ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) นิยาย บท 24

บทที่ 24 ทรยศเพื่อความรุ่งโรจน์

ยามกำลังเดินทางออกจากตระกูลหลิน ซูเฉินไม่ได้มุ่งหน้าไปยังศาลาหยกพิสุทธิ์เป็นอย่างแรก ทว่าเขากลับไปยังตระกูลซูก่อน บาดแผลของเด็กหนุ่มยังไม่หายดี ชุดที่สวมอยู่ยังเป็นชุดข้ารับใช้ที่กู่ชิงลั่วมอบให้ จึงเป็นปกติที่เขาเลือกจะกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดที่เหมาะสมเสียก่อน

เมื่อมาถึงตระกูลซู เพื่อไม่เป็นการทำให้คนในตระกูลตกใจ ซูเฉินจึงเข้าทางประตูหลัง เขาคุ้นเคยกับเส้นทางสายนี้มาก สามารถเดินปิดตาไปได้ ตอนนี้ที่เขากลับมามองเห็นแล้ว ยิ่งสามารถเดินไปตามทางได้อย่างสบายกายสบายใจยิ่งนัก

ซูเฉินเดินทางกลับมายังลานฝึกโดยไม่ทำให้ใครตื่นตกใจแม้แต่คนเดียว

เจี้ยนซินไม่อยู่ ที่ลานฝึกไม่มีคนอยู่เลยสักคน

ซูเฉินเดินเข้าไปยังห้องชั้นใน ดึงผ้าพันแผลชุ่มเลือดและถอดชุดข้ารับใช้ออก มองดูแผลบนร่างของตน

ยาขี้ผึ้งหยกม่วงของตระกูลกู่นั้นได้ผลเหลือเชื่อ บาดแผลเหลือเพียงแต่รอยแผลเป็นเพียงชั่วข้ามคืน ถึงพื้นที่รอบแผลจะยังรู้สึกเจ็บยามขยับร่าง ทว่าก็ไม่ส่งผลต่อเขามากนัก มีเพียงแขนขวาที่ยังเป็นปัญหาซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถรับน้ำหนักได้ อาจต้องพักอีกสักสองสามวันจนกว่าจะหายดี

ในโลกแห่งนี้ มนุษย์ใช้พลังต้นกำเนิดบำเพ็ญตน พลังฟื้นตัวย่อมมีมาก คนเหล่านี้ไม่ค่อยเจ็บป่วย และยิ่งได้ยาช่วย นั่นก็ย่อมหมายถึงตราบเท่าที่บาดแผลไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต คนผู้นั้นจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ถึงกระนั้น ซูเฉินยังคงรู้สึกร้อนใจเมื่อรู้ว่าตนยังต้องใช้เวลาอีกสองสามวันในการฟื้นตัว

เมื่อรู้ว่ารุ่นเยาว์สี่คนของตระกูลหลินมีแผนจะทำสิ่งใด ซูเฉินจึงรู้สึกว่าเวลาเดินเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เขาจำเป็นต้องเพิ่มขั้นความแข็งแกร่งของตนเองให้ทันปีหน้าเสียแล้ว

ตอนที่กำลังคิดเรื่องเหล่านี้อยู่นั่นเอง เด็กหนุ่มพลันได้ยินเสียงคนเดินอยู่ด้านนอก

ตอนนี้ บนร่างซูเฉินไร้สิ่งใดปกปิด ทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล หากถูกพบในสภาพเช่นนี้ย่อมไม่ดีแน่ เคราะห์ดีที่ในห้องมีฉากกั้น ซูเฉินจึงสามารถคว้าชุดตนแล้วหลบไปหลังฉากกั้นได้

ในตอนที่กำลังซ่อนตัวอยู่นั้น มีคนสองคนเดินหัวเราะคิกคักเข้ามา

คนหนึ่งคือเจี้ยนซิน สามปีที่ไม่ได้เห็นหน้าเขา เขาโตขึ้นมาก ชายหนุ่มสวมหมวกสีฟ้า ที่มุมปากยังมีไรหนวดขึ้นให้เห็นอยู่บาง ๆ

อีกคนเป็นสตรีร่างเล็ก สวมชุดเหมือนสาวใช้ ใบหน้ากลมกลึง รูปร่างนับว่างาม ทว่าซูเฉินจำสตรีผู้นี้ไม่ได้ จึงคิดเพียงว่านางเข้ามาในตระกูลหลังจากที่เขาสูญเสียการมองเห็นแล้ว

ทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้องหัวร่อต่อกระซิก ผลักกันไปมา จากนั้นเจี้ยนซินก็อ้าแขนออกกว้างก่อนโผเข้าไปกอดหญิงสาว หญิงสาวหัวเราะอย่างน่าเอ็นดู พยายามหลบอ้อมกอดทว่าไม่ทัน เจี้ยนซินคว้าร่างนางไว้ จากนั้นกดร่างนางลงกับเตียงไม้จันทน์สลักลายมังกรด้วยงาสัตว์ของซูเฉิน

เป็นคู่รักผิดกฎตระกูลนี่เอง ซูเฉินคิดในใจ

เขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลมาเป็นเวลานาน ถึงจะมีอายุเพียงสิบห้าปี ซูเฉินก็เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนหลายครา และด้วยการที่เขาเป็นเด็กตาบอด ประสาทการรับเสียงของเขายิ่งดีมากขึ้นหลังจากดวงตามืดบอดไป เมื่อการรับรู้เสียงเฉียบคม จึงสามารถได้ยินสิ่งที่ผู้อื่นไม่อาจได้ยิน

เรื่องราวของความสัมพันธ์ลับไม่ใช่เรื่องหายาก แต่ละสำนัก จวน ตระกูล หรือคฤหาสน์ ไม่ว่าที่ใดต่างก็มีเรื่องเหล่านี้ หยานหวู่ชวงเองก็เพิ่งลงโทษคู่รักคู่หนึ่งไปเมื่อไม่นานมานี้ด้วยความผิดฐานเดียวกัน ทว่าเขาคิดไม่ถึงว่าเจี้ยนซินเองก็จะทำเช่นนั้นด้วย แถมยังพากันมาพลอดรักกันในห้องของเขาอีก

ถึงซูเฉินจะใจดีถึงเพียงไหน สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกพอใจนัก

ทว่าคนทั้งคู่ได้ตกลงสู่ห้วงแห่งความเร่าร้อนเสียแล้ว ทั้งสองลงไปนอนกลิ้งเกลือกหยอกเย้ากันอยู่บนเตียง

ซูเฉินไม่คิดว่าหลังจากที่เมื่อวานได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของกู่ชิงลั่วแล้ว วันนี้นัยน์ตาที่เพิ่งหายดียังอุตส่าห์ได้รับการรักษาที่ดีเลิศกลับได้เห็นภาพเร้าอารมณ์เช่นนี้อีก ใจของซูเฉินร้อนรุ่มขึ้นทันที ทว่าเขาทำได้เพียงกดอารมณ์นั้นลงไปและเฝ้ารอ ได้แต่พึมพำกับตนเองเสียงกระซิบว่าครั้งหน้าจะต้องสั่งสอนเจ้าบ้าเจี้ยนซินให้ได้

สุดท้าย ถึงทั้งคู่จะยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวอันเร่าร้อน ทว่าก็ไม่อาจควบคุมตนได้มาก ไม่นานเจี้ยนซินก็อดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป

หญิงสาวเพิ่งจวนจะแตะถึงอารมณ์หมาย รู้สึกพึงพอใจยิ่ง ทว่ากลับพบว่าอีกฝ่ายกลับปลดปล่อยออกมาเสียแล้ว นางอดรู้สึกเคืองใจไม่ได้ ผลักเจี้ยนซินออก “เจ้านี่ไม่ได้เรื่องเลยจริงเชียว”

เจี้ยนซินหัวร่อ “เป็นเพราะข้าไม่ได้เจอเจ้ามาตั้งนาน ข้าก็เลยอดทนรอไม่ไหวอีก แต่อย่ากังวลไป เมื่อไหร่ที่พละกำลังอันน่าประทับใจของพี่ชายคนนี้กลับมา ข้าจะให้เจ้าได้สัมผัสถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดเป็นแน่”

หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ “เช่นนั้นเจ้าเจี้ยนซินน้อยจอมขี้เกียจก็ต้องทำงานหนักเสียแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)