็โทรมาหาพ่อนะ พ่อจะเลี้ยงข้าวทีมงานของพวกลูก”

มู่ซย่าเข้าใจทันที คงจะเป็นเพราะคำพูดของเธอก่อนหน้า ทำให้ซือถูไห่เกิดระแวงมู่ซินเย่ว์ขึ้นมา

นี่เป็นเรื่องที่ดี เธอจะได้ถือโอกาสนี้ไปดูห้องลับในห้องทำงานของแม่เมื่อก่อนว่าถูกพบหรือยัง

เธอเผยยิ้มแล้วพูดว่า “ได้ค่ะ งั้นพ่อทำงานก่อนเลยค่ะ หนูถ่ายเสร็จแล้วจะไปหานะคะ”

“ได้ งั้นลูกตั้งใจถ่ายทำนะ พ่อไปก่อน” ซือถูไห่พูด จากนั้นก็รีบหันหลังแล้วจากไป

ดูออกเลยว่า เขานี่ไม่เชื่อใจใครเลยจริงๆ ปากก็พูดว่าเป็นภรรยาที่คู่เคียงเรียงหมอนกัน แต่กลับเกิดความสงสัยเพียงเพราะคำพูดเดียวของเธอ

คนที่จิตใจไม่แน่วแน่แบบนี้ โจมตีได้ง่ายมาก แต่ในขณะเดียวกันก็โจมตีได้ยาก จะเผยเบาะแสอะไรต่อหน้าเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นก็จะถูกสงสัยอย่างแน่นอน

รอยยิ้มของมู่ซย่าค้างอยู่แบบนั้นจนมองไม่เห็นแผ่นหลังของซือถูไห่ จากนั้นถึงถอยเข้าลิฟต์ แล้วให้ประตูลิฟต์ปิดลงอย่างช้าๆ

ผู้ช่วยไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่ลึกซึ้งลุ่มลึกของมู่ซย่า แกล้งถามอุบไว้ว่า “คุณซานซาน คุณจำข้อความที่ฉันส่งหาคุณได้ไหม วันนี้มีคนดูแลคนใหม่มาเลยนะ คุณอยากรู้ไหมว่าเป็นใคร”

มู่ซย่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ผ่านไปหลายวิถึงได้เอ่ยปากถาม “ใคร”

สำหรับเธอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอแค่อย่าส่งผลกระทบต่อการถ่ายทำของเธอก็พอ

ผู้ช่วยส่งยิ้ม ‘แหะแหะ’ กำลังจะเอ่ยปากพูด ก็ถึงชั้นสูงสุดแล้ว ประตูเปิดออกโดยอัตโนมัติ แล้วมีคนที่รูปร่างสูงโปร่งยืนอยู่ข้างนอกพอดี

ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์มีนัยน์ตาที่คมลึก ใบหน้าหล่อเหลา จมูกโด่ง รูปหน้ามีมิติ หน้าตาโดดเด่นอย่างมาก

ไม่ใช่เยี่ยซือเจวี๋ยแล้วจะเป็นใครไปได้

พอมู่ซย่าเงยหน้าก็เห็นเยี่ยซือเจวี๋ยยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์ เธออึ้งไป จากนั้นก็นึกถึงคำที่ผู้ช่วยพูดไว้ หันไปมองผู้ช่วยด้วยความตะลึง

ผู้ช่วยยิ้ม ‘แหะแหะ’ แล้วพูดว่า “คุณซานซาน คุณชายเยี่ยก็คือผู้ดูแลการถ่ายทำหลักนะ!”

มู่ซย่ารู้สึกตะลึง

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ดูแลหลักจะเป็นเยี่ยซือเจวี๋ย ในที่เป็นท่านประธานของเยี่ยซื่อกรุ๊ป เขาว่างขนาดนี้เลยเหรอ

ตอนแรกเยี่ยซือเจวี๋ยเตรียมจะลงไปรับมู่ซย่า พอเห็นมู่ซย่าขึ้นมาแล้วจึงเดินถอยไปก้าวหนึ่ง แล้วมองไปที่ผู้ช่วย

ผู้ช่วยนั้นมีสมาธิไม่เหม่อลอย จากไปก่อนอย่างรู้งาน

มู่ซย่ามองแผ่นหลังของผู้ช่วยที่วิ่งหายลับไป จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมนายถึงมาเป็นผู้ดูแลหลัก ทางบริษัทไม่มีงานอะไรต้องทำเหรอ”

