ซือถูไห่ถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง ในสมองมีแต่ความหงุดหงิดไร้ที่สิ้นสุด
เขาไม่ควรจะรับผู้หญิงบ้าคนกลับมาเลย
ทำเขาขายหน้าจนป่นปี้
ดีที่ว่าพอมู่ซินเยว์ไปแล้ว ในที่สุดสวนดอกไม้หลังบ้านก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง
ซือถูไห่ประสานสองมือขึ้นมาเอ่ยขอโทษกับแขกที่มาร่วมงานศพ “ทุกท่าน ต้องขออภัยจริงๆ ซินเย่ว์เสียใจมากเกินไป สภาพจิตใจไม่สู้จะดีนัก ทำให้ทุกท่านเห็นเป็นเรื่องตลกไปเลย”
แขกเหรื่อต่างก็สบตากัน แต่ละคนยกมือขึ้นมาโบกและพูดว่าตามกันว่า “ ไม่เป็นไรไม่เป็นไร เข้าใจได้ ”
“ ขอให้คุณนายซือถูระวังสุขภาพด้วย ลูกตายไปแล้วยังมีใหม่ได้ แต่ถ้าเสียสุขภาพไปจะไม่ดี ”
“ คุณก็ต้องระวังสุขภาพด้วย...... ”
ทุกคนต่างพูดปลอบใจ ในที่สุดอารมณ์ของซือถูไห่ก็สงบลงไปไม่น้อย
สวี่ยิงซานลังเลอยู่ชั่วครู่ แล้วก็เดินเข้าไป ดึงตัวซือถูไห่ไปคุยด้วย “ ต้าไห่ อาการของซินเย่ว์ไม่ปกติเลย ยังไงก็หาหมอดีๆมาตรวจสักหน่อย ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป......ไม่ไหวแน่ ”
ซือถูไห่พยักหน้า “ ผมจะหาหมอมารักษาเธอเอง ”
“ พูดถึงเรื่องหมอ.....”สวี่ยิงซานยกนิ้วโป้งขึ้นมาพูดว่า “มู่ซย่าของคุณฝีมือการแพทย์ยอดเยี่ยมมาก เมื่อคืนผมเกือบจะตายเพราะเส้นเลือดในสมองแตก เธอเป็นคนช่วยชีวิตผมเอาไว้ ”
ซือถูไห่นิ่งอึ้ง ถามอย่างประหลาดใจว่า “ มู่ซย่ามีทักษะการแพทย์ด้วยเหรอ ”
สวี่ยิงซานมองซือถูไห่ด้วยสีหน้าอึ้งตะลึง “ นี่คุณเป็นถึงพ่อแต่ไม่รู้ว่ารู้สาวของตัวเองเป็นหมอเทวดาอย่างนั้นเหรอ ”
“ เอ่อ......มันจะเป็นไปได้ยังไง ” สมองของซือถูไห่หยุดหมุนในชั่วพริบตา
มู่ซย่าเติบโตมาจากบ้านนอกไม่ใช่หรือไง ไปเรียนวิชาแพทย์มาจากไหน
เมื่อสวี่ยิงซานเห็นว่าซือถูไห่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็ยิ่งรู้สึกอึ้งมากขึ้น
เขารีบพูดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ซือถูไห่ฟังอย่างตื่นเต้น ซือถูไห่ได้แต่ฟังอย่างมึนงง
สวี่ยิงซานพูดจบแล้ว ก็ตบไปที่บ่าของซือถูไห่อย่างรู้สึกอิจฉา พูดว่า “ ลูกสาวของคุณคนนี้เป็นสิ่งล้ำค่าจริงๆ คุณต้องดีกับเธอให้มากๆ อย่าทำเหมือนที่ทำกับชิงซาน ต้องดูแลเธอให้ดีๆนะ ”
ซือถูไห่พยักหน้ารับอย่างเหม่อลอย ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าจะได้สติ
แต่ปฏิกิริยาแรกของเขานั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรู้สึกตื่นเต้น แต่เป็นความหวาดระแวง
ในเมื่อมู่ซย่ามีฝีมือการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น แต่คนเป็นพ่ออย่างเขากลับไม่รู้อะไรเลย
มู่ซย่าจงใจปกปิดเขาเหรอ ทำไมเธอต้องปกปิดเขาด้วย
หรือว่ามู่ซย่าจะเหมือนกับมู่ซินเย่ว์ ที่มีใจคิดไม่ซื่อ
หรือว่า เธอมีเป้าหมายในการกลับมาครั้งนี้ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ซือถูไห่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหนาวสันหลัง ดวงตาคู่นั้นดำสนิทราวกับสีของท้องฟ้ายามค่ำคืน เขาเหมือนจมดิ่งลงไปในความกดอากาศต่ำ
บางที.....เขาอาจจะต้องทำความเข้าใจลูกสาวของเขาคนนี้ให้มากขึ้น
ซือถูไห่กำหมัดแน่น ค่อยๆหรี่ตาลง ในดวงตามีแววเย็นชาผุดขึ้นมา ราวกับจุดสูงสุดของภูเขาน้ำแข็งที่เยือกเย็นที่สุด
มู่ซย่าที่เพิ่งจะจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยและกำลังออกมาจากกรมกิจการพลเรือนจู่ๆก็จามออกมา “ ฮัดเช่ย..... ”
เธอถูจมูกตัวเอง ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนัก
“ เป็นหวัดเหรอ “ เยี่ยซือเจวี๋ยขมวดคิ้วมองมาที่เธอ ในสายตาเผยแววห่วงใยให้เห็น
มู่ซย่าพยักหน้า ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมเสื้อกันหนาวของตัวเองเอาไว้ที่สำนักงานของกรมกิจการพลเรือน
“ ฉันลืมเสื้อกันหนาวไว้ข้างใน ฉันขอไปเอาก่อน ”
มู่ซย่ากำลังจะหมุนตัวกลับเข้าไป เยี่ยซือเจวี๋ยก็กดไหล่เธอเอาไว้ “ เธอไปขึ้นรถก่อน ฉันจะไปเอาให้เอง เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปกินอาหารกลางวัน คิดว่าตอนนี้บ้านเธอคงจะวุ่นวายน่าดู เธอกลับไปมันก็คงกินอะไรไม่ลง ”
มู่ซย่าพยักหน้า “ ได้ ”
ว่าแล้ว เธอก็พูดเสริมขึ้นอีกว่า “ ฉันไม่อยากกินเกี๊ยว...... ”
กินเกี๊ยวหลายมื้อติดๆกัน ตอนนี้แค่นึกถึงเกี๊ยวท้องไส้ก็รู้สึกปั่นป่วนแล้ว
เยี่ยซือเจวี๋ยยิ้มอย่างระอาใจ พูดว่า “ เธอคิดว่าแต่งงานกันวันแรก ฉันจะพาเธอไม่กินเกี๊ยวงั้นเหรอ มู่ซย่า เหมือนเธอจะยังไม่รู้นะว่าตัวเองแต่งงานกับใคร ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!