ช่วงบ่าย
ที่ตลาดดอกไม้ ฉินอันอันซื้อดอกแดฟโฟดิลไปสองกระถาง
เธออุ้มดอกแดฟโฟดิลไว้แล้วกลับไปที่บ้านเช่าของแม่
ยังไม่ถึงเวลาห้าโมงเย็น พูดตามหลักแล้วจางหยุนน่าจะยังไม่เลิกงาน
แต่ทว่าจางหยุนกลับกำลังวุ่นอยู่ในครัว
“แม่คะ วันนี้เลิกงานเร็วเหรอคะ?” ฉินอันอันเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะ แล้วถือกระถางดอกไม้วางลงบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น
จางหยุนเดินออกมาห้องครัวท่าทางกระดากอายเล็กน้อย
“อันอัน แม่ไม่ได้ทำงานนั้นแล้วล่ะจ้ะ” จางหยุนอธิบาย “ลูกสะใภ้ของพี่สาวแม่เจอพี่เลี้ยงเด็กที่เป็นมืออาชีพมากกว่าแม่แล้ว”
อันอันตอบรับเสียงเบา จากนั้นก็กอดแม่
“แม่ ไม่ต้องเศร้านะคะ”
จางหยุนยิ้ม “แม่ไม่เป็นไรจ้ะ…ทำไมลูกถึงซื้อดอกไม้กลับมาสองกระถางล่ะ?”
ฉินอันอันเหลือบมองบ้านเช่าที่เรียบง่ายแล้วเอ่ยว่า “บังเอิญเดินผ่านตลาดดอกไม้น่ะค่ะเลยซื้อกลับมาสองกระถาง”
“อืม อันอัน ลูกไม่ต้องกังวลเรื่องงานของแม่ ไม่มีงานก็หาใหม่ได้”
“แม่คะ แม่ไม่ต้องหางานแล้ว พักผ่อนอยู่บ้านเถอะค่ะ!” ฉินอันอันพูดพร้อมกับหยิบบัตรธนาคารของเธอออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้แม่ “มีเงินอยู่ในบัตร แม่เอาไปใช้ได้เลย”
จางหยุนผลักบัตรของเธอออก พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อันอัน แม่ใช้เวลาครึ่งชีวิตถึงได้เข้าใจความจริง ความจริงนี้ก็คือ พึ่งพาผู้อื่นไม่เท่าพึ่งพาตัวเอง ต่อให้พรุ่งนี้แม่ต้องไปกวาดถนน ก็ยังดีกว่ายื่นมือไปขอเงินลูก”
เมื่อเห็นแม่พูดอย่างมีเหตุผลและเต็มไปด้วยสัจธรรมแล้ว เธอก็อดหัวเราะไม่ได้ “แม่คะ ลืมเรื่องกวาดถนนเถอะค่ะ ได้ยินว่างานกวาดถนนต้องตื่นตีสี่ตีห้า ตอนนี้อากาศหนาวมาก แม่หางานเบา ๆ ทำเถอะค่ะ!”
จางหยุนหัวเราะไปด้วย “ถ้าหากให้เงินเยอะ ตื่นตีสี่ตีห้าก็ช่างปะไร แม่จะไปทำกับข้าว ลูกนั่งพักก่อนนะ”
ฉินอันอันเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลง หยิบโทรศัพท์ออกมา ก็เห็นข้อความจากหลีเสี่ยวเถียน
หลีเสี่ยวเถียน : อันอัน ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ …เธอคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟู่ซื่อถิงกันแน่? เขายังไม่หายดีเลย แล้วทำไมถึงต้องวิ่งไปหาเธอด้วย? นี่เขากำลังทำตัวเป็นคนรักคลั่งรักอะไรแบบนั้นงั้นเหรอ? ถ้าเขารักเธอจริง ๆ ก็เอาเงินให้เธอเลยสิ! เสแสร้งอะไรอย่างนี้!
ฉินอันอันอ่านคำบ่นของหลีเสี่ยวเถียนแล้ว ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
จากนั้นไม่นาน หลีเสี่ยวเถียนก็ส่งข้อความมาอีก : เฮ่อจุนจือเพิ่งไปเยี่ยมฟู่ซื่อถิง หมอบอกว่าระบบภูมิคุ้มกันของฟู่ซื่อถิงผิดปกติ ทางที่ดีที่สุดคือควรเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แบบนี้มันร้ายแรงมากใช่ไหม?
