ฉินอันอันไม่ได้เถียง
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฟู่ซื่อถิงมันน่าเบื่อจริง ๆ
อย่างเช่นอาทิตย์ก่อน พวกเขาสองคนก็อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลย
เขานั้นไม่ทำงานอยู่ในห้อง ก็อ่านหนังสือในห้องนั่งเล่น
เธอเองก็เขียนวิทยานิพนธ์ ไม่ก็อ่านหนังสือไปกับเขาในห้องนั่งเล่น
เขาอ่านหนังสือภาษาอื่นที่เธอไม่แม้แต่จะเข้าใจชื่อหนังสือ
แต่เธอเชื่อว่าเขาเองก็คงไม่ได้เข้าใจหนังสือประสาทวิทยาที่เป็นภาษาอังกฤษซึ่งเขียนโดยศาสตราจารย์หูชิงหรอก
ดังนั้นเธอก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า
“อันอัน เธอว่าสร้อยคอฉันเป็นยังไง?” จู่ ๆ หลีเสี่ยวเถียนก็ถอดจี้สร้อยคอที่ใส่ไว้ออกมาอวดฉินอันอัน
“สวยมากเลย แฟนเธอให้เป็นของขวัญมาเหรอ?”
“ใช่แล้ว เขาให้ของขวัญปีใหม่กับฉัน บนนี้มีชื่อฉันสลักไว้ด้วย”
“เสี่ยวเถียน เธอก็เข้าแอพพลิเคชั่นซื้อของออนไลน์แล้วซื้อมาสักสิบกว่าอันเป็นยังไง แถมเขาก็แกะสลักให้ฟรีด้วย” ฉินอันอันพูดตรง ๆ “เวลามีความรักเธอต้องตั้งสติไว้หน่อยนะ”
เสี่ยวเถียนไม่สนใจ “ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มันแกะสลัก แต่ว่ามันเป็นของขวัญที่เขาให้ฉัน ฉันมีความสุขมาก หากสักวันเขาไม่ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้อีกแล้ว เราก็คงต้องใกล้จะเลิกกันแล้วล่ะ”
ฉินอันอันไม่ได้พูดอะไร
“เธอทำท่าทางเย็นชาเกินไปแล้ว หรือว่าฟู่ซื่อถิงไม่ได้ให้ของขวัญเธอเลย?” เสี่ยวเถียนเดา
“ไม่น่าจะใช่นะ เขารวยมากขนาดนั้น เขาคงไม่ขี้เหนียวหรอกใช่ไหม?”
ฉินอันอัน “ฉันเองก็ไม่ได้เตรียมของขวัญให้เขาเหมือนกัน”
“พวกเธอสองคนยังแต่งงานกันมาไม่นานเลยนะ เริ่มจะทำตัวเหมือนพวกคู่แต่งงานรักจืดจางไปแล้วเหรอ?”
หลีเสี่ยวเถียนถอนใจ “อันอัน เขาน่ะอายุมากแล้วและไม่เข้าใจเรื่องความโรแมนติก แต่เธอยังสาวอยู่นะ เลิกทำตัวไร้ชีวิตชีวาสักทีได้ไหม? หากว่าเขาไม่เริ่มก่อน เธอก็เริ่มสิ”
ฉินอันอันเมินและเอาของสดจุ่มลงหม้อ
……
ทุ่มตรงวันนั้น งานปาร์ตี้ปีใหม่ก็เริ่มขึ้น
ฉินอันอันและหลีเสี่ยวเถียนต่างก็อยู่ในห้องแต่งตัวหลังเวที
“อันอัน สามีของเธอ…”
“นี่เธอสนใจเรื่องตรงหน้าหน่อยได้ไหม?” ฉินอันอันกวาดตามองไปรอบ ๆ และเตือนเพื่อน
“อะแฮ่ม ฟู่ซื่อถิงมาที่นี่ไหม? เขาโทรหาเธอหรือเปล่า? ฉันเพิ่งไปดูที่หอประชุมมา คนนั่งกันแน่นแล้ว เขานั่งอยู่แถวไหนเหรอ?”
ฉินอันอันเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่ก็ไม่มีการแจ้งเตือนข้อความ
ในใจเธอมีความรู้สึกแปลก ๆ
‘เขายังไม่มาเหรอ?’
‘บางทีสุดท้ายเขาอาจจะตัดสินใจว่าจะไม่มา’
“เขาไม่ได้โทรหาฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าเขามาไหม อย่าว่าแต่ว่าเขานั่งแถวไหนเลย แค่เพราะเขามางานปาร์ตี้ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะอยากเปิดเผยตัวนี่ เสี่ยวเถียน บางทีถึงเขาเห็นฉันเขาก็อาจจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักฉันก็ได้นะ”
หลีเสี่ยวเถียนตกใจมาก และความกระตือรือร้นอยากซุบซิบของเธอก็มอดหายไปเพราะคำr^fพวกนั้น
ฟู่ซื่อถิงมาถึงที่มหาวิทยาลัยตอนสองทุ่ม
โปรแกรมการแสดงของฉินอันอันนั้นอยู่ลำดับที่สิบสาม ประมาณหลังงานเริ่มไปได้หนึ่งชั่วโมง
การที่เขามาสองทุ่มก็ถือว่าตรงเวลา
ฟู่ซื่อถิงเดินเข้าไปในห้องประชุมโดยมีบอดี้การ์ดคอยช่วย รวมถึงยามของมหาวิทยาลัย
วันนี้เขาใส่เสื้อยืดสีฟ้าอ่อน และเสื้อกันลมตัวนอกสีขาวครีมรวมกับกางเกงขายาวแบบสบาย ๆ สีเดียวกัน
เขาไม่ได้นั่งรถเข็นและไม่ได้ใช้ไม้ค้ำ
ขาของเขายังไม่หายดี ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ
เขาหล่อเหลาสะกดใจราวกับพระเอกที่ก้าวออกมาจากละครโทรทัศน์เลย
พอเขาก้าวเข้ามาให้ห้องประชุมก็ดึงดูดความสนใจของคนมากมาย
หลีเสี่ยวเถียนที่อยู่หลังเวทีเห็นเขาก็จำได้ทันที
“ให้ตายสิ! เขาใส่ชุดขาวแบบนี้ฉันเกือบจำไม่ได้แน่ะ! หล่อมากจริง ๆ!” หลีเสี่ยวเถียนวิ่งไปหาฉินอันอันที่รออยู่ด้านหลัง และเสี่ยวเถียนก็ตื่นเต้นจนเสียกริยา “เขามาแล้ว! เขามาจริง ๆ ด้วย! แน่นอนว่าเขามาเพื่อเธอแล้วเขาก็นั่งอยู่แถวหน้าเลย โอ้ยตายแล้ว!”
หัวใจฉินอันอันบีบรัด
เธอเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวและมองไปที่แถวหน้าของหอประชุม
ร่างในชุดสีขาวนั้นเหมือนแสงสว่างที่ส่องตรงเข้ามาสู่หัวใจของเธอ
“ฉินอันอัน! ใกล้จะถึงตาเธอแล้ว! อย่าทำผิดพลาดล่ะ! ให้สามีเธอได้เห็นด้านลับ ๆ ของเธอที่ไม่มีใครรู้จักหน่อย!” หลีเสี่ยวเถียนตบบ่าและให้กำลังใจเพื่อน
ฉินอันอันอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา “หลีเสี่ยวเถียน หากว่าเธอไม่รู้ว่าจะใช้พวกสำนวนยังไง ก็อย่าใช้มั่ว ๆ ได้ไหม”
……
“คนต่อไปที่จะขึ้นแสดงก็คือฉินอันอัน รุ่นพี่คนสวยจากคณะศิลปะ การแสดงของเธอวันนี้ก็คือเล่นกีตาร์และร้องเพลงจาก“ทิม แมกคอร์” ปรบมือต้อนรับเธอด้วยครับ!”
หลังจากพิธีกรพูดจบ ฉินอันอันก็ขึ้นมาบนเวที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย
สนุกมากค่ะ...