“หนูสงสารเขา แล้วใครสงสารหนูบ้าง?” ฉินอันอันวางถ้วยน้ำขิงลงบนเตาแล้วเดินกลับไปที่ห้อง “แม่ เขาไม่เคยให้เกียรติหนูเลย แม้แต่วันเดียวก็ไม่มี”
จางหยุนเอ่ยตอบ “สถานะของลูกกับเขาแตกต่างกันมาก แม่เข้าใจว่าเขาทำตัวหยิ่งผยองต่อลูก ลูกอย่าไปมองอดีตของเขา จงมองปัจจุบันและอนาคตของเขาว่าจะเป็นยังไง?...”
ฉินอันอันขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ “ทำไมแม่ต้องพูดแทนเขาตลอดเวลาเลยคะ? หรือแม่คิดว่าเขาจะใจดีดูแลเราสองคนแม่ลูกได้?”
จางหยุนเงียบไป
“ถึงเสือจะดุร้ายแค่ไหน มันก็ไม่กินลูกตัวเอง เขาต้องมีเหตุผลแน่ ๆ” หลังจากนั้นครู่หนึ่งจางหยุนก็กล่าวต่อ “แม่คิดว่าเขายอมลดศักดิ์ศรีของตัวเองและมาที่นี่เพื่อขอโทษลูก แสดงให้เห็นว่าเขามีลูกอยู่ในใจไม่มากก็น้อย”
ฉินอันอันเอามือปิดหู “แม่ หนูไปนอนก่อนนะคะ หนูปวดหัว”
เมื่อเห็นการพฤติกรรมต่อต้านของเธอ จางหยุนก็พูดอะไรไม่ได้
จางหยุนออกมาจากห้องและคิดว่าจะลงไปบอกให้ฟู่ซื่อถิงกลับไป
หลังจากที่เธอเดินออกมา ฉินอันอันก็ถอนหายใจยาว...
‘ปวดหัวชะมัด’
‘ปวดจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว’
ทุกครั้งที่นึกถึงชื่อเขา ใบหน้าของเขา เธอจะรู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ
ประมาณยี่สิบนาทีต่อมา จางหยุนก็กลับมาจากข้างล่าง
เธอกลับไปที่ห้องและถอนหายใจ เมื่อเห็นใบหน้าที่กำลังหลับไหลของฉินอันอัน
ฟู่ซื่อถิงยังอยู่ข้างล่าง
ไม่ว่าจางหยุนจะพูดอย่างไร เขาก็ไม่ยอมกลับไป
เดิมทีเธออยากให้ลูกสาวลงไปเกลี้ยกล่อม แต่ในเมื่อเธอหลับแล้ว จางหยุนจึงทำได้เพียงปล่อยให้เธอได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
ส่วนฟู่ซื่อถิง
เธอก็ได้แต่ภาวนาขอให้ฝนหยุดเร็ว ๆ
......
ฝนตกตลอดทั้งคืน
โดยเฉพาะช่วงกลางดึก ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นพายุฝน
จางหยุนตื่นขึ้นมาด้วยเสียงฝนกลางดึก เธออยากลงไปดูฟู่ซื่อถิงชั้นล่าง แต่เธอกลัวจะเห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น เธอจึงห้ามตัวเองไม่ให้ลุกจากเตียง
วันรุ่งขึ้น เวลาหกโมงเช้า
จางหยุนสวมเสื้อคลุมแล้วเดินลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
เขตชุมชนค่อนข้างเก่า หลังฝนตกหนักข้ามคืนก็มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่สะสมอยู่หน้าตึก
ฟู่ซื่อถิงไม่อยู่แล้ว
จางหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถ้าหย่ากันได้ก็คงดี
อาจจะวุ่นวายมากกว่าเดิม แต่ยังไงชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป
เวลาสิบเอ็ดโมง
เอสทีกรุ๊ป
เฮ่อจุนจือรีบปรากฏตัวในสำนักงานของประธานที่ชั้นบนสุด
“พี่จื่ออี้ ผมติดต่อพี่ซื่อถิงไม่ได้ ผมก็เลยมาดูที่นี่” เฮ่อจุนจืออาศัยอยู่ใกล้กับตึกเอสที เขาจึงมุ่งหน้ามาที่นี่
โจวจื่ออี้ “ฉันก็ติดต่อเขาไม่ได้เหมือนกัน”
เฮ่อจุนจือขมวดคิ้ว “ต้องเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืนแน่ ๆ ฉินอันอันกับพี่ซื่อถิงทะเลาะกันเมื่อคืนนี้ ผมเดาว่าพวกเขาคงทะเลาะกันรุนแรงอีกรอบหลังจากที่พวกเขากลับไป”
โจวจื่ออี้ค่อนข้างชินกับการที่พวกเขาสองคนทะเลาะกัน
“ฉันได้ยินมาว่าฉินอันอันไปเยี่ยมชมบริษัทหลักทรัพย์ซินเหอเมื่อเช้านี้”
เฮ่อจุนจือ “ใช่ครับ ผมมาที่นี่เพื่อจะคุยเรื่องนี้ ฉินอันอันพาทีมฝ่ายบริหารของเธอไปที่บริษัทหลักทรัพย์ซินเหอ หลังจากทะเลาะกันเมื่อคืน เธอไม่ขายบริษัทให้กับพี่ซื่อถิงแน่”
โจวจื่ออี้รินน้ำให้เฮ่อจุนจือ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าฉินอันอันตัดสินใจที่จะร่วมมือกับถังเฉียวเซินจริง ๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้”
“ผมคิดว่าฉินอันอันทำเกินไป!” เฮ่อจุนจือยังคงยืนหยัดเข้าข้างฟู่ซื่อถิง “พี่ซื่อถิงทำอะไรผิด? เขาแค่โกหกเธอไม่ใช่เหรอ? เหตุผลที่พี่ซื่อถิงขอให้ผมออกตัวแทนก็เพราะเขากลัวว่าเธอจะเย่อหยิง ไม่ยอมรับน้ำใจของเขา...”
โจวจื่ออี้ “จุนจือ นายยังเด็กเกินไป เหตุผลทั้งหมดที่เจ้านายเต็มใจที่จะซื้อฉินกรุ๊ปไม่ได้เป็นเพราะเขาสงสาร ฉินกรุ๊ปไม่ได้แย่อย่างที่คิด แต่มันยังมีอมูลค่าอยู่บ้างต่างหาก”
เฮ่อจุนจือ “หา?”
โจวจื่ออี้ “ฉินอันอันเป็นผู้หญิง เธอจึงอ่อนไหวเป็นพิเศษ เหตุผลที่เธอโกรธไม่ใช่เพราะเธอสนใจเรื่องจำนวนเงินหรอก แต่เป็นเพราะเธอรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย
สนุกมากค่ะ...