ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 279

เยี่ยซือเจวี๋ยที่มีดวงตาสีดำราวกับหินภูเขาไฟมาตั้งแต่เกิด เมื่ออยู่ใต้แสงแดดก็ยิ่งทำให้ดูลึกล้ำและแวววาวมากขึ้น

มู่ซย่ารู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

เธอกระแอมไอ ใช้การพูดเล่นมากลบเกลื่อนอารมณ์ประหลาดในใจ “ ฉันรู้ว่าคุณรวย ฉันแต่งงานกับชายโสดอายุมากที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมยังไงล่ะ ”

แต่แล้วเยี่ยซือเจวี๋ยกลับจับประเด็นสำคัญผิด ขมวดคิ้วมุ่น “ อายุมาก ฉันแก่กว่าเธอแค่สามปีเองนะ ”

มู่ซย่าเห็นเขาหัวเสียกับเรื่องอายุเป็นพิเศษ จึงพูดยิ้มๆว่า “ ห่างกันสามปีมุมมองความคิดก็ต่างกันไม่รู้หรือไง ”

คิ้วของเยี่ยซือเจวี๋ยค่อยๆขมวดขึ้นมา เกิดรอยย่นสามเส้นกลางหน้าผาก เห็นได้ชัดว่าคิดจริงจังกับเรื่องล้อเล่นของมู่ซย่าซะแล้ว

มู่ซย่าพูดอย่างรู้สึกจนใจว่า “ ฉันแค่ล้อคุณเล่น คุณนี่มันล้อเล่นไม่ได้เลยนะ...... ”

ก่อนหน้านี้เธอพูดคำว่า ” มอบให้ทั้งชีวิต ” เยี่ยซือเจวี๋ยก็เอาแต่พูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้มีคำว่า ” ห่างกันสามปีมุมมองความคิดย่อมต่างกัน ”เพิ่มขึ้นมา เธอเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า เยี่ยซือเจวี๋ยก็คือคนขวานผ่าซากคนหนึ่ง อย่าได้ล้อเล่นใดๆกับเขาเด็ดขาด

ปรากฏว่า หลังจากได้ฟังคำอธิบายของมู่ซย่าแล้วคิ้วที่ขมวดแน่นของเยี่ยซือเจวี๋ยก็ยังไม่คลายออก

ได้ยินเยี่ยซือเจวี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจว่า “ เธอไปรอฉันที่รถเถอะ ฉันจะไปเอาเสื้อเธอมาให้ ”

ว่าแล้ว เขาก็หมุนตัวเดินเข้าไปข้างใน

“ นี่...... ”มู่ซย่าเรียกเขา แต่เยี่ยซือเจวี๋ยก็ไม่หันกลับมา ไม่รู้ว่าไม่ได้ยินจริงๆหรือว่าแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินกันแน่

มู่ซย่าส่ายหน้าอย่างกลุ้มใจ

นี่โกรธกันจริงๆแล้วเหรอ ขนาดนั้นเชียว

แล้วจะง้อยังไง เธอไม่เคยง้อผู้ชายซะด้วย

ขณะที่มู่ซย่ากำลังรู้สึกกลุ้มใจ ทันใดนั้นเธอก็เห็นรถคันหนึ่งจอดลงที่ข้างถนน คนที่ลงมาจากรถทั้งหมดเธอคุ้นตาเป็นอย่างดี

นี่มันสวี่ซิงซิงกับมู่เฉินเหล่ยไม่ใช่เหรอ

มือของสวี่ซิงซิงถูกบอดี้การ์ดจับมัดเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการถูกบังคับมาที่สำนักงานกรมกิจการพลเมือง

สวี่ซิงซิงกับมู่เฉินเหล่ยมาทำอะไรที่นี่

เห็นได้ชัดมาก แต่งงานไงล่ะ

ตอนที่สวี่ซิงซิงวานแผนทำร้ายเธอคงคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าไม่เพียงแต่ทำลายเธอไม่ได้ กลับยังผลักตัวเองเข้าไปในหุบเหว

ด้วยนิสัยของสวี่ซิงซิง แม้จะถูกบังคับให้แต่งงานกับมู่เฉินเหล่ย ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขจริงเหรอ ไม่มีทาง

มู่ซย่าเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปาก ก่อนที่อีกฝ่ายจะหันมาเห็นเธอ ก็ชิงทักทายออกไปว่า “ ซิงซิง พี่มู่ ”

เมื่อสวี่ซิงซิงกับมู่เฉินเหล่ยเห็นมู่ซย่า สีหน้าของทั้งสองคนก็ขรึมลงทันที

โดยเฉพาะสวี่ซิงซิง สีหน้าดุร้ายราวกับจะฉีกทึ้งและกินเธอทั้งเป็นเลยทีเดียว

มู่ซย่าเชื่อว่า ถ้าหากตอนนี้สวี่ซิงซิงไม่ได้ถูกบอดี้การ์ดจับตัวเอาไว้ละก็ คงจะเข้ามาข่วนเธอจริงๆ

มู่ซย่าแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจว่าทำไมสวี่ซิงซิงต้องมองเธอด้วยสายตาอย่างนั้น พูดกับสวี่ซิงซิงด้วยใบหน้าใสซื่อว่า “ ซิงซิง เธอเป็นอะไรไป อารมณ์ไม่ดีเหรอ ”

สวี่หน้าสวี่ซิงซิงบึ้งตึงมาก ดิ้นรนพลางร้องเสียงแหลม “ นังสารเลว เป็นแผนของแกทั้งหมด เป็นฝีมือแกใช่ไหม ”

ดวงตาของมู่ซย่ามีแววเย็นชาวาบผ่าน

มาจนถึงตอนนี้แล้วยังกล้าด่าเธอว่าสารเลวอีกเหรอ ช่างไม่รู้จักเข็ดจริงๆเลย

มู่ซย่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มว่า “ ซิงซิง เหมือนเธอจะตั้งแง่กับฉันจริงๆนะ.....แต่ไม่เป็นไร ฉันให้อภัยเธอแล้ว ใช่แล้ว เธอมาที่สำนักงานกรมกิจการพลเรือนทำไม ”

คำพูดประโยคนี้ได้ทำลายฟางเส้นสุดท้ายที่อยู่ในใจของสวี่ซิงซิงจนขาดสะบั้น

เธอตะโกนขึ้นมาราวกับเป็นบ้า “ นังสารเลว ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก ”

ในใจของมู่ซย่าไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย สวี่ซิงซิงที่ถูกบอดี้การ์ดคุมตัวเอาไว้ในตอนนี้ก็เหมือนกับหมาบ้าที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้ ถึงแม้จะดุร้ายแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลุดจากโซ่ตรวนได้

และโซ่ตรวนเส้นนี้ เห็นได้ชัดว่าจะล็อกเธอไว้ตลอดชีวิต

มู่ซย่าเลื่อนสายตามองไปทางมู่เฉินเหล่ยที่มีสีหน้าไม่ดีพอๆกันอย่างไม่รีบร้อนพลางพูดว่า “ พี่ก็อยู่ด้วย......เดี๋ยวนะ พวกเธอสองคน คงไม่ได้มาแต่งงานกันหรอกใช่ไหม ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!