ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 852

“อืม” มู่ซย่าจะไม่ตอบรับได้อย่างไร รีบถอนมือออกแล้วเดินไปที่ลิฟต์

เธอตัดสินใจอยู่ในใจว่าในอนาคตต่อหน้าของเยี่ยซือเจวี๋ยจะระมัดระวังมากขึ้น จะไม่ให้ประมาทแบบนี้อีกแล้ว

จริง ๆ แล้ว…เธอก็ยังคงกลัวว่าเยี่ยซือเจวี๋ยจะโกรธ

เพราะใส่ใจ ดังนั้นก็ต้องระวังเอาไว้

เยี่ยซือเจวี๋ยไม่ได้เดินตามมู่ซย่าไปในทันที แต่หันกลับไปมองผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยที่ตัวสั่นงกอยู่ข้างหลังเขา

“ถ้ากล้าพูดออกไป นายคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“ไม่กล้าครับ ไม่กล้า..ไม่เลย เดิมทีตัวผมเองก็ไม่ได้เห็นอะไรอยู่แล้ว ! ”ผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยที่เต็มไปด้วยเหงื่อรีบพูดซ้ำ

ทำไมเวลาสามีภรรยายจะจับเนื้อต้องตัวกัน คนที่ดวงซวยก็ต้องเป็นเขา ?

โชคดีที่เยี่ยซือเจวี๋ยไม่คิดจะนำหายนะมาให้คนที่ไม่รู้ไม่เห็นอะไร หลังจากเตือนไปเล็กน้อย เขาก็เดินไปทางที่มูซย่าไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ และคอยรักษาระยะห่างเอาไว้ไม่ให้ห่างหรือใกล้ไป ก่อนจะเดินตามเยี่ยซือเจวี๋ยไป

ภายในลิฟต์ ผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยอดไม่ที่จะลอบมองมู่ซย่า

ในวันนี้เขาก็รู้อย่างชัดแจ้งถึงตำแหน่งของคุณมู่ในใจของคุณเยี่ยแล้ว

โดนตีก็ไม่สู้กลับ โดนว่าก็ไม่พูดกลับ รักมากจริง ๆ

ดูแล้วเหมือนว่าหากในอนาคตแม้แต่ตัวคุณเยี่ยเองก็ไม่สามารถทำให้มู่ซย่าไม่พอใจได้

มู่ซย่าสัมผัสได้ว่าผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยกำลังมองมาที่เธอ ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปหาผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยและถามออกมา "มีอะไรเหรอคะ ?"

“ไม่ ไม่มีอะไรครับ !” ผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก “ผมเพียงคิดว่า..คุณทั้งสองคนสามารถหาเวลาจัดงานแต่งงานให้เสร็จโดยเร็วที่สุดได้”

แต่งงาน….

หลังของมู่ซย่ายืดตรง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกประหม่า

“ใช่สิ” เยี่ยซือเจวี๋ยที่ได้ยินก็พูดออกมา “นอกจากเขาแล้ว มีไม่กี่คนที่รู้ว่าพวกเราแต่งงานกัน ดังนั้นเราต้องหาโอกาสบอกทุกคนถึงจะโอเค”

ยิ่งกว่านั้น การแต่งงานยังต้องให้ทุกคนมาเป็นพยานจึงจะถือว่าเสร็จสมบูรณ์

ผู้หญิงของเยี่ยซือเจวี๋ย สมควรได้รับงานแต่งงานที่หรูหราที่สุดในโลก

“งานอะไร ต้องใช้เวลากี่วัน ? ตอนนี้โครงการสองสามอย่างในมือของคุณเองก็สำคัญมากๆ เหมือนกัน”

“หึ !” ผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยหัวเราะอย่างมีเลศนัยและพูดว่า “งานนี้ที่อยู่ในมือของผม สำคัญกว่าโครงการอีก !”

ในขณะที่เขาพูดก็วางสายในทันที ไม่ให้โอกาสให้สำนักงานเลขาได้ปฏิเสธ

ล้อเล่นนะ แต่งานแต่งงานของเจ้านายสำคัญกว่าโครงการไม่ใช่หรือไง ?

……

อีกด้านหนึ่งเมื่อมู่ซย่ากลับมาถึงห้องผู้ป่วยของแม่โต้วจื่อ ก็เดินไปรับพ่อของโต้วจื่อและโต้วจื่อ

แม้ว่าแม่ของโต้วจื่อจะอยู่คนเดียว แต่เธอก็มีพยาบาลเฉพาะทางคอยดูแลอยู่ ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าพ่อของโต้วจื่อจะอยู่ด้วยหรือไม่

โต้วจื่อเห็นรอยแดงหลายจุดบนใบหน้าของเยี่ยซือเจวี๋ย จากนั้นก็ถามออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม "พี่ใหญ่ ใครตีพี่กัน ?”

ผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ยที่เข้าประตูมาพอดีเมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็กำมือแน่นด้วยความประหม่า

นี่มันเป็นการพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดซะจริง ๆ !