เห็นฝ่ามือของอีกฝ่ายที่กำลังตบเข้ามา เสิ่นเสวี่ยแววตาเยือกเย็น ใช้เท้าเตะเข้าไปอย่างแรง!
บูม!
การเตะครั้งนี้ของเสิ่นเสวี่ย ถูกรับด้วยมือที่ขาวเหมือนหิมะคู่หนึ่ง และมือคู่นี้ ขวางอยู่หน้าชายวัยกลางคน
“เสี่ยวเสวี่ยสมแล้วที่เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นของพวกเราตระกูลเสิ่น เท้านี้ลงไป พี่ใหญ่ของแกคงต้องไปนอนพักบนเตียงสักครึ่งปี”ผู้หญิงที่นั่งข้างผู้อาวุโสไม่รู้ว่ามาปรากฏตัวต่อหน้าชายวัยกลางคนตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรับการเตะของเสิ่นเสวี่ยได้อย่างง่ายดาย และตอนนี้กำลังหัวเราะประชดอยู่
ส่วนชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่กับพื้น มองไปที่เสิ่นเสวี่ยด้วยสีหน้าที่โหดร้าย
เสิ่นเสวี่ยมองไปที่พี่ใหญ่เสิ่นอวู้ที่นั่งอยู่กับพื้น จากนั้นก็มองไปที่ผู้หญิง แล้วพูดอย่างเฉยชาว่า“ฉันไม่ได้มาคุยเล่นกับพวกเธอ เงินล่ะ?”
“ไอ่เนรคุณ!อยากใช้เงินของพวกเราตระกูลเสิ่นไปช่วยลูกเถื่อนของแก แกฝันไปเถอะ!”เสิ่นอวู้ลุกขึ้น ตะโกนด่าไปทางเสิ่นเสวี่ย
ผู้หญิงจ้องไปที่เสิ่นอวู้หนึ่งที “หุบปาก”
สีหน้าของเสิ่นอวู้เปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะสายตาของผู้หญิง กัดฟัน ก้มหน้าลงแล้วพูดว่า“เข้าใจแล้ว ป้าเว่ย”
เวลานี้เอง ผู้อาวุโสที่เดินหมากอยู่อีกด้านหนึ่งก็หันหน้ามา เขามองไปที่เสิ่นเสวี่ย ยิ้มด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน“หลานสาวของฉันล่ะ? ทำไมไม่พามาด้วย?”
ได้ยินผู้อาวุโสพูดแบบนี้ สีหน้าที่เยือกเย็นของเสิ่นเสวี่ยก็เปลี่ยนไปทันที เธอมองไปที่ผู้อาวุโสด้วยแววตาที่หวาดกลัว พูดด้วยอารมณ์อ้อนวอนว่า“หนูจะไปตระกูลโจวตามที่ท่านบอก แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ?”
ผู้อาวุโสยิ้มพร้อมกับส่ายหัว“พูดอะไรเนี่ย พ่อก็แค่อยากเห็นหลานสาวเท่านั้น”
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเสิ่นเสวี่ยก็ขาวซีดขึ้นมาทันที เธอขมิบปากเบาๆ โค้งตัวลงคุกเข่าทันที“หนูขอร้อง ปล่อยลูกสาวหนูไปเถอะ หนูจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง ขอเพียงแค่ท่านปล่อยเถียนเถียนไป”
ผู้อาวุโสเห็นเช่นนี้สีหน้าก็เย็นชาลงทันที มองไปที่เสิ่นเสวี่ยที่คุกเข่าต่อหน้าเขาด้วยแววตาที่เฉยชา แล้วพูดว่า“เดิมทีแกเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเสิ่นแท้ๆ แต่แกกลับไม่รู้ยางอาย……ช่างเถอะ!”
ผู้อาวุโสถอนหายใจ หันหน้ามองไปทางเสิ่นอวู้ พูดว่า“ไป ไปพาหลานสาวคนนั้นของฉันกลับมา บ้านพักคนชราของพวกเราก็ทำการผ่าตัดได้ จะไปเสียเงินที่ไม่จำเป็นนั้นทำไม”
เสิ่นอวู้แสดงสีหน้าที่ดีใจออกมา เขามองไปที่เสิ่นเสวี่ยด้วยความแค้น จากนั้นก็หันตัวเดินจากไป
“อย่า อย่านะ!”
เสิ่นเสวี่ยเงยหน้าขึ้นทันที ตะโกนด้วยความกระวนกระวาย
“ทำไม แกอยากขัดขืนคำสั่งของพ่อเหรอ?”ผู้อาวุโสเห็นเสิ่นเสวี่ยอยากจะลุกขึ้น น้ำเสียงก็เย็นชาลงทันที
ร่างกายของเสิ่นเสวี่ยแข็งทื่อไปหมด กัดฟันไว้แน่น ปิดตาทั้งสองข้างลง คุกเข่าลงกับพื้นอีกครั้ง วินาที่นี้ เธอภาวนาว่าเสิ่นอวู้หาเถียนเถียนไม่เจอ
แต่นั่น เป็นไปได้เหรอ?
ด้วยความสามารถของตระกูลเสิ่น……
เธอไม่กล้าคิดต่อไป
เธอเงยหน้าขึ้นพร้อมกับน้ำตาคลอแล้วมองไปที่ผู้อาวุโส กัดฟันพูดว่า“ทำไม คุณสัญญากับฉันแล้ว ทำไมถึงผิดสัญญา?”
ผู้อาวุโสมองกลับไปที่สนามหมากอีกครั้ง มือหนึ่งถือหมากสีดำ อีกมือถือหมากสีขาว ฟังเสียงประท้วงที่น่าสงสารของเสิ่นเสวี่ย เขาพูดด้วยความเฉยชาว่า“ทำไมเหรอ เพราะเธอทับพื้นหญ้าของฉันไงล่ะ ลูกสาวเอ่ย”
ร่างกายของเสิ่นเสวี่ยแข็งทื่อ แต่มือทั้งสองข้างกลับเกาะเข้าพื้นหญ้าที่อยู่ด้านล่างไว้แน่น
……
“บ้านพักคนชราเมืองจงจิง?”
เห็นสิ่งก่อสร้างสวยงามที่เคียงขุนเขาใกล้แม่น้ำแบบนี้ หยางยี่อ่านข้อความบนป้ายที่ตั้งไว้
“กรุณาออกบัตรแสดงตัวตน”
มองเห็นรถวิบากจอดอยู่หน้าประตู คนคุมประตูจึงเดินขึ้นหน้าไปเช็คดู
เงาสามที่เป็นคนขับรถตอนนี้ไม่ได้สวมหน้ากากไว้ ในตาก็มีความโหดเหี้ยมหนึ่งไหลผ่าน
แต่หยางยี่กลับตบไปที่ไหล่ของเขาเบาๆ จากนั้นก็ลดกระจกลง แล้วพูดว่า“ฉันมาหาเสิ่นเสวี่ย”
คนคุมประตูก็ตกใจ จ้องมองไปที่หยางยี่แล้วพูดว่า“คุณมาหาคุณหนูสาม? อยากทราบว่าคุณคือ?”
หยางยี่คิดๆดู ไม่ได้ให้คำตอบโดยตรง แต่เขาถามกลับว่า“ไม่ทราบว่าเถ้าแก่ของที่นี่คือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชาเทพเสินโจว