และก็เป็นFanny ที่ดึงสติกลับมาได้ก่อน จึงเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง "คุณSAN เมื่อครู่นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ ทำไมพวกเธอถึงบอกว่าคุณมาก่อความวุ่นวาย"
มู่ซย่ากวาดสายตามองไปที่ผู้จัดการร้านและพนักงานที่ตัวสั่นอยู่ ไม่ให้โอกาสพวกเธอได้พูด "ฉันสนใจชุดในร้านของพวกคุณ แต่พนักงานในร้าน คนหนึ่งบอกว่าฉันเป็นขโมย ส่วนอีกคนหนึ่งเอาชุดที่ฉันจะซื้อไปให้ลูกค้าVIP ของพวกคุณก่อน ถึงขนาดให้พนักงานไล่ฉันออกจากร้านด้วย"
"อะ...อะไรนะ?!" ดวงตาของFannyแทบจะลุกเป็นไฟ
คนเหล่านี้ทำกับคุณSAN ที่ขนาดผู้ก่อตั้งแบรนด์ยังต้องให้เกียรติแบบนี้ได้อย่างไร
มู่ซย่าพูดอย่างปรารถนาดีว่า "Fanny หากแบรนด์ของพวกคุณบริการลูกค้าแบบนี้ งั้นฉันก็คิดว่าพวกคุณไม่ควรจะใช้เงินมหาศาลในการจ้างดีไซเนอร์เก่งๆ แต่ควรจะใช้ในการอบรมพนักร้านแต่ละร้านให้มีคุณภาพจะดีกว่านะคะ"
มู่ซย่าเพิ่งจะพูดจบ ผู้จัดการร้านและพนักงานก็รู้สึกเหมือนถูกตบหน้ากันเลยทีเดียว
พอพวกเธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นFanny จ้องพวกเธอตาเขม็ง
เงินเดือนพนักงานของfeature ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เป็นถึงผู้จัดการร้าน เงินเดือนยิ่งมากมายขึ้นไปใหญ่
แม้กระทั่งพนักงานขายของที่นี่ก็ได้เงินเดือนถึงห้าหลัก ยังมีค่าคอมมิชชั่นอีก พวกเธอไม่อยากสูญเสียงานทีมั่นคงและรายได้ดีนี่ไปจริงๆ!
ผู้จัดการร้านรีบคว้าแขนมู่ซย่าและกล่าวขอโทษอย่างตื่นตระหนก "คุณผู้หญิงท่านนี้ ดิฉันมีตาแต่ไร้แวว ต้องขออภัยคุณเป็นอย่างสูง! คุณได้โปรดให้โอกาสฉันอีกสักครั้งนะคะ!"
พนักงานขายที่อยู่ด้านข้างก็ร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น "ต้องขอโทษคุณผู้หญิงด้วยนะคะ! ต่อไปฉันจะปฏิบัติต่อลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน! คุณได้โปรดยกโทษให้ฉันสักครั้งเถอะนะคะ!"
ทั้งสองคนแทบจะคุกเข่าลงต่อหน้ามู่ซย่า
มู่ซย่ากล่าวด้วยสีหน้าเดิม "ปฏิบัติต่อลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมกันนั้นเป็นเรื่องพื้นฐานที่พวกคุณพึงกระทำ ต้องให้พวกคุณมาการันตีเรื่องนี้ด้วยเหรอ สิ่งนี้มันทำยากนักเหรอ"
"ไม่ใช่ไม่ใช่ค่ะ..."พนักงานขายรีบกล่าวแก้ตัว "ฉันผิดไปแล้ว! ฉันรู้ว่าตัวเองผิดแล้ว! ต่อไปฉันจะมองว่าลูกค้าทุกคนคือพระเจ้า!"
มู่ซย่าสะบัดมือออกจากทั้งสองคน พลางกล่าวอย่างเย็นชา "ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กับฉันแล้ว ฉันรู้เพียงว่าหากวันนี้ ฉันไม่ได้เจอกับFanny พวกคุณก็จะเรียกตำรวจมาจับฉันในข้อหาขโมยแล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆ พวกเธอก็คุยกับFanny เอาเองละกัน!"
ทั้งสองคนมองไปที่ Fanny อย่างวิตกกังวล
สีหน้าของ Fannyแลดูเย็นชาเสียยิ่งกว่ามู่ซย่า เธอพูดกับผู้ช่วยที่อยู่ด้านหลังอย่างไม่แยแส "ให้บริษัทลบชื่อสองคนนี้ออกจากแบรนด์ ต่อไปไม่ว่าร้านไหนภายใต้แบรนด์นี้ก็ห้ามรับสองคนนี้เข้าทำงานอีก!"
"รับทราบ!" ผู้ช่วยโบกมือ ให้บอร์ดี้การ์ดลากสองคนนี้ออกจากร้านไปทันที
มู่ซย่ายังได้ยินทั้งสองร้องขอความเมตตาดังมาจากที่ไกลๆ
แต่แววตาของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
เธอจะเห็นใจเพียงคนที่คู่ควรเท่านั้น
พนักงานคนอื่นๆ ภายในร้านก็มองมู่ซย่าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปในทันที พวกเธอรู้ว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ได้ไปทำให้มู่ซย่าขุ่นเคืองใจ
มีคนที่ไหวพริบดีนำชุดที่มู่ซย่าต้องการไปพับใส่ถุงให้
แม้กระทั้งคนที่เคยมาในร้านนี้ อย่างสวี่ซิงซิงที่ถูกต้อนรับประดุจซุปเปอร์ VIP ในเวลานี้ยังถูกเมิน ไร้คนสนใจ
ฐานะทางบ้านของสวี่ซิงซิงร่ำรวยมาก เธอถูกเลี้ยงดูมาดุจเจ้าหญิง ทั้งยังได้หมั้นหมายกับตระกูลฉินอีก บวกกับปีที่แล้วที่ถูกยกย่องให้เป็นสตรีอันดับหนึ่งก็ยิ่งทำให้เธอไม่เป็นสองรองใครในจิงตู
นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตัวเองถูกมองข้าม ราวกับตนเองเป็นอากาศธาตุอย่างไรอย่างนั้น
ความรู้สึกที่เหมือนหมาที่ถูกตีตายไร้ซึ่งกำลังใดๆ กำลังถาโถมเข้าใส่ตัวเธอ
อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่ไร้อำนาจนี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธอย่างรวดเร็ว
แบรนด์อะไร ดีไซเนอร์อะไร มู่ซย่าอะไร ตราบใดที่เธอต้องการ คนเหล่านี้ก็ต้องไสหัวออกไปจากจิงตูให้หมด!
สวี่ซิงซิงกำหมัดทั้งสองข้างด้วยความโกรธ
เหล่าพนักงานที่อยู่ด้านข้างเห็นว่าอารมณ์ของเธอไม่ปกติ อยากจะเข้าไปพูดกับเธอ แต่ว่า พอมือเพิ่งจะไปแตะโดนแขนเสื้อของเธอ ก็ถูกสวี่ซิงซิงผลักออกไป
สวี่ซิงซิงก้าวตรงไปยังมู่ซย่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!