เยี่ยซือเจวี๋ยพูดอย่างเรียบๆ “แค่ดูแลงานถ่ายทำงานเดียวเอง ใช้เวลาไม่มากหรอก อีกอย่างอยู่ทางนี้ก็จัดการงานที่บริษัทได้ ว่าแต่เธอเถอะ ฉันจริงจังกับโครงการนี้มากนะ เธอที่เป็นพรีเซนเตอร์อย่าถ่วงแข้งถ่วงขาฉันหล่ะ”

เมื่อกี้มู่ซย่าเกือบจะคิดว่าที่เยี่ยซือเจวี๋ยมาเป็นผู้ดูแลงานถ่ายทำก็เพราะเธอ พอได้ยินเยี่ยซือเจวี๋ยพูดแบบนี้ เธอเบะปากขึ้นมาทันที

โอเค เธอก็รู้อยู่แล้วว่าคิดอะไรมากไม่ได้ ดีนะที่เธอดูออกตั้งนานแล้วว่าเยี่ยซือเจวี๋ยไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลย ไม่อย่างนั้นเธอก็จะคิดจริงๆ แล้วว่าเยี่ยซือเจวี๋ยคิดอะไรกับแน่ๆ

มู่ซย่าเบะปากแล้วพูดเรียบๆ ว่า “วางใจได้ ฉันไม่ถ่วงแข้งถ่วงขานายแน่นอน ไปกันเถอะ ฉันเริ่มถ่ายทำได้แล้ว”

ช่วงเช้าเธอลาหยุดไป ดังนั้นช่วงบ่ายก็ต้องถ่ายทำงานของช่วงเช้าให้เสร็จด้วย

แต่ผู้หญิงที่ชอบหาเรื่องคนนั้นไม่อยู่ ถ่ายทำงานของช่วงเช้าให้เสร็จก็คงจะยังมีเวลาอยู่

ทั้งสองคนคนหนึ่งนำหน้าคนหนึ่งตามหลัง แล้วเดินไปทางห้องทำงานท่านประธานพร้อมกัน

ตอนที่มู่ซย่าเดินผ่านห้องทำงานห้องหนึ่ง ได้ยินเสียงของเด็กๆ ที่เล่นกันดังมาจากข้างใน

เธอจึงได้หยุดเดิน แล้วถามพนักงานที่เดินผ่านไปว่า “ทำไมข้างในถึงมีเด็กด้วย”

พนักงานยิ้มแล้วตอบว่า “นี่เป็นธรรมเนียมของบริษัทของเราค่ะ พนักงานที่มีลูกอยู่ที่บ้านสามารถพาเด็กมาที่ห้องเด็กเล็กได้ ข้างในมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล พวกเขาก็จะสามารถตั้งใจทำงานได้อย่างเต็มที่”

มู่ซย่าพยักหน้า รอหลังรกที่พนักงานไปแล้ว ก็พูดกับเยี่ยซือเจวี๋ยด้วยความแปลกใจว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าพ่อคนนั้นของฉัน…ก็มีมนุษยธรรมกับพนักงานเหมือนกัน”

“มนุษยธรรม?” เยี่ยซือเจวี๋ยยิ้มเสียงต่ำ เหมือนได้ยินคำพูดที่ตลกมาก

มู่ซย่าถามด้วยอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอ นายยิ้มอะไร ฉันพูดผิดเหรอ พนักงานหญิงบางคนหลังจากที่มีลูกแล้ว ก็หางานได้ยากมาก เขายอมที่จะรับพวกเขาไว้ แถมยังสร้างห้องเด็กเล็กขึ้นมาโดยเฉพาะ นี่ไม่ใช่มนุษยธรรมเหรอ”

เยี่ยซือเจวี๋ยส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดว่า “เธอไม่เข้าใจรายละเอียด ถึงได้คิดแบบนี้ จริงที่ซือถูไห่รับพวกเขาไว้ แต่เงินเดือนที่ให้พวกเขานั้นกลับเป็นเงินเดือนพาร์ทไทม์ แต่งานที่พวกเขาต้องทำนั้นกลับมากกว่าพนักงานที่ทำเต็มเวลาสักอีก นี่ไม่ใช่มนุษยธรรม แต่เป็นการขูดรีด อีกอย่าง เธอคิดจริงๆ เหรอว่าสภาพแวดล้อมห้องเด็กเล็กที่บริษัทจะดี”

พอมู่ซย่าได้ยินแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปผลักประตูห้องเด็กเล็กออก

