ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 826

รองกัปตันทีมทั้งรู้สึกประหลาดใจและขอโทษ

"ขอโทษด้วยครับ คนของพวกเราไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งนี้เลย"

เยี่ยซือเจวี๋ยไม่ได้พูดอะไร เขาก้มลงและหยิบสิ่งนี้ขึ้นมาดูใกล้ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย "นี่คือสะเก็ดผิวหนังที่พวกเขาทิ้งเอาไว้? แต่ว่าทำไมมันถึงเยอะมากขนาดนี้ล่ะ?"

“ไม่ใช่สะเก็ดผิวหนัง” มู่ซย่าพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี “นี่มันคือวัสดุที่เอาไว้ทำหน้ากากผิวหนังมนุษย์”

“หน้ากากหนังมนุษย์?” เยี่ยซือเจวี๋ยขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “หมายความว่ามู่ซินเย่ว์อาจจะเปลี่ยนโฉมหน้าของเธอเพื่อออกจากเมืองจิงตูงั้นเหรอ”

มู่ซย่าพยักหน้าและพูดอย่างทอดถอนใจเล็กน้อย "ทำหน้ากากหนังมนุษย์จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับยาจีนโบราณ แม้แต่อาจารย์ฤาษีแห่งการแพทย์จีนโบราณที่พ่อแม่บุญธรรมของฉันได้ขอคำปรึกษายังไม่สามารถทำได้เลย และฉันก็คิดว่าทักษะนี้จะหายไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าบนโลกนี้ยังมีคนที่มีทักษะแบบนี้อยู่ ดูเหมือนว่าคนที่ช่วยมู่ซินเย่ว์หนีนั้นจะไม่ธรรมดาจริงๆ”

เยี่ยซือเจวี๋ยทำหน้าจริงจังและสั่งรองกัปตันทีมว่า "ให้คนที่ด่านกักตัวดูอย่างระมัดระวัง ใบหน้าของมู่ซินเย่ว์อาจเปลี่ยนไปอย่างมาก"

"ไม่จำเป็นหรอก" มู่ซย่าพูด "ถึงแม้ว่าพวกคุณจะตั้งด่านกักตัว ก็ไม่สามารถตรวจสอบหน้าผู้โดยสารได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ สู้...”

เธอพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็ก้มศีรษะลงและตรวจสอบเที่ยวบิน

“สู้อะไร?” เยี่ยซือเจวี๋ยสอบถาม

มู่ซย่าชี้ไปที่เที่ยวบินทั้งสองและพูดว่า "ฉันอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่กล่าวถึงหน้ากากผิวหนังมนุษย์ของแพทย์แผนโบราณของจีน เนื่องจากวัสดุที่ทำมีความพิเศษมาก โดยปกติแล้วหน้ากากจะเริ่มแตกร้าวภายในห้าชั่วโมง ในเมื่อมู่ซินเย่ว์เปลี่ยนใบหน้าแล้ว ต้องเดินทางไปต่างประเทศอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้คนของพวกเราในประเทศจับได้ ดังนั้น พวกเขาจะต้องเลือกประเทศที่ใกล้กับจีนมากที่สุดอย่างแน่นอน”

เมื่อเยี่ยซือเจวี๋ยได้ยินถึงตรงนี้ ก็เปิดโปรแกรมสำหรับตรวจสอบเที่ยวบิน

"พอดูแล้ว ถ้าพวกเขาไม่ไปที่ประเทศพม่าตอนเก้าโมง ก็ไปที่มองโกเลียตอนเก้าโมงครึ่ง"

มู่ซย่าพยักหน้า "ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน"

"ผมเข้าใจที่คุณจะบอกแล้ว" เยี่ยซือเจวี๋ยหันศีรษะและสั่งรองกัปตันทีม "รีบซื้อตั๋วเดี๋ยวนี้ และส่งคนสวมใส่ชุดลำลองนั่งไปพม่าและมองโกเลียสองเที่ยวบินนี้ และหาบุคคลที่น่าสงสัยในเที่ยวบินและทำการติดตามไว้"

“ครับ!”

รองกัปตันทีมก็รีบไปจัดการทันที

......

ชั่วพริบตาวันรุ่งขึ้นก็มาถึง วันนี้เป็นวันที่ซือถูไห่ต้องไปที่ศาล

การพิจารณาคดีของศาลนั้นเป็นแบบสาธารณะ และสามารถถ่ายทอดสดทางออนไลน์ได้

เมื่อเริ่มการถ่ายทอดสด เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับมู่ซย่า การถ่ายทอดสดจึงเกือบจะเต็มไปด้วยผู้คน และระบบของศาลก็ล่มติดต่อกันหลายครั้ง

มู่ซย่าไม่ได้ดูการถ่ายทอดสด และไปที่นั่นในฐานะพยานด้วยตัวเอง

ผู้พิพากษาที่รับผิดชอบการพิจารณาคดีนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเสี่ยวยิงศิษย์หลานและยิงเซินเจี๋ย

ก่อนการพิจารณาคดี ยิงเซินเจี๋ยเป็นฝ่ายหามู่ซย่า

โดยเขาไม่รู้ตัวว่ามีลูกขุนทั้งสองคนตามมาข้างหลัง เขาตะโกนเรียกว่า "ท่านอาจารย์!"