ฉินอันอัน : ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลถึงจะรู้ว่าร้ายแรงหรือเปล่า
หลีเสี่ยวเถียน : อ้อ…เธอตกหลุมรักถังเฉียวเซินแล้วเหรอ? พวกเขาพากันพูดแบบนี้
ฉินอันอัน : พวกเขานี่มันพวกไหน?
หลีเสี่ยวเถียน : ก็คนรอบ ๆ ตัวฟู่ซื่อถิงพวกนั้นไง! พวกเขาบอกว่าเธอไม่สนใจฟู่ซื่อถิงเพราะว่าเธอตกหลุมรักถังเฉียวเซินไปแล้ว ฉันรู้สึกว่าถังเฉียวเซินหล่อสู้ฟู่ซื่อถิงไม่ได้ หน้าตาของเขาดูกะล่อนจะตาย รู้สึกเหมือนมีแผนการตลอดเวลา
ฉินอันอันที่ใช้เวลาหลายวันมานี้กับถังเฉียวเซินกลับไม่ได้รู้สึกแบบนี้เลย
เธอถาม : แล้วเธอคิดว่าหน้าตาฟู่ซื่อถิงดูซื่อสัตย์มากรึไง?
หลีเสี่ยวเถียน : ช่างเรื่องซื่อสัตย์นั่นเถอะ! อย่างไรฟู่ซื่อถิงก็ไม่กะล่อนไง! หน้าเขาแค่ดุไปหน่อย เธอไม่รู้สึกเหรอว่าผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกับผู้ชายที่ชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัวเป็นแบบนี้หมดเลยน่ะ?
ฉินอันอันดื่มน้ำ แล้วถาม : แล้วเฮ่อจุนจือล่ะ?
หลีเสี่ยวเถียน : เขาอายุน้อยกว่าถังเฉียวเซินและฟู่ซื่อถิงเยอะ เขาก็เป็นแค่หมาป่าตัวน้อย อันอัน ถ้าหากว่าเธอหย่าแล้ว ต่อจากนี้ก็หาผู้ชายอายุน้อยหน่อยเถอะ! อายุน้อยควบคุมง่ายกว่านะ
ฉินอันอัน : ไว้ฉันหย่าสำเร็จแล้วค่อยพูดเถอะ!
หลีเสี่ยวเถียน : เธอเต็มใจหย่ากับฟู่ซื่อถิงจริง ๆ เหรอ?
ฉินอันอัน : มีอะไรให้ไม่เต็มใจล่ะ? ไม่ว่าฉันจะหย่ากับเขาหรือไม่ ฉันก็ไม่มีทางได้ส่วนแบ่งจากทรัพย์สินของเขา
หลีเสี่ยวเถียน : ก็ใช่ คนรวยระดับเขา คนธรรมดาทั่วไปเอาเปรียบเขาไม่ได้หรอก
……
มื้อเย็น
ฉินอันอันวางตะเกียบลงหลังจากกินข้าวไปเพียงไม่กี่คำ
จางหยุน “ทำไมไม่กินแล้วล่ะ? ไม่ถูกปากเหรอ?”
ฉินอันอันขมวดคิ้วเล็กน้อย “แม่คะ ท้องหนูมันเริ่มเห็นชัดแล้ว”
จางหยุนยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ท้องลูกสี่เดือนกว่า กำลังจะห้าเดือนแล้ว ท้องต้องค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นอยู่แล้ว”
ฉินอันอัน “ยังดีนะคะตอนนี้ใส่เสื้อผ้าหลายชิ้น คนอื่นเลยมองไม่ออก”
จางหยุน “อืม…อันอัน แม่คิดดูแล้ว ลูกอยากเรียนต่อปริญญาโทหรือเปล่า ไปเรียนเมืองนอก จะได้ใช้โอกาสตอนเรียนปริญญาโท คลอดลูกที่เมืองนอกเสียเลย”
ฉินอันอันตกตะลึง “แม่คะ ไปเรียนเมืองนอกต้องใช้เงินเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นหนูไม่อยากเรียนปริญญาโทค่ะ หนูอยากทำงานหาเงิน”
จางหยุน “ลูกไม่ต้องกังวลเรื่องเงินหรอก หลายปีมานี้แม่มีเงินฝากอยู่ก้อนหนึ่ง พอส่งลูกไปเรียนปริญญาโทที่เมืองนอกได้เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย