เหงื่อเย็นเริ่มไหลลงบนหลังของเธอ
เธอปิดสมุดบันทึกกะทันหันราวกับว่ามันเป็นปฏิกิริยาตอบรับจากจิตใต้สำนึก!
ถ้าเธอไม่ได้เขียนบันทึกอยู่ เธอคงไม่เป็นแบบนี้แน่นอน
ตอนนี้จิตใจของเธอสับสนเกินไป เธอจึงเปิดเอกสารขึ้นใหม่
ละลงมือเขียน
บันทึกนี้เป็นแผนการหย่าร้างภายในสามเดือน
เธอหวังที่จะหย่ากับฟู่ซื่อถิงก่อนที่เด็กในท้องจะอายุได้เจ็ดเดือน
ด้วยวิธีนี้เธอจึงสามารถอยู่รอดได้ในไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์และจะได้ต้อนรับการมาถึงของทารกทั้งสองอย่างปลอดภัย
หากการหย่าร้างไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เธอก็จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องใช้กลยุทธ์ที่สามสิบหก
การหายตัวไปเฉย ๆ
นี่เป็นสถานการณ์ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด
บ้านของเธออยู่ในประเทศเอ เธอต้องการอาศัยและทำงานในประเทศเอ และเธอยังหวังว่าลูก ๆ ของเธอจะเกิดและเติบโตที่นี่
พฤติกรรมหวาดระแวงของเธอเมื่อสักครู่นี้กระตุ้นความไม่พอใจของฟู่ซื่อถิง
‘เธอคิดว่าฉันจะสนใจกระดาษของเธอเหรอ?’
‘หรือเธอไม่ได้เขียนวิทยานิพนธ์ แต่กำลังทำอย่างอื่นอยู่?’
เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาของเขา เธอก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตูทันที
“คุณไม่ชอบหนังสือที่ฉันให้คุณขนาดนั้นเลยเหรอ?” เธอถามอย่างระมัดระวัง “อย่าด้อยค่าหนังสือเล่มนี้เชียว นอกจากมันจะมีเนื้อหาที่ดีแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังสอนอะไรอีกมากมาย เช่น วิธีควบคุมร่างกาย ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของฉันและเป็นศาสตราจารย์ที่เก่งมากด้วย”
เธอพูดกับตัวเอง ขณะที่เธอเดินไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วหยิบหนังสือที่ถูกโยนทิ้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังแนะนำอย่างจริงใจเพียงใด ฟู่ซื่อถิงก็ลืมขัดจังหวะเธอไปเลย
“คุณเก็บไว้อ่านตอนเบื่อก็ได้ แต่ต้องอ่านทุกบทเลยนะ” เธอกล่าวเสริม
แม่บ้านจางเอ่ยถามขึ้น "หนังสือเล่มนี้ดีขนาดนั้นจริงเหรอ? สิ่งที่คุณผู้หญิงพูดทำให้ฉันอยากซื้อมาอ่านบ้างสักเล่มเลย"
“พรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อให้ป้าเอง” ฉินอันอันกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม่บ้านจางเอ่ยค้าน "ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ฉันซื้อเองได้"
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ หนังสือเล่มนี้ราคาถูกมาก ฉันเห็นว่าในร้านหนังสือยังมีส่วนลดด้วย เล่มหนึ่งราคาแค่แปดหยวนเอง” หลังจากที่ฉินอันอันบอกราคา รอยยิ้มบนใบหน้าของแม่บ้านจางก็แข็งทื่อเล็กน้อย
แน่นอนว่าแม่บ้านจางไม่ได้ติดเรื่องราคาที่ถูกของหนังสือเล่มนี้ เพียงแต่เธอรู้สึกละอายใจ
‘ฉินอันอันทำให้ฟู่ซื่อถิงโกรธแล้วยังให้หนังสือที่มีราคาต่ำกว่าสิบหยวนแก่เขาอีกเหรอ?’
‘การให้หนังสือลดราคาถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก แต่คุณไม่ควรพูดคำว่า "ส่วนลด" และ "แปดหยวน" ออกมาต่อหน้าเขารึเปล่า?’
ฉินอันอันเองก็ตระหนักได้ว่าบรรยากาศค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย
เธอหายใจเข้าลึก ๆ และหยิบกล่องของขวัญบนโต๊ะขึ้นมาแล้วอธิบายว่า "แต่กล่องของขวัญนี้ราคาไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ! มันแพงกว่าหนังสือเสียอีก!"
แม้ว่ากล่องของขวัญนี้จะแพงกว่าหนังสือ แต่มันก็ไม่น่าจะแพงกว่ากันมากนัก
ป้าจาง "ขอบคุณนะคะคุณผู้หญิง ฉันขอตัวไปเตรียมอาหารเย็นให้คุณผู้ชายก่อนนะคะ"
ฉินอันอันหันกลับไปมองฟู่ซื่อถิง
เขาไม่ได้ดูเคร่งขรึมเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้ว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่โกรธแล้ว แต่เขาไม่มีอารมณ์ที่จะโกรธเธอแล้วมากกว่า
การให้ของขวัญมูลค่า่แปดหยวนแก่เขานั้นอยู่เหลือการคาดหมายเกินไป
เขาปวดหัหนักจนลืมความเจ็บปวดทางใจไปจนหมด
เมื่อเห็นสีหน้าที่สงบของเขา ความตื่นตระหนกในใจเธอก็เพิ่มมากขึ้น
“ฟู่ซื่อถิง ทำไมตอนเที่ยงคุณถึงได้ไปพบศาสตราจารย์หูที่มหาวิทยาลัยของฉัน? คุณป่วยเหรอ?” ฉินอันอันถามด้วยความกังวล
ความสงบบนใบหน้าของฟู่ซื่อถิงหายไปในทันที
ก่อนที่เขาจะทันได้ดุเธอ เธอก็หยิบกล้วยขึ้นมายื่นให้เขา
“กินกล้วยนี่สิ ฉันจะกลับห้องแล้ว”
เธอยัดกล้วยลงในฝ่ามือใหญ่ของเขา ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบอะไร
นิ้วของเธอสัมผัสโดนเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ และทันทีที่ผิวหนังของพวกเขาสัมผัสกัน มันก็เหมือนมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัวเธอ
เธอสะบัดมือหนีทันที แก้มของเธอเริ่มเปลี่ยนสี
ก่อนที่เธอจะทันได้หนีไป เขาก็ได้วางกล้วยลงแล้วคว้าแขนเธอไว้ด้วยมืออันใหญ่โตของตัวเองและดึงเธอเข้าหาตัว
“คุณยังไม่ได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตอนบ่ายเลยนะ” เขากล่าวเบา ๆ
ไม่ว่าของขวัญที่เธอมอบให้เขาคืนนี้จะเป็นหนังสือมูลค่าเพียงแปดหยวนหรือแปดแสนหยวน เธอก็จำเป็นต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่เขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย