หรือว่าอีกฝ่ายที่จะแต่งงานกับมู่ซย่าไม่ใช่ตาแก่อะไร แต่เป็น......เยี่ยซือเจวี๋ย
เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
มู่ซย่าเป็นแค่หญิงสาวบ้านนอกคนหนึ่ง จะคู่ควรเยี่ยซือเจวี๋ยที่แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่กล้าอาจเอื้อมได้ยังไง
ต้องเป็นความบังเอิญแน่ เธอเข้าใจผิดไปแน่ๆ
หลังจากนั้น สวี่ซิงซิงก็มองเห็นเยี่ยซือเจวี๋ยเดินไปหยุดอยู่ข้างกายมู่ซย่า ส่วนมือข้างขวาของเขาก็บรรจงโอบเอวของมู่ซย่าเอาไว้อย่างอ่อนโยน
ท่าทีเช่นนี้ ใช้ได้ดีกว่าคำพูดเป็นสิบคำซะอีก
ประโยคที่ว่า “ ชาตินี้เธอไม่มีวันมีความสุขแน่ ” ราวกับฝ่ามือที่ฟาดลงมารัวๆ ตบลงมาที่ใบหน้าของสวี่ซิงซิงอย่างแรง
ทันใดนั้นสีหน้าของสวี่ซิงซิงก็ซีดขาวลง ความรู้สึกไม่พอใจและรู้สึกโกรธอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาในจิตใจของสวี่ซิงซิง
เพราะอะไร
มีสิทธิ์อะไร
ทำไมผู้หญิงอย่างมู่ซย่าถึงแต่งงานกับเยี่ยซือเจวี๋ยได้ ส่วนเธอได้แต่แต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างมู่เฉินเหล่ยเท่านั้น
สองมือของสวี่ซิงซิงกำหมัดไว้แน่น เล็บมือจิกลึกเข้าไปยังใจกลางฝ่ามือแต่ก็ไม่รู้สึกอะไร
ก่อนอื่นเยี่ยซือเจวี๋ยได้ทำการคลุมเสื้อนอกให้กับมู่ซย่าอย่างอบอุ่นอ่อนโยน จากนั้นก็กวาดตามองสวี่ซิงซิงและมู่เฉินเหล่ยด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง พูดว่า “ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทนพวกคุณ ถ้าครั้งหน้าผมยังเห็นว่าพวกคุณพูดจาดูถูกภรรยาของผมอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือนพวกคุณก็แล้วกัน ”
น้ำเสียงของเยี่ยซือเจวี๋ยเย็นชาและคมกริบ บวกกับท่าทีที่น่าเกรงขามราวกับราชา ทำเอาสวี่ซิงซิงและมู่เฉินเหล่ยต่างก็มีเหงื่อเย็นไหลออกมาจากแผ่นหลัง
ท่าทีน่าเกรงขามของเยี่ยซือเจวี๋ยไม่ใช่ว่าใครที่ไหนก็สามารถจะทานทนได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนไร้ประโยชน์อย่างมู่เฉินเหล่ยและคนที่เก่งแต่ตอนที่อยู่ในบ้านอย่างสวี่ซิงซิง
ทั้งสองคนตกใจจนแทบจะไม่กล้าหายใจแรง
จากนั้นเยี่ยซือเจวี๋ยก็หันไป เผยสีหน้าอบอุ่นให้กับมู่ซย่า ความแตกต่างนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน มันทำให้สวี่ซิงซิงรู้สึกอิจฉาจนแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
ได้ยินเยี่ยซือเจวี๋ยพูดกับมู่ซย่าด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ อากาศเย็นลงแล้ว รีบไปขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวจะเป็นหวัด ”
“ อืม ”มู่ซย่าพยักหน้า ไม่มองสวี่ซิงซิงกับมู่เฉินเหล่ยอีกแม้แต่แวบเดียว หมุนตัวเดินไปที่รถไมบัคที่จอดอยู่ไม่ไกล
หลังจากมู่ซย่าจากไปแล้ว เยี่ยซือเจวี๋ยไม่ได้ตามไปในทันที แต่ได้เอ่ยเตือนสวี่ซิงซิงกับมู่เฉินเหล่ยอีกครั้งว่า
“ ถ้ายังอยากจะอยู่ในจิงตูต่อ ก็อย่ามาหาเรื่องเธอ เธอเป็นเมียผม พวกคุณหาเรื่องเขาก็หมายความว่าอยากมีเรื่องกับผมเยี่ยซือเจวี๋ย ”
ว่าแล้ว ก็ใช้สายตาเลือดเย็นราวกับมองพวกมดแมลงกวาดตามองพวกเขาสองคนแวบหนึ่ง หมุนตัวจากไปด้วยสีหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็ง
สวี่ซิงซิงตกใจจนหน้าผากมีเหงื่อเย็นๆไหลย้อยลงมาหนึ่งหยด
เธอมองดูมู่ซย่ากับเยี่ยซือเจวี๋ยที่เดินตามกันไปขึ้นรถไมบัคด้วยตาปริบๆ
เสี้ยววินาทีที่ประตูรถถูกปิดลง จู่ๆสวี่ซิงซิงก็เกิดลางสังหรณ์บางอย่างขึ้น ตั้งแต่ประตูรถบานนั้นปิดลง ระหว่างเธอกับมู่ซย่าจะกลายเป็นคนที่อยู่กันคนละโลกอย่างสิ้นเชิง
และในโลกใบนั้นของมู่ซย่า เธอก็คงได้แต่หวังแต่ไม่สามารถไปถึง
สวี่ซิงซิงรู้สึกเข่าอ่อน ราวกับตุ๊กตาเซรามิกที่ไร้ชีวิต ดวงตาเหม่อลอยนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง
มู่เฉินเหล่ยตกใจสะดุ้งโหยง รีบเข้าไปดึงตัวสวี่ซิงซิงเอาไว้
ที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงคือ ครั้งนี้สวี่ซิงซิงไม่ได้ผลักเขาออก
มู่เฉินเหล่ยเพิ่งจะรู้สึกดีใจได้ครู่เดียว ก็พบว่าสวี่ซิงซิงผิดปกติ
ดวงตาของเธอไร้จุดโฟกัส เหมือนหุ่นกระบอกตัวหนึ่ง ไม่เพียงแต่กับเขา แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย
“ ซิงซิง ซิงซิง ” มู่เฉินเหล่ยร้องเรียกอย่างลนลานทำอะไรไม่ถูก
ใครก็ได้มาช่วยเขาที
แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือท่าทีตกตะลึงพรึงเพริดของเหล่าบอดี้การ์ดซึ่งดูจะตกใจมากกว่าเขาซะอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!