พอประตูเปิดออก กลิ่นเหม็นขี้และฉี่ก็ลอยออกมา

เด็กบางคนในนั้นก็เล่นอยู่ แต่เด็กส่วนใหญ่กำลังร้องไห้ ส่วน ‘เจ้าหน้าที่’ ที่ว่าเป็นคนดูแลเด็กๆ กลับนั่งเล่นโทรศัพท์อย่างสบายใจอยู่ข้างๆ

มู่ซย่าเงียบขึ้นมาทันที

ถูกแล้ว นี่ไม่ใช่มนุษยธรรม แต่เป็นการขูดรีด

ซย่ารู้สึกแปลกใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้ว่ามันสมเหตุสมผลดี เพราะนี่ก็เป็นเรื่องที่ซือถูไห่จะทำจริงๆ

ใช้วิธีแบบนี้ในการรับสมัครพนักงานได้ เห็นได้ชัดเลยว่าคนคนนี้มันเห็นแก่ตัวและเยือกเย็นถึงสุดขีด

อยู่ๆ ในใจของมู่ซย่าก็เกิดความคิดอย่างแน่วแน่ว่าจะทำให้ซือถูกรุ๊ปกลับไปเป็นมู่ซื่อกรุ๊ปอีกครั้งหนึ่ง

ไม่ว่าการตายของแม่จะเกี่ยวข้องกับซือถูไห่ไหม แต่การที่ซือถูไห่ช่วงชิงมู่ซื่อกรุ๊ปที่แม่สร้างมาจนเติบใหญ่ด้วยมือของแม่เองนั้นก็เป็นความจริงที่ไม่อาจเถียงได้

เธอจะต้องช่วงชิงซือถูกรุ๊ปมาให้ได้!

“ไปกันเถอะ” มู่ซย่าทำสีหน้าเรียบเฉย แล้วเดินไปทางห้องท่านประธาน

เยี่ยซือเจวี๋ยไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ สีหน้าของมู่ซย่าถึงเปลี่ยนไป แต่รู้ว่าจะต้องเกี่ยวกับซือถูไห่แน่นอน

เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก “ถ้าเธอขอร้องฉัน ไม่แน่ว่าตอนที่ฉันอารมณ์ดีจะช่วยจัดการซือถูไห่ให้เธอ”

“ไม่จำเป็น เรื่องแบบนี้ ฉันทำเองดีกว่า”

มู่ซย่ารู้ว่าเยี่ยซือเจวี๋ยใจดี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วผลักประตูห้องท่านประธานออก

ห้องท่านประธานอยู่ห้องสุดท้ายของทางเดิน พื้นที่กว้างใหญ่มาก มีแสงส่องสว่างและเป็นระเบียบ มีต้นไม้สีเขียวสดใส เมื่อเทียบกับห้องเด็กเล็กที่ทั้งสกปรกและเหม็น ราวกับว่าเป็นสองโลกกันเลย

ผู้ช่วยเห็นมู่ซย่าเดินเข้ามา จึงวิ่งเข้าไปแล้วพูดว่า “ คุณซานซาน อุปกรณ์การถ่ายทำจัดตั้งเสร็จแล้ว คุณไปเปลี่ยนชุดกับฉันเถอะ จัดเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว”

มู่ซย่าพยักหน้า แล้วตามผู้ช่วยไปเปลี่ยนชุดและแต่งหน้า

ผู้กำกับการถ่ายทำมองแผ่นหลังจองมู่ซย่า อดไม่ได้ที่จะพูดกับเยี่ยซือเจวี๋ยด้วยความกังวลว่า “คุณชายเยี่ย คุณซานซานจะว่าสวยก็สวย แต่แสดงเป็นท่านประธานหญิง…ไม่รู้ว่าจะขาดพลังบางอย่างไปไหมนะ”

“พลัง?”

ผู้กำกับพยักหน้าแล้วพูด “ก็แบบที่พูดกันบนโซเชี่ยลมีเดีย…ความรู้สึกเท่ ผมเห็นว่าหน้าตาเธอเอียงไปทางน่ารักเรียบร้อยมากกว่า อาจจะถ่ายพลังแบบนั้นออกมาไม่ได้ ถ้าหากไม่สามารถรับมือได้ ไม่แน่ว่าโฆษณานี้จะมีผลกระทบที่ไม่ดี สู้หาคนที่มีอารมณ์ท่านประธานหญิงมาถ่ายทำส่วนนี้จะไม่ดีกว่าเหรอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!