หลังจากที่ฉินอันอันคิดอย่างรอบคอบ เธอก็หายใจเร็วขึ้น
ฟู่ซื่อถิงมั่นใจแล้วหรือเปล่าว่าชอบเธอ?
ทำไมเขาถึงได้ยอมทำในสิ่งที่ตัวเองมองว่าไร้สาระ?
จู่ ๆ เธอก็ตกใจกลัว!
มือของเธอสัมผัสท้องของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้ลูก ๆ ของเธอก็อายุได้ 3 เดือนกว่าแล้ว เนื่องจากเธอควบคุมอาหารมาโดยตลอดเธอจึงผอมและดูไม่เหมือนคนท้องเลย
สักเดือนที่ห้าหรือเดือนที่หก ฉันก็อาจยังสามารถปกปิดท้องได้โดยการควบคุมอาหารและสวมเสื้อผ้าโคร่ง ๆ ได้
แต่แล้วเดือนที่เจ็ด แปด หรือเก้าล่ะ?
ไม่ว่าคนท้องจะผอมแค่ไหน ในไตรมาสที่สาม ท้องก็จะออกแน่นอน
หากถึงตอนนั้นเธอยังอยู่กับฟู่ซื่อถิง ความลับของเธอจะถูกเปิดโปงอย่างแน่นอน
เธอเดินออกไปที่ถนนด้วยความสับสน
เธอถือเสื้อคลุมไว้ในมือเหลือไว้เพียงเสื้อยืดบาง ๆ เท่านั้น ลมเย็นพัดโชยมา แต่เธอไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิด
เธอมีความรู้สึกที่ซับซ้อนมากเรื่องของฟู่ซื่อถิง
เหมือนคำตอบที่เธอให้เมื่อคืนนี้
เธอไม่กล้าพูดว่าเธอชอบเขา เพราะเขาทั้งเผด็จการและน่าเกรงขามมากจนเธอเกลียดเขา
แต่เธอก็ไม่กล้าบอกว่าไม่ชอบเขา เพราะลึก ๆ แล้วเธอก็ชอบเขาไม่มากก็น้อย!
เพียงแต่ว่าเธอเขินอายเกินกว่าที่จะยอมรับมัน เธอจึงไม่กล้าที่จะยอมรับ
เด็กที่อยู่ในท้องกำหนดให้ทั้งสองต้องอยู่ร่วมกันไม่ได้
ถ้าเธออยากเก็บลูกไว้ เธอก็ต้องทิ้งเขา
แต่ท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร ร่างกายสามารถทำตามความต้องการของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่คำนึงถึงคำสั่งของสมอง
‘นี่เธอเริ่มหลงรักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?’ เธอไม่อาจตอบตัวเองได้เลย
ตอนที่เขาบังคับให้เธอทำแท้ง เธอยังเกลียดเขาแทบตายอยู่เลย
ณ ตอนเย็น
ฉินอันอันกลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลฟู่
ในมือของเธอถือกล่องของขวัญเอาไว้
เธอวางกล่องของขวัญลงบนโต๊ะกาแฟในห้องนั่งเล่น
“ป้าจาง นี่ของฟู่ซื่อถิงนะ ถ้าเขากลับมาแล้วช่วยเอาให้เขาด้วยนะคะ”
ป้าจางยิ้มแล้วตอบว่า "ดีแล้วค่ะคุณผู้หญิง! ถ้าคุณทำให้คุณชายมีความสุข คุณก็จะใช้ชีวิตในครอบครัวนี้ได้สบายขึ้น หากไม่ใช่เพื่อคนอื่น อย่างน้อยคุณก็ควรจะใส่ใจอารมณ์ของเขาเพื่อตัวคุณเอง”
คำพูดของป้าจางสมเหตุสมผล แต่ฉินอันอันกลับเปลี่ยนเรื่องด้วยการตอบลอย ๆ "ฉันหิวแล้ว"
“อาหารเย็นถูดจัดเตรียมไว้แล้ว ทานอะไรรองท้องก่อนไหมคะ แล้วค่อยทานข้าวกับตุณชายตอนเขากลับมา?” ป้าจางแนะนำเธอ
ฉินอันอันส่ายหัวทันที "บ่ายนี้ฉันทำให้เขาโกรธอีกแล้ว เพื่อให้เราทั้งคู่เจริญอาหารอย่างที่ควร ฉันคงไม่รอทานข้าวกับเขาหรอก"
ป้าจางเงียบพูดไม่ออก "..."
‘คุณผู้หญิงคนนี้ทำให้สามีของเธอโกรธโกรธเรื่องอะไรอีก?’
‘ต่อให้สามีของเธอจะอารมณ์ไม่ดี แต่ตราบใดที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการ เขาก็จะไม่มีวันโกรธใครโดยไร้เหตุผล’
ณ เอสทีกรุ๊ป
ตอนนี้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว แต่ในห้องทำงานของซีอีโอฟู่ซื่อถิงกลับไม่มีท่าทีว่าจะได้เลิกงาน
เขามาที่บริษัทตอนห้าโมงเย็นด้วยสีหน้าที่มืดมนจนไม่มีใครกล้าสู้หน้า
เขาเองก็ไม่ได้อยากจะพูดคุยกับใครเช่นกัน
เขาทำงานจนถึงหกโมงครึ่ง
ตอนนั้นโจวจื่ออี้จึงตัดสินโทรหาเซิ่งเป่ยและขอให้เซิ่งเป่ยมาช่วย
หากฟู่ซื่อถิงไม่กลับบ้าน โจวจื่ออี้จะไม่กล้ากลับเช่นกัน
นอกจากนี้ การเห็นเจ้านายของเขาทุกข์ขนาดนี้ก็ทำให้โจวจื่ออี้รู้สึกวิตกกังวล
‘เขาไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ตกับฉินอันอันหรอกเหรอ?’
‘ทำไมเขาถึงได้กลับมาทำงานก่อนที่คอนเสิร์ตจะจบอีก?’
‘ฉินอันอันเทเขาหรือทั้งสองคนตกลงที่จะไม่ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันแล้ว?’
หลังจากที่เซิ่งเป่ยรับสาย เขาก็มาช่วยทันที
ด้านนอกห้องทำงาน โจวจื่ออี้กำลังอธิบายสถานการณ์ให้เซิ่งเป่ยฟัง "คงเป็นฉินอันอันที่ทำให้เจ้านายโกรธ ฉินอันอัน สักวันหนึ่งฉันคงจะได้เจอเธอ สงสัยเธอจะสมองไม่ค่อยดี ถึงได้ทำให้เจ้านายของเราโกรธได้ทุกวี่ทุกวัน"
เซิ่งเป่ยต่อบทสนทนา "บางทีนี่อาจเป็นวิธีของฉินอันอันก็ได้ บางครั้งการเล่นตัวอาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด ทุกคนรอบตัวซื่อถิงไม่มีใครกล้าทำให้เขาโกรธ ถ้ามีใครมาทำให้เขาโกรธอยู่ทุกวัน เขาอาจจะชอบความแปลกใหม่นี้ก็ได้"
โจวจื่ออี้ไม่เห็นด้วย "คุณเซิ่ง ไม่มีใครชอบคนที่ทำให้ตัวเองโกรธหรอก เว้นแต่เจ้านายเราจะเป็นพวกชอบหาเหาใส่หัว"
หลังจากที่เขาพูดจบ ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก
ฟู่ซื่อถิงเดินออกมา
เซิ่งเป่ยและโจวจื่ออี้ตอบสนองอย่างรวดเร็วและเดินไปที่ด้านข้างของฟู่ซื่อถิงเพื่อช่วยพยุงเขาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย
สนุกมากค่ะ...